ASTVผู้จัดการรายวัน-“พาณิชย์”ชงของบปี 55 วงเงิน 2 พันล้าน จัดงานธงฟ้า ช่วยน้ำท่วมและลดค่าครองชีพ ลงถึงระดับอำเภอกว่า 1 พันครั้ง ขายสินค้าถูกลด 20-40% ด้านกขช.ไฟเขียวนำข้าว 6 หมื่นตัน แจกจ่ายผู้ประสบภัยน้ำท่วม “กิตติรัตน”รับแนวคิดข้าวแลกน้ำมัน แต่ต้องศึกษาให้ชัด ส่วนประชุมครม.วันนี้ เคาะเกณฑ์จำนำข้าว บอร์ดย่อย และบอร์ดอคส. หลังลาออกยกชุด
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ เตรียมเสนอให้รัฐบาลพิจารณาจัดสรรงบประมาณปี 2555 วงเงิน 2,000 ล้านบาท เพื่อทำโครงการมหกรรมธงฟ้ามหาชนทั่วประเทศกว่า 1,000 ครั้ง โดยนำสินค้าอุปโภคบริโภคราคาต่ำกว่าท้องตลาด 20-40% ไปจำหน่ายแก่ประชาชนเพื่อเป็นการลดค่าครองชีพและช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาน้ำท่วมทั่วประเทศอย่างทั่วถึง โดยหากรัฐบาลอนุมัติก็สามารถเริ่มโครงการได้ทันทีตั้งแต่เดือนต.ค.นี้เป็นต้นไป
ส่วนการลดค่าครองชีพให้กับประชาชนในขณะนี้ ได้กำหนดจัดงานมหกรรมธงฟ้ามหาชน วันที่ 14-18 ก.ย. ที่ฮอลล์ 5–6 อิมแพ็ค เมืองทองธานี นำสินค้าอุปโภคและบริโภค เช่น ไข่ไก่ เนื้อหมู น้ำตาลทราย กว่า 1,000 รายการ มากกว่า 500 บูธ ราคาพิเศษต่ำกว่าท้องตลาด 20–40% คาดว่ามีประชาชนเข้าชมงานและเลือกซื้อสินค้ากว่า 350,000 คน มีมูลค่าจำหน่ายสินค้ามากว่า 300 ล้านบาท สามารถลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ประมาณ 120–130 ล้านบาท
สำหรับการดูแลผู้ประสบภัยน้ำท่วม คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้อนุมัติข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล 60,000 ตัน มาจัดทำเป็นข้าวถุงเพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัย โดยได้มอบหมายให้องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) และองค์การคลังสินค้า (อคส.) ไปเร่งดำเนินการโดยด่วน ส่วนการจัดทำข้าวถุงธงฟ้าราคาถูก ช่วยเหลือประชาชน ยังไม่ดำเนินการในขณะนี้ เนื่องจากต้องรอดูสถานการณ์ราคาข้าวในตลาดให้ชัดเจนหลังเริ่มโครงการจำนำ แต่คาดว่าภายใน 2 เดือนนี้ ราคาข้าวจะยังไม่ปรับสูงขึ้น
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีนายพิชัย นริพทะพันธ์ รมว.พลังงาน เสนอให้รัฐบาลนำข้าวไทยไปแลกน้ำมันว่า สามารถทำได้ เนื่องจากเป็นแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกัน (บาเตอร์ เทรด) แต่จะต้องศึกษารายละเอียดอย่างรอบคอบก่อน และขณะนี้กระทรวงพลังงานยังไม่ได้เสนอเรื่องเข้ามาอย่างเป็นทางการหากศึกษาแล้วพบว่าคุ้มค่าก็สามารถดำเนินการได้ แต่เรื่องนี้จะต้องทำอย่างรอบคอบ และยืนยันว่าจะไม่ทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบ โดยรัฐบาลไทยจะต้องดูแลให้เกิดความเหมาะสมในเรื่องปริมาณข้าวที่ต้องนำไปแลกกับปริมาณน้ำมันที่นำเข้ามา
ทั้งนี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (13 ก.ย.) วาระสำคัญจะมีการพิจารณาหลักเกณฑ์การรับจำนำข้าว ทั้งเรื่องราคารับจำนำ และรายชื่อคณะอนุกรรมการ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ทั้ง 6 ชุด รวมทั้งการแต่งตั้งคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า (บอร์ดอคส.) ชุดใหม่ หลังจากที่คณะกรรมการชุดเดิมทั้งชุดยื่นใบลาออกเรียบร้อยแล้ว
