xs
xsm
sm
md
lg

น้ำป่าโคลนถล่ม เมืองลับแลอ่วม นครสวรรค์เรือล่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - "น้ำป่า-ดินโคลน" ถล่มเขตน้ำปาด เมืองลับแล ทำชาวบ้านสูญหายถึง 7 คนเสียชีวิต 1 รายบ้านพังทั้งสิ้น 19 หลัง เร่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือและค้นหาผู้สูญหาย ล่าสุดพบแล้ว 2 ศพเหลืออีก 5 ด้านหน่วยแพทย์เผยชาวบางระกำ เครียดจัดหลังบ้านถูกน้ำท่วมมายาวนานจนถึงขั้นเสี่ยงฆ่าตัวตาย ส่วนพิจิตรเฮี้ยนหนัก ชาวบ้านสังเวยเพิ่มอีก 3 ศพทำสถิติ 23 ศพแล้ว ส่วนที่นครสวรรค์เรือขนทรายช่วยสกัดน้ำท่วมล่ม ทหารสูญ 1

รายงานข่าวจากจังหวัดอุตรดิตถ์แจ้งถึงเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มที่บ้านห้วยเดื่อ หมู่ 2 ต.น้ำไผ่ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ เมื่อคืนวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า ทำให้มีบ้านเรือนประชาชนเสียหายถูกน้ำป่าพัดหายไปทั้งหลังจำนวน 7 หลังแต่ไม่มีผู้เสียชีวิต และทำให้สะพานบ้านห้วยเดื่อขาด รถยนต์ไม่สามารถสัญจรได้

ในเวลาไล่เลี่ยกันห่างจากบ้านห้วยเดื่อหมู่ที่ 2 ไปประมาณ 5 กม.ก็ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากดินโคลนถล่มเช่นกัน ทำให้สะพานบ้านต้นขนุน หมู่ 3 ต.น้ำไผ่ อ.น้ำปาด ขาด ยานยนต์ทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปมาได้และน้ำป่าได้พัดบ้านเรือนราษฎรหายไปกับสายน้ำทั้งหมด 12 หลัง มีผู้สูญหาย 7 คน บาดเจ็บ 3 ราย วัวควายหายไปกับกระแสน้ำ 8 ตัว รถยนต์ของชาวบ้าน 1 คัน รถไถนาเดินตาม 1 คัน มอเตอร์ไซด์ 1 คันและรถยนต์ที่ใช้ในราชการของหน่วยพิทักษ์ป่าคลองตรอน 1 คันรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่อุทยาน 10 คัน บ้านพักครูโรงเรียนบ้านห้วยคอม หมู่ 4 ต.น้ำไผ่ อ.น้ำปาด ถูกน้ำป่าพัดหายไป 1 หลัง ครู 7 ชีวิตต้องวิ่งหนีตายขึ้นภูเขาหลังโรงเรียน อุปกรณ์สื่อการเรียนคอมพิวเตอร์ถูกน้ำป่าพัดหายไปทั้งหมด

สอบถามนายพจน์ จันทาบ สมาชิก อบต.หมู่ 3 บ้านต้นขนุน ต.น้ำไผ่ อ.น้ำปาด เผยว่า หมู่บ้านต้นขนุนและหมู่บ้านต้นเดื่อ มีประชากรทั้งหมด 365 คนจำนวน 103 ครัวเรือน โดยเมื่อเย็นวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกหนักตลอดทั้งคืน และได้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดมาก่อนในหมู่บ้านตั้งแต่ตนอยู่อาศัยมา กระทั่งเวลา 02.00 น.ของวานนี้(9 ก.ย.)ก็ได้เกิดน้ำป่าและโคลนที่มาพร้อมกับท่อนซุงและเศษไม้ขนาดใหญ่ไหลหลากเข้ามาในหมู่บ้านทำให้เกิดความเสียหายดังกล่าว

นางเทียน คำไว อายุ 60 ปีอยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ที่ 3 บ้านต้นขนุน ต.น้ำไผ่ อ.น้ำปาด ยืนร้องไห้ด้วยน้ำตานองหน้ากล่าวกับนายโยธินศร์ สมุทรคีรีจ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ว่า ขณะที่ตนเองเองนอนหลับอยู่ในบ้านกับลูก 2 คนก็ได้เกิดเหตุการณ์น้ำพัดบ้านของตนเองพังไปทั้งหลังและตนเองได้ลอยไปติดอยู่บนต้นไม้ใกล้บ้าน ส่วนลูกชายอีกคนที่เข้ามาช่วยพยุงตนเองหนีน้ำก็ลอยไปติดอยู่บนหลังคาบ้านของเพื่อนบ้าน แต่ลูกชายอีก 1 คน สูญหายไปกับกระแสน้ำจนป่านนี้ยังไม่รู้ชะตากรรม

