ASTVผู้จัดการรายวัน - AP เผยยอดขาย 8 เดือน 10,600 ล้านบาท ไตรมาส 4 เร่งเปิด 7 โครงการใหม่มูลค่า 9,190 ล้านบาทหวังกวาดยอดขายทั้งปีตามเป้า 20,000 ล้านบาท ฟุ้งแบ็กล็อกตุนในมือ 28,000 ล้านบาท รับรู้ครึ่งปีหลัง 10,300 ล้านบาท พร้อมทุ่ม 80 ล้านบาท โฆษณานวัตกรรมดีไซน์ฟังก์ชันการใช้งานภายในบ้าน
นายวิทการ จันทวิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์การตลาด บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันที่ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น จากการแข่งขันของผู้ประกอบการรายใหญ่ที่พัฒนาสินค้าที่มีความหลากหลายทั้งราคาและรูปแบบเข้าสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ดังนั้น ผู้ประกอบการจะเติบโตได้อย่างยั่งยืนนั้นนอกจากเรื่องทำเลและการมีสินค้าที่หลากหลายทั้งประเภทและราคาแล้ว ต้องมีจุดแข็งที่ชัดเจน และเหมาะสมกับความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย
ทั้งนี้ จากการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคพบว่า ปัจจัยที่ 2 ในการพิจารณาซื้อ ลูกค้าจะเปรียบเทียบระหว่างราคาขายกับฟังก์ชั่นการใช้งานร่วมกัน เพื่อให้โครงการที่เลือกคุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างแท้จริง บริษัทจึงได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ (Innovative Thinking) ในการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมดีไซน์ให้มีความพิเศษและแตกต่าง เป็นความสวยงามที่ใช้ได้จริงและเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย ที่สำคัญงานดีไซน์ต้องไม่เป็นเรื่องฉาบฉวยหรือเป็นภาระในระยะยาวแก่ผู้อยู่ ซึ่งจากแนวคิดดังกล่าวทำให้โครงการของบริษัททั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และคอนโดมิเนียมทั้ง 11 แบรนด์ ได้รับการยอมรับและประสบความสำเร็จทางยอดขาย
ดังนั้น เพื่อเป็นการตอกย้ำการสร้างสรรค์นวัตกรรมดีไซน์ที่เติมเต็มการใช้ชีวิตในเมืองให้ดียิ่งขึ้น บริษัทฯ จึงได้จัดทำคอร์ปเปอร์เรทแคมเปญภายใต้คอนเซ็ปต์ Innovation Fulfills Happiness โดยใช้งบประมาณ 80 ล้านบาทไปจนถึงสิ้นปีโดยสื่อสารผ่าน Mass Media ต่างๆ ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ บิลบอร์ดและภาพยนตร์โฆษณาซึ่งจะเริ่มออกอากาศในวันที่ 16 กันยายนนี้ นำเสนอเรื่องราวการพัฒนาทางความคิดของ AP ที่เกิดเป็นฟังก์ชั่นใหม่ๆ ซึ่งนำไปสู่รูปแบบการใช้ชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
สำหรับผลการดำเนินงายในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาบริษัทฯ มียอดขายรวม 10,600 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายทั้งปี 20,000 ล้านบาท มีสินค้าที่อยู่ระหว่างการขายรวมทั้งสิ้น 41 โครงการ มูลค่าประมาณ 26,800 ล้านบาท และเตรียมเปิดตัวใหม่ ในไตรมาส 4 อีกจำนวน 7 โครงการ มูลค่าประมาณ 9,190 ล้านบาท รวมงานในมือ ณ สิ้นปีทั้งสิ้น 48 โครงการ มูลค่ารวม 35,990 ล้านบาท ซึ่งครอบคลุมประเภทสินค้าทั้งคอนโดมิเนียม ทาวน์เฮาส์ โฮมออฟฟิศ และบ้านเดี่ยว ราคาขายที่กระจายตั้งแต่ 2 ล้านบาทจนถึง 20 ล้านบาท ซึ่งทุกโครงการล้วนมีจุดแข็งเรื่องฟังก์ชั่นดีไซน์ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของตลาดแทบทั้งสิ้น
