00 หลายคนเคยบอกว่าถ้าอยากเห็นตัวตนของใครก็ตาม ก็ต้องปล่อยให้เขาได้แสดง ได้พูดได้กระทำให้เต็มที่ อย่าไปขัดขวาง อย่าไปขัดคอ เหมือนกับว่าอยากทำอะไรก็ทำไป ขณะเดียวกันมันก็ทำให้คนที่หลงใหลกับวาทะกรรม หรือพฤติกรรมของ “บางคน” ที่เคย “อำพราง” มานานจะได้ “ตาสว่าง” รู้แจ้งเห็นจริงเสียที เหมือนกับที่เรากำลังได้เห็น “ธาตุแท้” ของคนในรัฐบาลชุดนี้ ว่าแท้ที่จริงแล้วมัน “เหนือกว่ามนุษย์” ธรรมดาตรงไหน ทำไมที่ผ่านมาชาวบ้านถึงได้หลงใหลกันนัก เพราะแม้จะมีการเตือนอย่างไรก็ไม่เคยเชื่อ
00 หลังจากบริหารราชการแผ่นดินมาได้เดือนเศษ แม้ว่าหากมองในความเป็นจริงถือว่าเวลายังน้อยอาจยังมองไม่เห็นอะไรมากนัก แต่ขณะเดียวกันลองถ้า “มีกึ๋น” เจ๋งจริงอย่างที่พยายามสร้างภาพ หรือคุยโม้เอาไว้ มันก็ย่อม “เห็นแวว” ออกมาให้ดู อย่างน้อยก็ต้องมีความหวังเรืองรองอยู่บ้าง แม้ว่าจะยังมาไม่ถึง เอาง่ายๆอย่างปัญหาน้ำท่วมที่เป็นอยู่ ซึ่งก็ต้องยอมรับกันว่าปีนี้ปริมาณมันมหาศาลผิดปกติ เป็นภัยธรรมชาติ แต่เมื่อดูจากแนวทางแก้ปัญหาของ ผู้นำคือ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แล้ว มันก็ไม่ได้แตกต่างกันกับรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อาจจะแปลกว่าตรงที่มีคำพูดใหม่ๆเพิ่มเติมเข้ามานั่นคือคำว่า “บูรณาการ” เราจะช่วยเหลือพี่น้องอย่างเต็มที่ สารพัด
00 ขณะที่การเข้าไปช่วยเหลือพี่น้องที่ประสบภัย ก็ยังไม่ทั่วถึงเหมือนเดิม ซึ่งในกรณีนี้ไม่ได้กล่าวโทษใคร เพราะอย่างที่บอกก็คือบางครั้งมันเป็นเรื่องฉุกละหุก พื้นที่ประสบภัยกว้างขวางจะให้ทั่วทุกตารางนิ้วคงเป็นไปไม่ได้ แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ ในเมื่อเห็นว่าภัยน้ำท่วมเที่ยวนี้มันหนักหนาสาหัสกว่าคราวก่อน แต่ความตื่นตัวของรัฐบาลกลับทำเป็นเรื่องปกติ
00 แม้กระทั่งสื่อทีวีของรัฐก็เฉยชา จะเห็นได้ว่าไม่มีปรากฏในเรื่องการจัด “รายการพิเศษ” เพื่อรับบริจาคช่วยเหลือพี่น้องที่ประสบภัยอย่างที่เคยมี แม้แต่สื่อช่อง 3 ที่ก่อนหน้าจะนำหน้าในเรื่องแบบนี้ กลายเป็นว่ามีเพียงให้ความสำคัญกับการเสนอข่าวอย่างเดียว และก็เพิ่งเปิดบัญชีรับบริจาคไปเมื่อเช้าวานนี้( 12 ก.ย.) แต่ก็ดูแล้วบรรยากาศเป็นไปอย่างแกนๆเท่านั้น
