นครศรีธรรมราช - “วิทยา แก้วภารดัย” ย้ำวิธีสรรหากก.บริหารพรรคเป็นวัฒนธรรมของประชาธิปัตย์ที่แข่งขันกันอย่างเป็นประชาธิปไตย เผยหากถูกเสนอชื่อเป็นเลขาธิการพรรคเข้าแข่งขันจะไม่ขอถอนชื่อ
วันนี้ (23 ก.ค.) นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเตรียมการประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกหัวหน้าของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะมีขึ้นว่า กระบวนการเลือกตั้งนั้นมีความชัดเจนอยู่แล้ว ซึ่งจะต้องมีการเลือกรรมการบริหารทั้ง 19 คน โดยเริ่มต้นจากการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
หลังจากนั้นเมื่อได้หัวหน้าพรรคแล้ว ตัวหัวหน้าพรรคจะเสนอชื่อผู้ที่จะมานั่งในตำแหน่งต่างๆ ที่จะต้องเป็นทีมงานบริหารของหัวหน้าพรรคคือ เลขาธิการพรรคจำนวน 2 คน ที่ประชุมเลือกเหลือ 1 คน เสนอรองเลขาธิการพรรคจำนวน 6 คนเลือกเหลือ 3 คน เสนอโฆษกพรรค 2 คนเลือกเหลือ 1 คน เหรัญญิก ทะเบียนพรรค หัวหน้าพรรคจะเสนอชื่อตำแหน่งละ 2 คนที่ประชุมจะเลือกเหลือ 1 คน
นายวิทยา กล่าวต่อว่า ส่วนรองหัวหน้าพรรคนั้นจะมีรองหัวหน้าพรรคจาก 5 ภาครวมทั้ง กทม. จะมีการเลือกภาคละ 1 คน ซึ่งเป็นการเสนอโดยอิสระและที่ประชุมจะเลือกเหลือภาคละ 1 คน หลังจากนั้นจะเสนอชื่อบุคคลเข้าเป็นกรรมการบริหารพรรคอีก 3 ตำแหน่งโดยการเสนออย่างอิสระแล้วมาเลือกตั้งกัน ผู้มีสิทธิในการลงคะแนนครั้งนี้จะมี ส.ส. ประธานสาขาพรรค อดีตหัวหน้าพรรค อดีตเลขาธิการพรรคที่ยังเป็นสมาชิกของพรรคทุกคน ตัวแทนท้องถิ่นจากทุกจังหวัด ตัวแทนจากสมาชิกพรรคภาคละ 4 คน และจากสมาชิกพรรคอาวุโสของพรรครวมมีองค์ประชุมประมาณ 350 คน ทุกขั้นตอนเป็นไปตามกฎหมายพรรคการเมือง
“ตำแหน่งต่างๆจะต้องดูจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นหลัก ซึ่งถ้าดูโครงสร้างนั้นหัวหน้าพรรคเป็นผู้เลือกทีมบริหารที่จะต้องมาทำงาน การวิพากษ์ที่เกิดขึ้นเป็นการไม่เข้าใจในข้อบังคับของพรรค ตำแหน่งเลขาธิการพรรคต้องหัวหน้าพรรคเป็นผู้เสนอ ใครก็ตามที่มีชื่อหากหัวหน้าพรรคไม่เอาก็จบ ซึ่งข้อวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้นหากมาดูข้อขับคับแล้วก็ต้องจบเช่นกัน ซึ่งนี่เป็นวิถีภายในของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นวิถีปกติ เมื่อแข่งขันกันจบในการเลือกตั้งภายในแล้วอาจมีควันหลงบ้าง แต่ไม่นานก็จบเป็นไปอย่างธรรมชาติ และมีการแข่งขันกันจริงอย่างเป็นธรรมชาติ และเป็นจุดของของพรรคปรดธิปัตย์ที่ได้ชื่อว่าเป็นสถาบันทางการเมืองของประเทศไทยอย่างแท้จริง”
ผู้สื่อข่าว หากได้รับการเสนอชื่อจากหัวหน้าพรรคที่จะมีการเลือกตั้งขึ้นใหม่ให้เป็น 1 ใน 2 คน หรือตำแหน่งอื่นๆ ซึ่งจะต้องให้ที่ประชุมเลือกตั้ง นายวิทยา กล่าวว่า ยินดีและจะไม่ขอถอนชื่อพร้อมที่จะแข่งขัน