ปัจจุบันบริษัทฯ มีสินค้าที่ขายไปแล้วรอส่งมอบ (Backlog) รวมมูลค่ากว่า 28,000 ล้านบาท เป็นแนวราบมูลค่า 4,800 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในครึ่งปีหลัง และคอนโดมิเนียมมูลค่า 23,200 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะส่งมอบในช่วงครึ่งปีหลังประมาณ 5,500 ล้านบาท รวมสินค้าที่ส่งมอบในปีนี้ประมาณ 10,300 ล้านบาท โดยในไตรมาส 4 บริษัทฯ จะมีคอนโดมิเนียมก่อสร้างเสร็จเพิ่มอีก 1 โครงการ คือ The Address สุขุมวิท 28 โดยในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทฯ ส่งมอบสินค้าไปแล้ว 6,213 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าจากการจัดทำคอร์ปเปอร์เรทแคมเปญในครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลให้ผลการดำเนินงานประสบความสำเร็จตามแผนที่คาดหมายไว้
“แกรนด์ คาแนล ดอนเมือง”เร่งยอดบ้านหรู
สำหรับความเคลื่อนไหวของโครงการบ้านหรูอย่าง โครงการ“แกรนด์ คาแนล ดอนเมือง” ของบริษัท แกรนด์ ฟอร์จูน จำกัด ธุรกิจในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มกฤต รัตนรักษ์ ทยอยออกแคมเปญกระตุ้นยอดขายโครงการหรูดังกล่าว ซึ่งระดับราคาจะสูงเกินกว่า 5 ล้านบาทขึ้นจนไปถึง 15 กว่าล้านบาท มอบโปรโมชันสุดพิเศษตลอดเดือนก.ย.นี้ อาทิ เฟอร์นิเจอร์บิวอินแบรนด์โมเดอร์นฟอร์ม แอร์ วอร์เปเปอร์ และหากจอง Venetian Villa ราคาเริ่มต้นเพียง 6.8 ล้าน รับโอนกรรมสิทธิ์ภายในเวลาที่กำหนด ฟรี LED TV 32”
อย่างไรก็ตาม การจองซื้อบ้านหรูในโครงการ ลูกค้าต้องปฎิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด เช่น หากเป็นบ้านหรูไม่ติดริมน้ำ ต้องวางเงินจอง 50,000 บาท ภายใน 15 วัน ทำสัญญา 1 แสนบาท และผ่อนดาวน์ 3 งวด ในอัตรา 15% ของราคาบ้านที่เหลือ แต่หากเป็นบ้านหรูติดริมน้ำ ต้องวางเงินจอง 1 แสนบาท ทำสัญญา 2 แสนบาท และผ่อนดาวน์ 30% (ตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย) ซึ่งในเรื่องของสถาบันการเงิน ทางโครงการเป็นพันธมิตรกับธนาคารกรุงศรีอยุธยาฯและธนาคารไทยพาณิชย์ โดยทางโครงการไม่มีสิทธิ์พิเศษเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย และลูกค้าต้องเจรจากับสถาบันการเงินก่อน หากกู้ไม่ผ่าน จะไม่มีการคืนเงินจอง.
นายวิทการ จันทวิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์การตลาด บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันที่ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น จากการแข่งขันของผู้ประกอบการรายใหญ่ที่พัฒนาสินค้าที่มีความหลากหลายทั้งราคาและรูปแบบเข้าสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ดังนั้น ผู้ประกอบการจะเติบโตได้อย่างยั่งยืนนั้นนอกจากเรื่องทำเลและการมีสินค้าที่หลากหลายทั้งประเภทและราคาแล้ว ต้องมีจุดแข็งที่ชัดเจน และเหมาะสมกับความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย
ทั้งนี้ จากการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคพบว่า ปัจจัยที่ 2 ในการพิจารณาซื้อ ลูกค้าจะเปรียบเทียบระหว่างราคาขายกับฟังก์ชั่นการใช้งานร่วมกัน เพื่อให้โครงการที่เลือกคุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างแท้จริง บริษัทจึงได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ (Innovative Thinking) ในการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมดีไซน์ให้มีความพิเศษและแตกต่าง เป็นความสวยงามที่ใช้ได้จริงและเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย ที่สำคัญงานดีไซน์ต้องไม่เป็นเรื่องฉาบฉวยหรือเป็นภาระในระยะยาวแก่ผู้อยู่ ซึ่งจากแนวคิดดังกล่าวทำให้โครงการของบริษัททั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และคอนโดมิเนียมทั้ง 11 แบรนด์ ได้รับการยอมรับและประสบความสำเร็จทางยอดขาย
