ASTVผู้จัดการรายวัน-“กิตติศักดิ์”เร่งแก้ปัญหาแอร์พอร์ตลิ้งค์ คลอดมาตรการระยะสั้น ปรับความถี่รถ City Line เหลือ10 นาที/ขบวน โดยใช้รถขบวน Express วิ่งช่วยเช้า-เย็น ลดแออัด คาดเพิ่มจำนวนผู้โดยสารจาก 1 ล้านเป็น 2 ล้านคน/เดือน ประกาศล้างมาเฟียกินหัวคิวแท็กซี่ ยันมักกะสันแท็กซี่รับผู้โดยสารไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมจัดรถ ชัตเตอร์บัส วิ่งเวียนเชื่อมโรงแรมใหญ่
และรถกอล์ฟเชื่อสถานีเพชรบุรี ( MRT) ยัน 1-2 เดือนมีร้านค้าที่สถานีมักกะสันแน่นอน
นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาโครงการแอร์พอร์ตลิ้งค์ ว่า ขณะนี้ได้ให้ผู้บริหารบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด เร่งสรุปการแก้ปัญหาต่างๆ ในการให้บริการ ซึ่งจะเป็นมาตรการระยะสั้นเพื่อแก้ปัญหาแบบเร่งด่วน โดยแนวทางจะเน้นในเรื่องการปรับปรุงบริการเพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้โดยสารเป็นหลัก เช่น ปรับเพิ่มความถี่การให้บริการขบวนรถรถไฟฟ้าธรรมดา (City Line) ในช่วงเช้าและเย็นที่มีผู้โดยสารใช้เป็นจำนวนมาก จาก 15 นาทีต่อขบวน เป็น 10 นาทีต่อขบวน โดยเบื้องต้นมีแนวคิดที่จะนำขบวน Express Line มาช่วยวิ่งเพื่อลดความแออัด ซึ่งคาดว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนผู้โดยสารจากปัจจุบัน 1 ล้านคนต่อเดือน เป็น 2 ล้านคนต่อเดือน จากขีดความสามารถการรองรับผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นถึง 3 ล้านคนต่อเดือน
"ได้ให้ศึกษาเรื่องการจัดซื้อขบวนรถเพิ่มเติมด้วย เนื่องจากจำนวนที่มีอยู่ในขณะนี้ คือ ขบวนรถไฟฟ้า Express Line จำนวน 12 คัน (4 ขบวน) และขบวนรถไฟฟ้า City Line จำนวน 15 คัน (5 ขบวน) นั้น น้อยเกินไป ไม่สามารถบริหารจัดการเพื่อเพิ่มความสะดวกและเพิ่มจำนวนผู้โดยสารได้"
นอกจากนี้ ยังขอให้เพิ่มมาตรการด้านการตลาด เช่น จัดบริการรถชัตเตอร์บัส (รถเวียน) วิ่งรับส่งผู้โดยสารระหว่างสถานีมักกะสันกับโรงแรมใหญ่ ในย่านใกล้เคียงในลักษณะการวิ่งเป็นวงกลม โดยให้ประสานกับโรงแรมเพื่อจัดทำตารางการเดินรถและจุดรับส่งที่เหมาะสม โดยให้เช่ารถมาวิ่งให้บริการและช่วงแรก (3-6 เดือน) จะเป็นการให้บริการฟรีหรือหากต้องเก็บค่าโดยสารจะกำหนดต่ำที่สุด เช่น ไม่เกิน 20 บาทเพื่อเป็นการจูงใจ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีบริการชัตเตอร์บัส เก็บค่าโดยสารสูงถึง 200 บาทต่อคนทำให้ไม่มีผู้โดยสารสนใจใช้บริการ และในระยะต่อไปยังสามารถหารายได้จากโฆษณาบนรถชัตเตอร์บัสได้อีกด้วย
