ผู้ประกอบการรอคิวพบ "พิชัย” สหพันธ์ขนส่งขอความชัดเจนนโยบายNGV ย้ำจุดยืนถ้าขึ้นราคาแล้วยังขาดแคลนเหมือนเดิมมีปัญหาแน่ ชี้ลูกค้าเริ่มไม่เชื่อมั่นหันใช้บริการรถน้ำมันมากขึ้น ตามติดด้วยกลุ่มแก้ว กระจก เซรามิค ขอมาตรการดูแลขึ้นราคาLPGอุตสาหกรรมด่วน ก่อนที่จะขยับอีก 3 บาทต่อกก.1ต.ค.นี้
นายยู เจียรยืนยงพงศ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สหพันธ์ฯ ได้ทำหนังสือขอนัดพบนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน เพื่อขอความชัดเจนนโยบายการส่งเสริมการใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV ) โดยเฉพาะจะต้องไม่เกิดภาวะขาดแคลนเช่นปัจจุบันที่ยังคงมีปัญหาในต่างจังหวัดอยู่ รวมถึงแนวทางการปรับขึ้นราคา NGV
“ก่อนอื่นเรายังไม่อยากพูดเรื่องขึ้นราคา แต่เราต้องการคำยืนยันว่าก๊าซฯ จะไม่ขาด เพราะถ้าขึ้นราคาแล้วก๊าซฯ ขาดเหมือนเดิมก็ไม่มีประโยชน์อะไร เราขอนัดพบเวลาแล้วคิดว่าสัปดาห์หน้าน่าจะได้เข้าหารือ”นายยูกล่าว
นายขวัญชัย ติยะวานิช นายกสมาคมผู้ประกอบการขนส่งสินค้าภาคอีสาน กล่าวว่า ปัญหาNGVขาดแคลนนอกแนวท่อยังคงมีอยู่ทั้งที่ช่วงฤดูฝนปกติรถบรรทุกจะหยุดวิ่ง 30% แต่เมื่อถึงช่วงปลายปีรถจะกลับมารับงานเพิ่มจึงเป็นห่วงว่าปัญหานี้จะรุนแรง คงจะต้องหารือกับรมว.พลังงานคนใหม่ถึงปัญหาดังกล่าว ซึ่งผู้ประกอบการไม่ขัดข้อถ้าจะให้บมจ.ปตท.ขึ้นราคา แต่มีเงื่อนไขต้องการันตีว่าก๊าซฯ จะไม่ขาดแคลน
“เวลานี้นอกแนวท่อต่างจังหวัดยังคงรอคิวเติม 2-3 ชั่วโมงบางวันก็ 4-5 ชั่วโมง ขนาดรถน้อยลง เพราะช่วงฤดูฝน เวลานี้เราไม่ใช่ปัญหา เพราะไม่ได้ขัดข้องที่จะขึ้นราคา มันอยู่ที่รัฐบาล แต่ขอเพียงต้องไม่ขาดแคลนจนต้องรอคิวเติมเหมือนปัจจุบัน ถ้าขึ้นแล้วเป็นเหมือนเดิมเราจะเกเรให้ดู และหากขึ้นไปแล้วเราจะคิดเองว่าจะใช้ต่อไปดีหรือไม่”นายขวัญชัยกล่าว
ทั้งนี้ ปัญหารอเติมก๊าซฯ ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าที่ใช้บริการรถบรรทุกสินค้ามาก โดยเฉพาะขณะนี้ลูกค้าที่ต้องการส่งสินค้าด่วนจะระบุเลยว่าต้องการใช้บริการรถที่ใช้น้ำมันเท่านั้น เนื่องจากที่ผ่านการไปรอคิวเติมก๊าซฯ ได้มีผลกระทบต่อการส่งสินค้าล่าช้าและทำให้สินค้าเสียหาย
นายสมชัย โอวุฒิธรรม ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมแก้วและกระจก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ผู้ประกอบการในกลุ่มแก้ว กระจก และกลุ่มเซรามิก ส.อ.ท.อยู่ระหว่างการขอนัดพบรมว.พลังงาน เพื่อเข้าไปชี้แจงผลกระทบของการ ปรับราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ในภาคอุตสาหกรรม และขอมาตรการบรรเทาผลกระทบจากรัฐบาลก่อนที่จะมีการปรับราคาขึ้นอีก 3 บาทต่อกิโลกรัม วันที่ 1 ต.ค.นี้ ตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ของรัฐบาลที่ผ่านมา
“ตามมติเดิมทยอยขึ้นไตรมาสละ 3 บาท หากขึ้นอีก 1 ต.ค.จะรวมขึ้น 6 บาทต่อกก. เอกชนคงอยู่ไม่ได้ เพราะเวลานี้ที่ขึ้นไป 3 บาทต่อกก. เอสเอ็มอีก็แย่แล้ว จึงต้องการให้ช่วยเหลือ เพราะถ้าขึ้นราคาก็จะแข่งขันไม่ได้กับรายใหญ่และสินค้านำเข้าและยิ่งถ้ามีนโยบายขึ้นค่าแรงทุกจังหวัดก็เตรียมปิดโรงงานแน่นอน ซึ่งเห็นด้วยว่าทุกอย่างเป็นกลไกแต่ควรมีเวลาให้เราปรับตัว”นายสมชัยกล่าว