ส่วนกรณีนายอนุกูล แต้มประเสริฐ ผู้อำนวยการอคส. ยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง นายยรรยงกล่าวในเรื่องนี้ว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ไม่ทำให้การรับจำนำข้าวชะงัก เพราะตามขั้นตอน บอร์ดอคส.จะเป็นผู้แต่งตั้งรักษาการผู้อำนวยการอคส. มารับผิดชอบงาน ส่วนปัญหาน้ำท่วมที่จะกระทบต่อการจัดเก็บข้าวในสต๊อกนั้น ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบแล้ว และพบว่าเสียหายไม่มาก
มีเพียงที่จ.สุโขทัยประมาณ 7 พันกระสอบ
ทั้งนี้ ในการตรวจสอบสต๊อกข้าว กขช.ได้แต่งตั้งให้นายภูมิ สาระผล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานตรวจสอบสต๊อกข้าวก่อนที่จะเริ่มโครงการรับจำนำ เพื่อตรวจสอบปริมาณและคุณภาพ และป้องกันการนำข้าวเก่ามาเข้าโครงการรับจำนำ
นายมนัส สร้อยพลอย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ยังไม่สามารถดำเนินแผนการตลาดหรือจำหน่ายข้าวผ่านรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ได้ เพราะต้องรอให้อนุกรรมการกขช.ได้รับความเห็นชอบก่อน รวมถึงรายละเอียดขั้นตอน ขอบเขตของการทำงาน และหน่วยงานกำกับ
นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่ผ่านมา ธ.ก.ส.ได้เสนอให้ที่ประชุมพิจารณาปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2554/55 หลังโครงการสิ้นสุดลงแบบปีต่อปี พร้อมให้กระทรวงการคลังจัดสรรเงินชดเชยให้ธ.ก.ส.ภายใน 1 ปี หลังจากโครงการรับจำนำข้าวเดิมมีหนี้ค้างกว่า 140,000 ล้านบาท ซึ่งนายกิตติรัตน์ ได้รับทราบข้อเสนอแล้ว และคาดว่าคงหารือกันในที่ประชุมครม.วันนี้เพื่อพิจารณา
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ เตรียมเสนอให้รัฐบาลพิจารณาจัดสรรงบประมาณปี 2555 วงเงิน 2,000 ล้านบาท เพื่อทำโครงการมหกรรมธงฟ้ามหาชนทั่วประเทศกว่า 1,000 ครั้ง โดยนำสินค้าอุปโภคบริโภคราคาต่ำกว่าท้องตลาด 20-40% ไปจำหน่ายแก่ประชาชนเพื่อเป็นการลดค่าครองชีพและช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาน้ำท่วมทั่วประเทศอย่างทั่วถึง โดยหากรัฐบาลอนุมัติก็สามารถเริ่มโครงการได้ทันทีตั้งแต่เดือนต.ค.นี้เป็นต้นไป
ส่วนการลดค่าครองชีพให้กับประชาชนในขณะนี้ ได้กำหนดจัดงานมหกรรมธงฟ้ามหาชน วันที่ 14-18 ก.ย. ที่ฮอลล์ 5–6 อิมแพ็ค เมืองทองธานี นำสินค้าอุปโภคและบริโภค เช่น ไข่ไก่ เนื้อหมู น้ำตาลทราย กว่า 1,000 รายการ มากกว่า 500 บูธ ราคาพิเศษต่ำกว่าท้องตลาด 20–40% คาดว่ามีประชาชนเข้าชมงานและเลือกซื้อสินค้ากว่า 350,000 คน มีมูลค่าจำหน่ายสินค้ามากว่า 300 ล้านบาท สามารถลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ประมาณ 120–130 ล้านบาท