“ตอนนี้ไม่อยากได้อะไรแล้วอยากจะโดดน้ำตาย เพราะทรัพย์สินที่ทำมาทั้งชีวิตได้สูญหายไปกับกระแสน้ำเมื่อคืนหมด เนื่องจากบ้านทั้งหลังก็มองไม่เห็นซากแล้ว เงินสดค่าข้าวโพด ที่เพิ่งขายได้และได้เก็บไว้ ยังไม่ได้นำไปฝากธนาคาร 200,000 บาทก็หายไปกับสายน้ำ ทั้งรถยนต์ 1 คันและรถไถนาเดินตามอีก 1 คัน ควายของตนเองอีก 8 ตัวก็หายไปกับกระแสน้ำด้วย”

สำหรับผู้สูญหาย 7 รายมีรายชื่อดังนี้คือ นายพา คำไบ, นางปัน คำไบ, นางกัญญาณี ซ่อมผิน, นายประสิทธิ์ อินดีสี, นายพริก อินดีสี, เด็กชายเกล้า อายุ 5 ขวบไม่ทราบนามสกุล และนายบาน คำไบ ส่วนผู้เสียชีวิต 1 รายยังไม่ทราบชื่อ ถูกสังกะสีบาดที่ลำคอตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้ถูกส่งมาทำการรักษาตัวที่โรงพยาบาลอำเภอน้ำปาดนั้น ขณะนี้ได้เสียชีวิตแล้ว

ด้านนายโยธินศร์ สมุทรคีรีจ์ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์, พล.ต.ต.พิเชษฐ วัฒนลักษณ์ ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบเบื้องต้นพร้อมกับกองพันทหารม้าที่ 7 จังหวัดทหารบกอุตรดิตถ์พร้อม กองร้อย ตชด.316 อำเภอน้ำปาด เจ้าหน้ามูลนิธิอุตรดิตถ์สงเคราะห์รวมกำลังพลทั้งหมดที่ได้ลงไปในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยและติดตามค้นหาผู้สูญหายทั้ง 3 หมู่บ้านเป็นกว่า 250 นาย ส่วนประชาชนที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ทางราชการได้จัดเตรียมที่พักชั่วคราวไว้ที่โรงเรียนบ้านต้นขนุน

ต่อมาช่วงเวลา 18.00 น.นายฐานิชย์ เทียนทอง รมช.มหาดไทย ที่ได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยือนประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมอยู่ที่ จ.นครสวรรค์ ได้เดินลงพื้นที่ที่ ต.น้ำไผ่ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ เพื่อตรวจสอบความเสียหายอีกด้วย

ล่าสุดมีรายงานแจ้งว่า ทีมค้นหาได้พบศพผู้สูญหายจากเหตุการณ์ดินโคลนถล่ม ต.น้ำไผ่ อ.น้ำปาดแล้ว 2 ศพคือนางพริก อินดีศรี และนายประสิทธิ์ อินดีศรี ราษฎรหมู่ 3 ต.น้ำไผ่ อ.น้ำปาด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำศพไปเก็บรักษาไว้ที่โรงพยาบาลน้ำปาด ส่วนผู้สูญหายรายที่เหลืออีก 5 รายหน่วยกู้ภัย และ ปภ.อุตรดิตถ์ กำลังระดมเจ้าหน้าที่ออกค้นหาอยู่

**บางระกำเครียดเสี่ยงฆ่าตัวตายนับร้อย

ด้านนายชินวัฒน์ ชมประเสริฐ สาธารณสุขอำเภอบางระกำ จ.พิษณุโลก เผยว่า วานนี้ ได้จัดชุดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ลงเรือท้องแบนไปบริการสาธารณสุขชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมบริเวณหมู่ 6 บ้านหนองแพงพวย ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ พร้อมจัดชุด อสม.ดูแลผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ใกล้คลอด และหญิงที่เพิ่งคลอดทารกแรกเกิด ที่สำคัญคือผู้ป่วยโรคเครียดจากภาวะน้ำท่วม