00 อย่างไรก็ดีเมื่อมาค้นหาความจริงเบื้องต้น มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่การบริหารมันมีแนวโน้ม “ห่วยแตก” แบบนี้ เพราะเมื่อพิจารณา รมต.ไล่ลงมามีเพียง นายกฯปู เท่านั้นที่หน้าใหม่ แต่ก็ “อ่อนหัด” เสียอีก ส่วนคนอื่นๆ มันก็เคยเห็นฝีมือกันมาแล้ว เช่น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง งี้ ผ่านมากี่รัฐบาลแล้ว วิเศษตรงไหนละ ก็เปล่า ส่วนคนอื่นก็ไม่เห็นโดดเด่นตรงไหน รมว.ต่างประเทศ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.พลังงาน พิชัย นริพทะพันธุ์ เหล่านี้ยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งน่าสงสัยว่ามาทำหน้าที่เพื่อทักษิณ ชินวัตร หรือเพื่อคนไทยกันแน่
00 อย่าได้แปลกใจที่ ราคาข้าวของก็ยังแพงเหมือนเดิม ไม่ได้ “กระชากลงมา” อย่างที่พรรคเพื่อไทยโม้เอาไว้ตอนหาเสียง และที่สำคัญเชื่อหรือไม่ว่าเวลานี้ราคาน้ำมันจากเดิมที่เคยลดลงมาเป็นกอบเป็นกำเมืองสองสามสัปดาห์ก่อนเวลานี้ราคาเริ่มไต่กลับไปใกล้เคียงกับราคาเดิมแล้ว แถมเงินก็ไม่ได้ไหลเข้ากองทุนน้ำมันเหมือนแต่ก่อนแล้ว คราวนี้แหละจะ “ตายหยังเขียด” ส่วนราคาข้าวถุงก็เตรียมจ่อขึ้นราคาอีก 20-30 เปอร์เซ็นต์ อันเป็นผลจากนโยบายจำนำของรัฐบาล
00 แต่ที่เลวร้ายไปกว่าก็คือเมื่อนาข้าวถูกน้ำท่วมแล้วจะเอาข้าวที่ไหนไป “จำนำ” ให้ได้ตันละ 15,000 บาทละ “น้องปู” นี่แหละถึงได้สังเกตดูปฏิกิริยาของคนเสื้อแดงที่เคยเชียร์กันสุดลิ่มเวลานี้ “เริ่มเงียบเสียง” ไม่สนุกเหมือนก่อน ยกเว้นพวก “หัวโจก” บางคนที่เปลี่ยนจาก “ไพร่” เป็น “อำมาตย์” กันแล้วเท่านั้น
00 ขอภาวนาว่าข่าว รมว.ศึกษาธิการ วรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ไฟเขียวลอยตัวค่าเล่าเรียน เปิดทางให้โรงเรียนกับค่า “แป๊ะเจี๊ยะ” กันได้ตามสะดวกอ้างว่าเพื่อนำมาพัฒนาปรับปรุงคุณภาพการศึกษาในโรงเรียน หลังจากหมดปัญญาในการแก้ปัญหาป้องกัน หวังว่าเป็นข่าวฟังมาผิดพลาด เพราะถ้าเป็นจริงยุ่งแน่ แต่คนที่จะยุ่งก่อนคนอื่นก็คือตัว รมต.นั่นแหละ เพราะชาวบ้านมองด้วยหางตาดูถูกว่าคิดได้งัยเนี่ยะ !!
00 มีเสียงยืนยันค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่า “เสี่ยแม้ว” จะนั่งเครื่องบินส่วนตัวเข้าเขมรเพื่อร่วมคณะเจ้าหน้าที่ของไทย เจรจากับฝ่าย ฮุนเซน ให้ปล่อยตัว วีระ-ราตรี ที่ถูกจองจำที่นั่น แว่วว่าอาจเป็นวันที่ 19 ก.ย. ซึ่งงานนี้หมายมั่นปั้นมือว่าต้องให้เป็นผลงาน “พิเศษ” ให้ใครต่อใครพูดไม่ออกขณะที่เรื่องลับอื่นๆไม่ยอมบอก แต่ปัญหาก็คือ ถ้านายกฯยิ่งลักษณ์ หรือ รมต.คนไหนในฐานะเจ้าหน้าที่เมื่อพบกับ ทักษิณ ที่เป็นคนหลบหนีหมายจับแล้วไม่รวบตัวหรือประสานทางการเขมรเพื่อส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในไทยก็ถือว่ามีความผิดไปด้วยนะซี !!