ดังนั้น เพื่อเป็นการตอกย้ำการสร้างสรรค์นวัตกรรมดีไซน์ที่เติมเต็มการใช้ชีวิตในเมืองให้ดียิ่งขึ้น บริษัทฯ จึงได้จัดทำคอร์ปเปอร์เรทแคมเปญภายใต้คอนเซ็ปต์ Innovation Fulfills Happiness โดยใช้งบประมาณ 80 ล้านบาทไปจนถึงสิ้นปีโดยสื่อสารผ่าน Mass Media ต่างๆ ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ บิลบอร์ดและภาพยนตร์โฆษณาซึ่งจะเริ่มออกอากาศในวันที่ 16 กันยายนนี้ นำเสนอเรื่องราวการพัฒนาทางความคิดของ AP ที่เกิดเป็นฟังก์ชั่นใหม่ๆ ซึ่งนำไปสู่รูปแบบการใช้ชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
สำหรับผลการดำเนินงายในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาบริษัทฯ มียอดขายรวม 10,600 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายทั้งปี 20,000 ล้านบาท มีสินค้าที่อยู่ระหว่างการขายรวมทั้งสิ้น 41 โครงการ มูลค่าประมาณ 26,800 ล้านบาท และเตรียมเปิดตัวใหม่ ในไตรมาส 4 อีกจำนวน 7 โครงการ มูลค่าประมาณ 9,190 ล้านบาท รวมงานในมือ ณ สิ้นปีทั้งสิ้น 48 โครงการ มูลค่ารวม 35,990 ล้านบาท ซึ่งครอบคลุมประเภทสินค้าทั้งคอนโดมิเนียม ทาวน์เฮาส์ โฮมออฟฟิศ และบ้านเดี่ยว ราคาขายที่กระจายตั้งแต่ 2 ล้านบาทจนถึง 20 ล้านบาท ซึ่งทุกโครงการล้วนมีจุดแข็งเรื่องฟังก์ชั่นดีไซน์ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของตลาดแทบทั้งสิ้น
ปัจจุบันบริษัทฯ มีสินค้าที่ขายไปแล้วรอส่งมอบ (Backlog) รวมมูลค่ากว่า 28,000 ล้านบาท เป็นแนวราบมูลค่า 4,800 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในครึ่งปีหลัง และคอนโดมิเนียมมูลค่า 23,200 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะส่งมอบในช่วงครึ่งปีหลังประมาณ 5,500 ล้านบาท รวมสินค้าที่ส่งมอบในปีนี้ประมาณ 10,300 ล้านบาท โดยในไตรมาส 4 บริษัทฯ จะมีคอนโดมิเนียมก่อสร้างเสร็จเพิ่มอีก 1 โครงการ คือ The Address สุขุมวิท 28 โดยในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทฯ ส่งมอบสินค้าไปแล้ว 6,213 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าจากการจัดทำคอร์ปเปอร์เรทแคมเปญในครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลให้ผลการดำเนินงานประสบความสำเร็จตามแผนที่คาดหมายไว้
“แกรนด์ คาแนล ดอนเมือง”เร่งยอดบ้านหรู
สำหรับความเคลื่อนไหวของโครงการบ้านหรูอย่าง โครงการ“แกรนด์ คาแนล ดอนเมือง” ของบริษัท แกรนด์ ฟอร์จูน จำกัด ธุรกิจในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มกฤต รัตนรักษ์ ทยอยออกแคมเปญกระตุ้นยอดขายโครงการหรูดังกล่าว ซึ่งระดับราคาจะสูงเกินกว่า 5 ล้านบาทขึ้นจนไปถึง 15 กว่าล้านบาท มอบโปรโมชันสุดพิเศษตลอดเดือนก.ย.นี้ อาทิ เฟอร์นิเจอร์บิวอินแบรนด์โมเดอร์นฟอร์ม แอร์ วอร์เปเปอร์ และหากจอง Venetian Villa ราคาเริ่มต้นเพียง 6.8 ล้าน รับโอนกรรมสิทธิ์ภายในเวลาที่กำหนด ฟรี LED TV 32”
อย่างไรก็ตาม การจองซื้อบ้านหรูในโครงการ ลูกค้าต้องปฎิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด เช่น หากเป็นบ้านหรูไม่ติดริมน้ำ ต้องวางเงินจอง 50,000 บาท ภายใน 15 วัน ทำสัญญา 1 แสนบาท และผ่อนดาวน์ 3 งวด ในอัตรา 15% ของราคาบ้านที่เหลือ แต่หากเป็นบ้านหรูติดริมน้ำ ต้องวางเงินจอง 1 แสนบาท ทำสัญญา 2 แสนบาท และผ่อนดาวน์ 30% (ตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย) ซึ่งในเรื่องของสถาบันการเงิน ทางโครงการเป็นพันธมิตรกับธนาคารกรุงศรีอยุธยาฯและธนาคารไทยพาณิชย์ โดยทางโครงการไม่มีสิทธิ์พิเศษเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย และลูกค้าต้องเจรจากับสถาบันการเงินก่อน หากกู้ไม่ผ่าน จะไม่มีการคืนเงินจอง.
