วานนี้ (12 ก.ย)นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต. )ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการพิจารณาสำนวนของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ว่า กรณีดังกล่าว กกต.ได้มีมติให้ทางสำนักงานด้านกิจการพรรคการเมืองไปดำเนินการแก้ไขปรับปรุงฐานข้อมูลสมาชิกพรรคการเมืองให้ถูกต้อง ซึ่งกกต.ได้ให้เวลาไปดำเนินการภายใน 15 วัน และขณะนี้ก็ใกล้เวลาที่กกต.ขยายให้ไปแล้ว คาดว่าคณะกรรมการไต่สวนจะเสนอสำนวนต่อที่ประชุม กกต.ใน 1 ถึง 2 วันนี้ เพราะจะครบกำหนดเวลาการสอบสวน
อย่างไรก็ตาม หากคณะกรรมการไต่สวนฯจะขอขยายระยะเวลาการสอบสวนอีก ก็พร้อมที่จะพิจารณาให้แต่ก็อาจจะให้ได้ไม่เกิน 7 วัน เพราะต้องมีการสอบสวนพยานหลักฐานและพยานบุคคล แต่คงจะขยายให้ไม่เกิน 15 วัน อย่างไรก็ตามหากมีความคืบหน้าก็จะมีการแถลงให้สื่อมวลชนได้รับตามลำดับอย่างแน่นอน
นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวถึงกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่จะครบกำหนด 15 วันที่กกต.มีมติให้ไปดำเนินการปรับปรุงแก้ไขฐานข้อมูลสมาชิกพรรคการเมืองให้ถูกต้องก่อนเสนอเข้าที่ประชุมกกต.อีกครั้งว่า นายทะเบียนพรรคการเมืองต้องไปดำเนินการให้เรียบร้อยว่านายจตุพร ขาดจากความเป็นสมาชิกพรรคหรือไม่อย่างไร แล้วจึงมาเสนอกกต.พิจารณาอีกครั้ง เพราะในการประชุมครั้งที่ผ่านมาด้านกิจการพรรคการเมืองได้เสนอต่อที่ประชุมกกต.เพื่อขอมติกกต.เพื่อดำเนินการลบชื่อนายจตุพร ออกจากระบบฐานข้อมูลการเป็นสมาชิกพรรค เพราะตามกฎหมายพรรคการเมืองให้สำนักงานกกต.จัดทำรายชื่อในระบบฐานข้อมูลและให้ ถือว่ารายชื่อที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลมีความถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้นเมื่อพบว่ามีปัญหาเรื่องสมาชิกภาพการเป็นสมาชิกพรรค ก็เป็นเรื่องที่สำนักงานและนายทะเบียนต้องไปดำเนินการ ซึ่งการที่ขณะนี้ไม่มีเลขาธิการกกต.ก็ไม่เป็นปัญหาในการที่จะดำเนินการลบชื่อ เพราะมีรองเลขาธิการที่อาวุโสทำหน้าที่รักษาการอยู่แล้ว
“สมมุติถ้าคณะกรรมการของด้านกิจการพรรคการเมืองเห็นว่านายจตุพร ขาดจากการเป็นสมาชิกพรรคแล้วก็ต้องดำเนินการลบชื่อ ของนายจตุพรออกจากระบบฐานข้อมูลทะเบียนพรรคการเมือง จากนั้นนายทะเบียนฯ ต้องมีความเห็นว่าเกิดกรณีมีปัญหาสมาชิกภาพของนายจตุพรแล้ว และจึงค่อยเสนอต่อกกต. เพื่อขอความเห็นให้ส่งเรื่องไปยังประธานสภาผู้แทนราษฏร เพื่อยื่นเรื่องต่อไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ไม่ใช่เอารายงานผลการตรวจสอบของคณะกรรมการด้านกิจการพรรคการเมืองมารายงานต่อกกต. โดยที่ไม่มีความเห็นชอบจากนายทะเบียนฯมาก่อน เพราะปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องของนายทะเบียนฯโดยตรง และสำนักงานฯก็เป็นเครื่องมือของนายทะเบียนฯ ซึ่งการจะลบชื่อหรือไม่เขาก็มีระเบียบอยู่ จึงไม่ใช่เรื่องที่จะมาขอให้กกต.พิจารณา ” นายสมชัย กล่าว
เมื่อถามว่า ถ้าสำนักงานฯลบชื่อนายจตุพรออกจากระบบฐานข้อมูลอาจถูกนายจตุพร ฟ้องร้องได้ เหตุใดจึงไม่ส่งเรื่องและให้ศรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยก่อน นายสมชัย กล่าวว่า ทางนายจตุพรเขาก็คงมีทีมกฎหมาย ที่คอยดูตรงนี้อยู่แต่การที่จะให้กกต.เห็นชอบกับการส่งเรื่องเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนั้นจะต้องมีเหตุเกิดขึ้นก่อน ซึ่งหากสำนักงานยังไม่ดำเนินการลบชื่อของนายจตุพรก็ถือว่ายังไม่มีเหตุที่ทำให้กกต.ต้องพิจารณาว่า การขาดจากความเป็นสมาชิกพรรค ทำให้ขาดจากความเป็นส.ส.หรือไม่