00 หลังจากบริหารราชการแผ่นดินมาได้เดือนเศษ แม้ว่าหากมองในความเป็นจริงถือว่าเวลายังน้อยอาจยังมองไม่เห็นอะไรมากนัก แต่ขณะเดียวกันลองถ้า “มีกึ๋น” เจ๋งจริงอย่างที่พยายามสร้างภาพ หรือคุยโม้เอาไว้ มันก็ย่อม “เห็นแวว” ออกมาให้ดู อย่างน้อยก็ต้องมีความหวังเรืองรองอยู่บ้าง แม้ว่าจะยังมาไม่ถึง เอาง่ายๆอย่างปัญหาน้ำท่วมที่เป็นอยู่ ซึ่งก็ต้องยอมรับกันว่าปีนี้ปริมาณมันมหาศาลผิดปกติ เป็นภัยธรรมชาติ แต่เมื่อดูจากแนวทางแก้ปัญหาของ ผู้นำคือ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แล้ว มันก็ไม่ได้แตกต่างกันกับรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อาจจะแปลกว่าตรงที่มีคำพูดใหม่ๆเพิ่มเติมเข้ามานั่นคือคำว่า “บูรณาการ” เราจะช่วยเหลือพี่น้องอย่างเต็มที่ สารพัด
00 ขณะที่การเข้าไปช่วยเหลือพี่น้องที่ประสบภัย ก็ยังไม่ทั่วถึงเหมือนเดิม ซึ่งในกรณีนี้ไม่ได้กล่าวโทษใคร เพราะอย่างที่บอกก็คือบางครั้งมันเป็นเรื่องฉุกละหุก พื้นที่ประสบภัยกว้างขวางจะให้ทั่วทุกตารางนิ้วคงเป็นไปไม่ได้ แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ ในเมื่อเห็นว่าภัยน้ำท่วมเที่ยวนี้มันหนักหนาสาหัสกว่าคราวก่อน แต่ความตื่นตัวของรัฐบาลกลับทำเป็นเรื่องปกติ
00 แม้กระทั่งสื่อทีวีของรัฐก็เฉยชา จะเห็นได้ว่าไม่มีปรากฏในเรื่องการจัด “รายการพิเศษ” เพื่อรับบริจาคช่วยเหลือพี่น้องที่ประสบภัยอย่างที่เคยมี แม้แต่สื่อช่อง 3 ที่ก่อนหน้าจะนำหน้าในเรื่องแบบนี้ กลายเป็นว่ามีเพียงให้ความสำคัญกับการเสนอข่าวอย่างเดียว และก็เพิ่งเปิดบัญชีรับบริจาคไปเมื่อเช้าวานนี้( 12 ก.ย.) แต่ก็ดูแล้วบรรยากาศเป็นไปอย่างแกนๆเท่านั้น
00 อย่างไรก็ดีเมื่อมาค้นหาความจริงเบื้องต้น มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่การบริหารมันมีแนวโน้ม “ห่วยแตก” แบบนี้ เพราะเมื่อพิจารณา รมต.ไล่ลงมามีเพียง นายกฯปู เท่านั้นที่หน้าใหม่ แต่ก็ “อ่อนหัด” เสียอีก ส่วนคนอื่นๆ มันก็เคยเห็นฝีมือกันมาแล้ว เช่น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง งี้ ผ่านมากี่รัฐบาลแล้ว วิเศษตรงไหนละ ก็เปล่า ส่วนคนอื่นก็ไม่เห็นโดดเด่นตรงไหน รมว.ต่างประเทศ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.พลังงาน พิชัย นริพทะพันธุ์ เหล่านี้ยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งน่าสงสัยว่ามาทำหน้าที่เพื่อทักษิณ ชินวัตร หรือเพื่อคนไทยกันแน่