รวมถึงการเร่งเปิดร้านค้าภายในสถานีมักกะสันภายใน 1-2 เดือน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางและเพิ่มจำนวนผู้โดยสารที่มักกะสันให้มากขึ้น โดยจะเป็นร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าโอทอปและร้านศิลปาชีพเพื่อช่วยส่งเสริมรายได้ให้กับประชาชนทั่วประเทศ และหลังจากนั้นจะให้สายการบินต่างๆ เข้ามาเปิดเคาน์เตอร์ให้บริการระบบเช็คอินกระเป๋า (City Air Terminal :CAT) และให้จัดบริการรถกอล์ฟวิ่งบริการรับส่งผู้โดยสารเชื่อมระหว่างสถานีมักกะสันของแอร์พอร์ตลิ้งค์กับสถานีเพชรบุรี ของรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT)
นายกิตติศักดิ์กล่าวว่า ในส่วนของบริการรถแท็กซี่ ซึ่งทราบว่าไม่นิยมวิ่งเข้าไปรับผู้โดยสารที่สถานีมักกะสัน ทำให้ผู้โดยสารที่ต้องการใช้บริการไม่ได้รับความสะดวก ซึ่งมีข้อมูลว่า สาเหตุที่แท็กซี่ไม่วิ่งเข้าไป เนื่องจากมีการเรียกเก็บค่าหัวคิวเหมือนที่สนามบินสุวรรณภูมิ ดังนั้น จึงได้สั่งการให้ผู้บริการแอร์พอร์ตลิ้งค์เร่งแก้ไขเรื่องนี้ โดยยืนยันว่ารถแท็กซี่สามารถวิ่งเข้าไปรับส่งผู้โดยสารได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น และหากมีการเรียกเก็บสามารถร้องเรียนได้ทันที โดยให้เจ้าหน้าที่ของแอร์พอร์ตลิ้งค์ลงไปบริหารจัดการคิวรถแท็กซี่ให้เป็นธรรมกับแท็กซี่และให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวก
“มาตรการต่างๆ เป็นการแก้ปัญหาระยะสั้นระหว่างรอการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะแล้วเสร็จกลางปี 2555 โดยให้ศึกษาความเป็นไปได้ด้านเทคนิค และการเพิ่มความถี่ขบวน City Line โดยใช้ขบวน Express มาช่วยวิ่งนั้นหลักการจะต้องไม่ลดเที่ยววิ่งของ ขบวน Express ลง โดยให้สรุปผลเสนอภายในสัปดาห์หน้า จากนั้นจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 ก.ย. “นายกิตติศักดิ์กล่าว
และรถกอล์ฟเชื่อสถานีเพชรบุรี ( MRT) ยัน 1-2 เดือนมีร้านค้าที่สถานีมักกะสันแน่นอน
นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาโครงการแอร์พอร์ตลิ้งค์ ว่า ขณะนี้ได้ให้ผู้บริหารบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด เร่งสรุปการแก้ปัญหาต่างๆ ในการให้บริการ ซึ่งจะเป็นมาตรการระยะสั้นเพื่อแก้ปัญหาแบบเร่งด่วน โดยแนวทางจะเน้นในเรื่องการปรับปรุงบริการเพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้โดยสารเป็นหลัก เช่น ปรับเพิ่มความถี่การให้บริการขบวนรถรถไฟฟ้าธรรมดา (City Line) ในช่วงเช้าและเย็นที่มีผู้โดยสารใช้เป็นจำนวนมาก จาก 15 นาทีต่อขบวน เป็น 10 นาทีต่อขบวน โดยเบื้องต้นมีแนวคิดที่จะนำขบวน Express Line มาช่วยวิ่งเพื่อลดความแออัด ซึ่งคาดว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนผู้โดยสารจากปัจจุบัน 1 ล้านคนต่อเดือน เป็น 2 ล้านคนต่อเดือน จากขีดความสามารถการรองรับผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นถึง 3 ล้านคนต่อเดือน