"ขณะนี้มีชาวบางระกำ ในพื้นที่น้ำท่วมที่อยู่ในภาวะเสี่ยงถึงขั้นฆ่าตัวตายมีถึง 78 รายแล้วเพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 54 ที่สำรวจพบกว่า 30 รายโดยมีสาเหตุความเครียดจากภาวะน้ำท่วมทรัพย์สิน นาข้าวเสียหาย และน้ำท่วมขังบริเวณบ้านเป็นเวลานาน จึงได้จัดทีม อสม.เฝ้าระวังผู้ป่วยโรคเครียดทุกราย ทั้งการจัดยาลดความเครียดพร้อมจัดทีมอาสาเข้าไปพูดคุยกับผู้ป่วยเพื่อผ่อนคลายภาวะเครียดแล้ว"

**น้ำท่วมพิจิตรเฮี้ยนหนักตายเพิ่มอีก3

ด้านนายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เปิดเผยภายหลังนั่งเรือออกแจกจ่ายถุงยังชีพให้กับชาวบ้านในเขต อ.บางมูลนาก และ อ.ตะพานหิน วานนี้(8 ก.ย.54)ว่า สถานการณ์น้ำท่วมของพิจิตรยังคงจะต้องอยู่ในขั้นวิกฤติเช่นนี้ไปจนถึงต้นเดือนตุลาคม 54 ซึ่งขณะนี้พบว่านาข้าวเสียหายไปแล้ว 165,674 ไร่ ใน 12 อำเภอ ทางหลวงหมายเลข 113 จาก อ.ตะพานหินไป อ.ทับคล้อที่บริเวณหน้าโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชตะพานหิน ถูกน้ำท่วมสูง ทำให้คนป่วยและแพทย์-พยาบาล เดือดร้อนกันทั่วหน้า
ล่าสุดหมู่บ้านเอื้ออาทร 280 หลังคาเรือน ซึ่งตั้งอยู่ที่หมู่9 ต.ปากทาง อ.เมือง จ.พิจิตร ก็ถูกน้ำไหลเข้าท่วมทั้งหมู่บ้าน

และจากสถิติ 45 วันที่ผ่านมาที่จังหวัดพิจิตรถูกน้ำท่วมมีผู้ตกน้ำตายไปแล้ว 20 คนแล้วนั้นเมื่อวันที่ 8 ก.ย.ก็มีตกน้ำตายเพิ่มอีก 3 คนได้แก่นายจีรานุวัฒน์ บัวบาน 32 ปี หมู่ 2 ต.บ้านน้อย, นายอนันต์ อ่องเภา 37 ปี หมู่ 1 ต.ท่าบัว, นายส่งศักดิ์ เทพไทย 49 ปีหมู่ 10 ต.ท้ายน้ำ ซึ่งทั้ง 3 คนเป็นชาว อ.โพทะเล จึงทำให้ขณะนี้มีสถิติผู้ตกน้ำตายรวมแล้ว 23ราย

***ทหารช่วยน้ำท่วมนครสวรรค์เรือล่มสูญ1

เย็นวานนี้ (9 ก.ย.) ที่ จ.นครสวรรค์ เกิดเหตุเรือขนทรายของทหาร มณฑลทหารบกที่ 31 ค่ายจิรประวัติ จังหวัดนครสวรรค์ เกิดล่มกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงบริเวณชุมชนเกาะญวณ ติดกับโรงบำบัดน้ำ เสียเทศบานครนครสวรรค์ เขตเทศบาลบางนครนครสวรรค์ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ในที่เกิดเหตุ พบจ่าสิบตรี ธิติวุฒิ กุลนาดา ทหารช่าง ร.4 พัน 2 ค่ายจิรประวัติ และ คนงานเทศบาลนครนครสวรรค์ ชื่อนายอำนาจ ไม่ทราบนามสกุล กำลังช่วยเหลือตัว เองอยู่กลางแม่น้ำ เจ้าหน้าที่จึงช่วยขึ้นฝั่งมาได้อย่างปลอดภัย แต่ทราบว่ามีผู้สูญหาย 1 รายได้แก่ จ่าสิบเอกวสันต์ ธันนิธิ อายุ 58 ปี สังกัด ร.4พัน 2 ค่ายจิรประวัติ ส่วนเรือท้องแบนที่ขนทรายมานั้นจมอยู่ใต้น้ำเจ้าพระยา
กำลังโหลดความคิดเห็น