อย่างไรก็ตาม หากคณะกรรมการไต่สวนฯจะขอขยายระยะเวลาการสอบสวนอีก ก็พร้อมที่จะพิจารณาให้แต่ก็อาจจะให้ได้ไม่เกิน 7 วัน เพราะต้องมีการสอบสวนพยานหลักฐานและพยานบุคคล แต่คงจะขยายให้ไม่เกิน 15 วัน อย่างไรก็ตามหากมีความคืบหน้าก็จะมีการแถลงให้สื่อมวลชนได้รับตามลำดับอย่างแน่นอน
นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวถึงกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่จะครบกำหนด 15 วันที่กกต.มีมติให้ไปดำเนินการปรับปรุงแก้ไขฐานข้อมูลสมาชิกพรรคการเมืองให้ถูกต้องก่อนเสนอเข้าที่ประชุมกกต.อีกครั้งว่า นายทะเบียนพรรคการเมืองต้องไปดำเนินการให้เรียบร้อยว่านายจตุพร ขาดจากความเป็นสมาชิกพรรคหรือไม่อย่างไร แล้วจึงมาเสนอกกต.พิจารณาอีกครั้ง เพราะในการประชุมครั้งที่ผ่านมาด้านกิจการพรรคการเมืองได้เสนอต่อที่ประชุมกกต.เพื่อขอมติกกต.เพื่อดำเนินการลบชื่อนายจตุพร ออกจากระบบฐานข้อมูลการเป็นสมาชิกพรรค เพราะตามกฎหมายพรรคการเมืองให้สำนักงานกกต.จัดทำรายชื่อในระบบฐานข้อมูลและให้ ถือว่ารายชื่อที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลมีความถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้นเมื่อพบว่ามีปัญหาเรื่องสมาชิกภาพการเป็นสมาชิกพรรค ก็เป็นเรื่องที่สำนักงานและนายทะเบียนต้องไปดำเนินการ ซึ่งการที่ขณะนี้ไม่มีเลขาธิการกกต.ก็ไม่เป็นปัญหาในการที่จะดำเนินการลบชื่อ เพราะมีรองเลขาธิการที่อาวุโสทำหน้าที่รักษาการอยู่แล้ว
“สมมุติถ้าคณะกรรมการของด้านกิจการพรรคการเมืองเห็นว่านายจตุพร ขาดจากการเป็นสมาชิกพรรคแล้วก็ต้องดำเนินการลบชื่อ ของนายจตุพรออกจากระบบฐานข้อมูลทะเบียนพรรคการเมือง จากนั้นนายทะเบียนฯ ต้องมีความเห็นว่าเกิดกรณีมีปัญหาสมาชิกภาพของนายจตุพรแล้ว และจึงค่อยเสนอต่อกกต. เพื่อขอความเห็นให้ส่งเรื่องไปยังประธานสภาผู้แทนราษฏร เพื่อยื่นเรื่องต่อไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ไม่ใช่เอารายงานผลการตรวจสอบของคณะกรรมการด้านกิจการพรรคการเมืองมารายงานต่อกกต. โดยที่ไม่มีความเห็นชอบจากนายทะเบียนฯมาก่อน เพราะปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องของนายทะเบียนฯโดยตรง และสำนักงานฯก็เป็นเครื่องมือของนายทะเบียนฯ ซึ่งการจะลบชื่อหรือไม่เขาก็มีระเบียบอยู่ จึงไม่ใช่เรื่องที่จะมาขอให้กกต.พิจารณา ” นายสมชัย กล่าว
เมื่อถามว่า ถ้าสำนักงานฯลบชื่อนายจตุพรออกจากระบบฐานข้อมูลอาจถูกนายจตุพร ฟ้องร้องได้ เหตุใดจึงไม่ส่งเรื่องและให้ศรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยก่อน นายสมชัย กล่าวว่า ทางนายจตุพรเขาก็คงมีทีมกฎหมาย ที่คอยดูตรงนี้อยู่แต่การที่จะให้กกต.เห็นชอบกับการส่งเรื่องเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนั้นจะต้องมีเหตุเกิดขึ้นก่อน ซึ่งหากสำนักงานยังไม่ดำเนินการลบชื่อของนายจตุพรก็ถือว่ายังไม่มีเหตุที่ทำให้กกต.ต้องพิจารณาว่า การขาดจากความเป็นสมาชิกพรรค ทำให้ขาดจากความเป็นส.ส.หรือไม่