"ได้ให้ศึกษาเรื่องการจัดซื้อขบวนรถเพิ่มเติมด้วย เนื่องจากจำนวนที่มีอยู่ในขณะนี้ คือ ขบวนรถไฟฟ้า Express Line จำนวน 12 คัน (4 ขบวน) และขบวนรถไฟฟ้า City Line จำนวน 15 คัน (5 ขบวน) นั้น น้อยเกินไป ไม่สามารถบริหารจัดการเพื่อเพิ่มความสะดวกและเพิ่มจำนวนผู้โดยสารได้"
นอกจากนี้ ยังขอให้เพิ่มมาตรการด้านการตลาด เช่น จัดบริการรถชัตเตอร์บัส (รถเวียน) วิ่งรับส่งผู้โดยสารระหว่างสถานีมักกะสันกับโรงแรมใหญ่ ในย่านใกล้เคียงในลักษณะการวิ่งเป็นวงกลม โดยให้ประสานกับโรงแรมเพื่อจัดทำตารางการเดินรถและจุดรับส่งที่เหมาะสม โดยให้เช่ารถมาวิ่งให้บริการและช่วงแรก (3-6 เดือน) จะเป็นการให้บริการฟรีหรือหากต้องเก็บค่าโดยสารจะกำหนดต่ำที่สุด เช่น ไม่เกิน 20 บาทเพื่อเป็นการจูงใจ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีบริการชัตเตอร์บัส เก็บค่าโดยสารสูงถึง 200 บาทต่อคนทำให้ไม่มีผู้โดยสารสนใจใช้บริการ และในระยะต่อไปยังสามารถหารายได้จากโฆษณาบนรถชัตเตอร์บัสได้อีกด้วย
รวมถึงการเร่งเปิดร้านค้าภายในสถานีมักกะสันภายใน 1-2 เดือน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางและเพิ่มจำนวนผู้โดยสารที่มักกะสันให้มากขึ้น โดยจะเป็นร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าโอทอปและร้านศิลปาชีพเพื่อช่วยส่งเสริมรายได้ให้กับประชาชนทั่วประเทศ และหลังจากนั้นจะให้สายการบินต่างๆ เข้ามาเปิดเคาน์เตอร์ให้บริการระบบเช็คอินกระเป๋า (City Air Terminal :CAT) และให้จัดบริการรถกอล์ฟวิ่งบริการรับส่งผู้โดยสารเชื่อมระหว่างสถานีมักกะสันของแอร์พอร์ตลิ้งค์กับสถานีเพชรบุรี ของรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT)
นายกิตติศักดิ์กล่าวว่า ในส่วนของบริการรถแท็กซี่ ซึ่งทราบว่าไม่นิยมวิ่งเข้าไปรับผู้โดยสารที่สถานีมักกะสัน ทำให้ผู้โดยสารที่ต้องการใช้บริการไม่ได้รับความสะดวก ซึ่งมีข้อมูลว่า สาเหตุที่แท็กซี่ไม่วิ่งเข้าไป เนื่องจากมีการเรียกเก็บค่าหัวคิวเหมือนที่สนามบินสุวรรณภูมิ ดังนั้น จึงได้สั่งการให้ผู้บริการแอร์พอร์ตลิ้งค์เร่งแก้ไขเรื่องนี้ โดยยืนยันว่ารถแท็กซี่สามารถวิ่งเข้าไปรับส่งผู้โดยสารได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น และหากมีการเรียกเก็บสามารถร้องเรียนได้ทันที โดยให้เจ้าหน้าที่ของแอร์พอร์ตลิ้งค์ลงไปบริหารจัดการคิวรถแท็กซี่ให้เป็นธรรมกับแท็กซี่และให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวก
“มาตรการต่างๆ เป็นการแก้ปัญหาระยะสั้นระหว่างรอการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะแล้วเสร็จกลางปี 2555 โดยให้ศึกษาความเป็นไปได้ด้านเทคนิค และการเพิ่มความถี่ขบวน City Line โดยใช้ขบวน Express มาช่วยวิ่งนั้นหลักการจะต้องไม่ลดเที่ยววิ่งของ ขบวน Express ลง โดยให้สรุปผลเสนอภายในสัปดาห์หน้า จากนั้นจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 ก.ย. “นายกิตติศักดิ์กล่าว