นายยู เจียรยืนยงพงศ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สหพันธ์ฯ ได้ทำหนังสือขอนัดพบนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน เพื่อขอความชัดเจนนโยบายการส่งเสริมการใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV ) โดยเฉพาะจะต้องไม่เกิดภาวะขาดแคลนเช่นปัจจุบันที่ยังคงมีปัญหาในต่างจังหวัดอยู่ รวมถึงแนวทางการปรับขึ้นราคา NGV
“ก่อนอื่นเรายังไม่อยากพูดเรื่องขึ้นราคา แต่เราต้องการคำยืนยันว่าก๊าซฯ จะไม่ขาด เพราะถ้าขึ้นราคาแล้วก๊าซฯ ขาดเหมือนเดิมก็ไม่มีประโยชน์อะไร เราขอนัดพบเวลาแล้วคิดว่าสัปดาห์หน้าน่าจะได้เข้าหารือ”นายยูกล่าว
นายขวัญชัย ติยะวานิช นายกสมาคมผู้ประกอบการขนส่งสินค้าภาคอีสาน กล่าวว่า ปัญหาNGVขาดแคลนนอกแนวท่อยังคงมีอยู่ทั้งที่ช่วงฤดูฝนปกติรถบรรทุกจะหยุดวิ่ง 30% แต่เมื่อถึงช่วงปลายปีรถจะกลับมารับงานเพิ่มจึงเป็นห่วงว่าปัญหานี้จะรุนแรง คงจะต้องหารือกับรมว.พลังงานคนใหม่ถึงปัญหาดังกล่าว ซึ่งผู้ประกอบการไม่ขัดข้อถ้าจะให้บมจ.ปตท.ขึ้นราคา แต่มีเงื่อนไขต้องการันตีว่าก๊าซฯ จะไม่ขาดแคลน
“เวลานี้นอกแนวท่อต่างจังหวัดยังคงรอคิวเติม 2-3 ชั่วโมงบางวันก็ 4-5 ชั่วโมง ขนาดรถน้อยลง เพราะช่วงฤดูฝน เวลานี้เราไม่ใช่ปัญหา เพราะไม่ได้ขัดข้องที่จะขึ้นราคา มันอยู่ที่รัฐบาล แต่ขอเพียงต้องไม่ขาดแคลนจนต้องรอคิวเติมเหมือนปัจจุบัน ถ้าขึ้นแล้วเป็นเหมือนเดิมเราจะเกเรให้ดู และหากขึ้นไปแล้วเราจะคิดเองว่าจะใช้ต่อไปดีหรือไม่”นายขวัญชัยกล่าว
ทั้งนี้ ปัญหารอเติมก๊าซฯ ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าที่ใช้บริการรถบรรทุกสินค้ามาก โดยเฉพาะขณะนี้ลูกค้าที่ต้องการส่งสินค้าด่วนจะระบุเลยว่าต้องการใช้บริการรถที่ใช้น้ำมันเท่านั้น เนื่องจากที่ผ่านการไปรอคิวเติมก๊าซฯ ได้มีผลกระทบต่อการส่งสินค้าล่าช้าและทำให้สินค้าเสียหาย
นายสมชัย โอวุฒิธรรม ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมแก้วและกระจก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ผู้ประกอบการในกลุ่มแก้ว กระจก และกลุ่มเซรามิก ส.อ.ท.อยู่ระหว่างการขอนัดพบรมว.พลังงาน เพื่อเข้าไปชี้แจงผลกระทบของการ ปรับราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ในภาคอุตสาหกรรม และขอมาตรการบรรเทาผลกระทบจากรัฐบาลก่อนที่จะมีการปรับราคาขึ้นอีก 3 บาทต่อกิโลกรัม วันที่ 1 ต.ค.นี้ ตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ของรัฐบาลที่ผ่านมา
“ตามมติเดิมทยอยขึ้นไตรมาสละ 3 บาท หากขึ้นอีก 1 ต.ค.จะรวมขึ้น 6 บาทต่อกก. เอกชนคงอยู่ไม่ได้ เพราะเวลานี้ที่ขึ้นไป 3 บาทต่อกก. เอสเอ็มอีก็แย่แล้ว จึงต้องการให้ช่วยเหลือ เพราะถ้าขึ้นราคาก็จะแข่งขันไม่ได้กับรายใหญ่และสินค้านำเข้าและยิ่งถ้ามีนโยบายขึ้นค่าแรงทุกจังหวัดก็เตรียมปิดโรงงานแน่นอน ซึ่งเห็นด้วยว่าทุกอย่างเป็นกลไกแต่ควรมีเวลาให้เราปรับตัว”นายสมชัยกล่าว