00 อย่าได้แปลกใจที่ ราคาข้าวของก็ยังแพงเหมือนเดิม ไม่ได้ “กระชากลงมา” อย่างที่พรรคเพื่อไทยโม้เอาไว้ตอนหาเสียง และที่สำคัญเชื่อหรือไม่ว่าเวลานี้ราคาน้ำมันจากเดิมที่เคยลดลงมาเป็นกอบเป็นกำเมืองสองสามสัปดาห์ก่อนเวลานี้ราคาเริ่มไต่กลับไปใกล้เคียงกับราคาเดิมแล้ว แถมเงินก็ไม่ได้ไหลเข้ากองทุนน้ำมันเหมือนแต่ก่อนแล้ว คราวนี้แหละจะ “ตายหยังเขียด” ส่วนราคาข้าวถุงก็เตรียมจ่อขึ้นราคาอีก 20-30 เปอร์เซ็นต์ อันเป็นผลจากนโยบายจำนำของรัฐบาล
00 แต่ที่เลวร้ายไปกว่าก็คือเมื่อนาข้าวถูกน้ำท่วมแล้วจะเอาข้าวที่ไหนไป “จำนำ” ให้ได้ตันละ 15,000 บาทละ “น้องปู” นี่แหละถึงได้สังเกตดูปฏิกิริยาของคนเสื้อแดงที่เคยเชียร์กันสุดลิ่มเวลานี้ “เริ่มเงียบเสียง” ไม่สนุกเหมือนก่อน ยกเว้นพวก “หัวโจก” บางคนที่เปลี่ยนจาก “ไพร่” เป็น “อำมาตย์” กันแล้วเท่านั้น
00 ขอภาวนาว่าข่าว รมว.ศึกษาธิการ วรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ไฟเขียวลอยตัวค่าเล่าเรียน เปิดทางให้โรงเรียนกับค่า “แป๊ะเจี๊ยะ” กันได้ตามสะดวกอ้างว่าเพื่อนำมาพัฒนาปรับปรุงคุณภาพการศึกษาในโรงเรียน หลังจากหมดปัญญาในการแก้ปัญหาป้องกัน หวังว่าเป็นข่าวฟังมาผิดพลาด เพราะถ้าเป็นจริงยุ่งแน่ แต่คนที่จะยุ่งก่อนคนอื่นก็คือตัว รมต.นั่นแหละ เพราะชาวบ้านมองด้วยหางตาดูถูกว่าคิดได้งัยเนี่ยะ !!
00 มีเสียงยืนยันค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่า “เสี่ยแม้ว” จะนั่งเครื่องบินส่วนตัวเข้าเขมรเพื่อร่วมคณะเจ้าหน้าที่ของไทย เจรจากับฝ่าย ฮุนเซน ให้ปล่อยตัว วีระ-ราตรี ที่ถูกจองจำที่นั่น แว่วว่าอาจเป็นวันที่ 19 ก.ย. ซึ่งงานนี้หมายมั่นปั้นมือว่าต้องให้เป็นผลงาน “พิเศษ” ให้ใครต่อใครพูดไม่ออกขณะที่เรื่องลับอื่นๆไม่ยอมบอก แต่ปัญหาก็คือ ถ้านายกฯยิ่งลักษณ์ หรือ รมต.คนไหนในฐานะเจ้าหน้าที่เมื่อพบกับ ทักษิณ ที่เป็นคนหลบหนีหมายจับแล้วไม่รวบตัวหรือประสานทางการเขมรเพื่อส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในไทยก็ถือว่ามีความผิดไปด้วยนะซี !!