สำหรับการดูแลผู้ประสบภัยน้ำท่วม คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้อนุมัติข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล 60,000 ตัน มาจัดทำเป็นข้าวถุงเพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัย โดยได้มอบหมายให้องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) และองค์การคลังสินค้า (อคส.) ไปเร่งดำเนินการโดยด่วน ส่วนการจัดทำข้าวถุงธงฟ้าราคาถูก ช่วยเหลือประชาชน ยังไม่ดำเนินการในขณะนี้ เนื่องจากต้องรอดูสถานการณ์ราคาข้าวในตลาดให้ชัดเจนหลังเริ่มโครงการจำนำ แต่คาดว่าภายใน 2 เดือนนี้ ราคาข้าวจะยังไม่ปรับสูงขึ้น
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีนายพิชัย นริพทะพันธ์ รมว.พลังงาน เสนอให้รัฐบาลนำข้าวไทยไปแลกน้ำมันว่า สามารถทำได้ เนื่องจากเป็นแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกัน (บาเตอร์ เทรด) แต่จะต้องศึกษารายละเอียดอย่างรอบคอบก่อน และขณะนี้กระทรวงพลังงานยังไม่ได้เสนอเรื่องเข้ามาอย่างเป็นทางการหากศึกษาแล้วพบว่าคุ้มค่าก็สามารถดำเนินการได้ แต่เรื่องนี้จะต้องทำอย่างรอบคอบ และยืนยันว่าจะไม่ทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบ โดยรัฐบาลไทยจะต้องดูแลให้เกิดความเหมาะสมในเรื่องปริมาณข้าวที่ต้องนำไปแลกกับปริมาณน้ำมันที่นำเข้ามา
ทั้งนี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (13 ก.ย.) วาระสำคัญจะมีการพิจารณาหลักเกณฑ์การรับจำนำข้าว ทั้งเรื่องราคารับจำนำ และรายชื่อคณะอนุกรรมการ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ทั้ง 6 ชุด รวมทั้งการแต่งตั้งคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า (บอร์ดอคส.) ชุดใหม่ หลังจากที่คณะกรรมการชุดเดิมทั้งชุดยื่นใบลาออกเรียบร้อยแล้ว
ส่วนกรณีนายอนุกูล แต้มประเสริฐ ผู้อำนวยการอคส. ยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง นายยรรยงกล่าวในเรื่องนี้ว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ไม่ทำให้การรับจำนำข้าวชะงัก เพราะตามขั้นตอน บอร์ดอคส.จะเป็นผู้แต่งตั้งรักษาการผู้อำนวยการอคส. มารับผิดชอบงาน ส่วนปัญหาน้ำท่วมที่จะกระทบต่อการจัดเก็บข้าวในสต๊อกนั้น ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบแล้ว และพบว่าเสียหายไม่มาก
มีเพียงที่จ.สุโขทัยประมาณ 7 พันกระสอบ
ทั้งนี้ ในการตรวจสอบสต๊อกข้าว กขช.ได้แต่งตั้งให้นายภูมิ สาระผล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานตรวจสอบสต๊อกข้าวก่อนที่จะเริ่มโครงการรับจำนำ เพื่อตรวจสอบปริมาณและคุณภาพ และป้องกันการนำข้าวเก่ามาเข้าโครงการรับจำนำ
นายมนัส สร้อยพลอย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ยังไม่สามารถดำเนินแผนการตลาดหรือจำหน่ายข้าวผ่านรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ได้ เพราะต้องรอให้อนุกรรมการกขช.ได้รับความเห็นชอบก่อน รวมถึงรายละเอียดขั้นตอน ขอบเขตของการทำงาน และหน่วยงานกำกับ
นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่ผ่านมา ธ.ก.ส.ได้เสนอให้ที่ประชุมพิจารณาปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2554/55 หลังโครงการสิ้นสุดลงแบบปีต่อปี พร้อมให้กระทรวงการคลังจัดสรรเงินชดเชยให้ธ.ก.ส.ภายใน 1 ปี หลังจากโครงการรับจำนำข้าวเดิมมีหนี้ค้างกว่า 140,000 ล้านบาท ซึ่งนายกิตติรัตน์ ได้รับทราบข้อเสนอแล้ว และคาดว่าคงหารือกันในที่ประชุมครม.วันนี้เพื่อพิจารณา
