xs
xsm
sm
md
lg

ตอลิบานโจมตีกรุงคาบูล20ชม. กว่านาโต้-อัฟกันจะปราบสำเร็จ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รอยเตอร์/เอเอฟพี - เหตุโจมตีย่านสำนักงานทูตานุทูตของกรุงคาบูล ยุติลงเมื่อวานนี้(14) ด้วยการสิ้นชีพของผู้ก่อเหตุ 2 คนสุดท้ายที่เหลืออยู่ ภายหลังที่ยืดเยื้อมาร่วมๆ 20 ชั่วโมง โดยที่คนร้ายพวกนี้ซึ่งสังกัดอยู่กับตอลิบาน ได้ใช้จรวดอาร์พีจีระดมยิงใส่สถานเอกอัครราชทูตของสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ตลอดจนกองบัญชาการทหารนาโต้ อันเป็นการแสดงให้เห็นความเข้มแข็งของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในอัฟกานิสถานกลุ่มนี้

การโจมตีของพวกหัวรุนแรงต่อเมืองหลวงอัฟกานิสถานคราวนี้ ถือเป็นครั้งที่ยาวนานที่สุดและฮึกห้าวบ้าบิ่นที่สุดในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่ที่ระบอบปกครองตอลิบานถูกขับออกจากอำนาจ นอกจากนั้นยังเป็นการย้ำเตือนอย่างโต้งๆ ให้เห็นว่าผู้ก่อความไม่สงบกลุ่มนี้มีทรัพยากรและแผ่อิทธิพลบารมีไปได้กว้างไกลขนาดไหน ในขณะที่กองกำลังทหารของฝ่ายตะวันตกกำลังเริ่มทยอยถอนตัวกลับบ้าน

กองทหารต่างชาติที่นำโดยนาโต้แถลงว่า การโจมตีคราวนี้มีพลเรือนเสียชีวิตไปอย่างน้อย 11 คน โดยที่ 3 คนเป็นเด็ก และมีทหารต่างชาติบาดเจ็บ 6 คน ขณะที่กระทรวงมหาดไทยของอัฟกานิสถานแจ้งว่า มีตำรวจตายไป 4 คน แต่ตัวเลขขั้นสุดท้ายน่าจะสูงขึ้นกว่านี้อีก

ทางด้าน เอกอัครราชทูต ไรอัน คร็อกเกอร์ ของสหรัฐฯ แถลงว่า จรวดอาร์พีจีที่พวกคนร้ายระดมยิงเข้ามาในช่วงชั่วโมงแรกๆ ของการโจมตี ได้ตกภายในบริเวณสถานเอกอัครราชทูตของเขา 6 ถึง 7 ลูก แต่เนื่องด้วยยิงมาจากระยะค่อนข้างไกล จึงไม่ได้เป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงอะไร

“พวกเขายิงมาจากระยะห่างอย่างน้อย 800 เมตร และยิงด้วยอาร์พีจี นี่จึงเป็นเพียงการก่อกวน นี่ไม่ใช่การโจมตีอะไรหรอก” เขากล่าวในคำให้สัมภาษณ์ ซึ่งทางสถานทูตจัดทำเป็นเอกสารสำเนามาแจกจ่ายให้พวกผู้สื่อข่าวในกรุงคาบูล

คนร้ายเหล่านี้ได้บุกเข้าไปยึดอาคารสูง 13 ชั้นหลังหนึ่งที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และใช้เป็นที่มั่นในการระดมยิงอาร์พีจีใส่สถานเอกอัครราชทูตของสหรัฐฯ และของประเทศอื่นๆ ตลอดจนกองบัญชาการของกองทหารต่างชาติที่นำโดยนาโต้

นอกจากนั้นยังมีมือระเบิดฆ่าตัวตายอีก 3 คน ที่ออกปฏิบัติการยังเป้าหมายที่เป็นอาคารของตำรวจหลายๆ แห่งตามส่วนอื่นๆ ของกรุงคาบูล ทว่าจุดโจมตีสำคัญที่สุดและเกิดการต่อสู้ดุเดือดที่สุดคือย่านสำนักงานทูตานุทูต

กองกำลังความมั่นคงของอัฟกานิสถานซึ่งได้รับความสนับสนุนจากนาโต้ ตลอดจนเฮลิคอปเตอร์โจมตีหลายลำ ได้ทำการต่อสู้ชนิดไล่ล่ากันทีละชั้นในอาคารสูง 13 ชั้นดังกล่าว กับคนร้ายที่มีด้วยกัน 6 คน โดยที่คนร้ายเหล่านี้ดูจะวางกับระเบิดดักเอาไว้หลายจุด

คนร้ายเหล่านี้เปิดฉากการโจมตีในช่วงประมาณบ่ายโมงครึ่งวันอังคาร(13) พวกเขาเดินทางไปยังอาคารดังกล่าว ด้วยการแต่งกายสวมชุดคลุมยาวที่เปิดให้เห็นแต่ดวงตา (บุรก้า) ของสตรีมุสลิม ขณะที่ในรถยนต์คันที่พวกเขานั่งก็ก็อัดแน่นด้วยวัตถุระเบิด พวกเขายิงใส่ยามรักษาการณ์ผู้หนึ่ง จากนั้นจึงเข้าไปภายในอาคาร

โฆษกตอลิบานผู้หนึ่งให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ว่า สมาชิกของพวกเขากลุ่มนี้มีอาวุธคือจรวดอาร์พีจี, ปืนอาก้า, และเข็มขัดระเบิดฆ่าตัวตาย แต่จากการที่พวกเขาสามารถตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ปราบปรามได้ยืดเยื้อเช่นนี้ ทำให้คาดเดากันว่า น่าจะมีอาวุธที่ซุกซ่อนเอาไว้ในอาคารก่อนแล้วอีกจำนวนหนึ่ง

เอกอัครราชทูตคร็อกเกอร์บอกว่า เขาเชื่อว่าเครือข่ายฮักกอนี (Haqqani) คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีคราวนี้ ตลอดจนเป็นผู้รับผิดชอบการก่อเหตุด้วยรถบรรทุกบรรจุระเบิด ซึ่งทำให้ทหารอเมริกันบาดเจ็บ 77 คนเมื่อวันเสาร์(10)ที่ผ่านมา

เครือข่ายฮักกอนี ซึ่งตั้งตามชื่อผู้นำที่มีนามว่า จาลาลุดดีน ฮักกอนี เป็น 1 ใน 3 เครือข่ายสำคัญของตอลิบาน เชื่อกันว่าฮักกอนีเป็นพวกที่นำวิธีระเบิดฆ่าตัวตายเข้ามาใช้ในอัฟกานิสถาน และเป็นตัวการก่อเหตุโจมตีอย่างเอิกเกริกอีกหลายครั้งในกรุงคาบูลในอดีตที่ผ่านมา
กำลังโหลดความคิดเห็น