ASTVผู้จัดการรายวัน –ยักษ์ใหญ่อสังหาฯ “พฤกษา” จี้รัฐบาลรีบแจงนโยบายบ้านหลังแรก เผยฉุดรายได้ไตรมาส 3 หดแน่ 20% บ้านราคา 1-2 ล้านบาทคนชะลอโอนมากที่สุดด ด้านแผนดำเนินงานเตรียมยกระดับคอนโดฯ หรู แบรนด์ “ไอวี่” สู่ระดับอินเตอร์พร้อมจ้างมืออาชีบริหารโครงการ และจัดหาผู้เช่า ประเดิมโครงการแรกไอวี่ ทองหล่อ
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS เปิดเผยว่า ความไม่ชัดเจนของนโยบายบ้านหลักแรกของรัฐบาล ส่งผลกระทบให้ลูกค้าชะลอโอนบ้าน เพื่อรอรับประโยชน์จากมาตรการดังกล่าว โดยเฉพาะกลุ่มบ้านราคา 1-2 ล้านบาท ทำให้ยอดขายและรายได้ของหลายบริษัทปรับลดลง สำหรับพฤกษาคาดว่ารายได้ในไตรมาส 3 จะลดลงประมาณ 20%
“ผู้บริโภคชะลอโอนบ้าน เพราะต้องการรับประโยชน์จากมาตรการบ้านหลักแรก ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ย 0% ส่วนลดทางภาษี เพราะช่วยลดภาระได้มาก แต่ที่ผ่านมายังไม่มีความชัดเจน อีกทั้งข่าวที่ออกมายังสร้างความสับสนต่อวงการอสังหาฯเป็นอย่างมาก รวมถึงภาษีรายได้นิติบุคลจะลดลงจาก 30% เหลือ 23% หรือไม่ รัฐบาลควรรีบออกมาระบุให้ชัดเจนไปเลยว่าจะเอายังไง จะไม่มีก็ไม่เป็นรัย เพื่อสร้างความชัดเจนให้แก่ภาคอสังหาฯ คนซื้อก็จะได้รีบซื้อ รีบโอน ผู้ประกอบการก็จะได้วางแผนการลงทุนได้ถูก” นายประเสริฐกล่าว
นายประเสริฐกล่าวต่อว่า บริษัทเตรียมต่อยอดธุรกิจจากการพัฒนาโครงการคอนโดฯหรูแบรนด์ “ไอวี่” ซึ่งในปัจจุบันมี 6 โครงการ สร้างรายได้กว่า 10,000 ล้านบาท ได้แก่ ไอวี่ รัชดา, ไอวี่ ริเวอร์, ไอวี่ สาทร, ไอวี่ ปิ่นเกล้า, ไอวี่ ทองหล่อ และไอวี่ แอมพิโอ โดยตั้งเป้าหมายพัฒนาไอวี่ให้เป็นคอนโดฯระดับ A+ ทั้งในเรื่องการพัฒนาโครงการ โดยจะเน้นทำเลที่ตั้งในย่าน CBD, ใช้วัสดุที่มีคุณภาพ ใสใจเรื่องพื้นที่ส่วนกลาง มาตรฐานเทียบเท่าโรงแรม 5 ดาว เพดานสูงไม่ต่ำกว่า 2.8 เมตร ให้ความหรูหรา โล่ง โร่ง สบาย
ด้านการบริการได้ตั้งหน่วยงาน “Servizio” (เซอวิสิโอ) ที่ให้บริการดูแลลูกค้า ทั้งในเรื่องการฝากขาย เช่า เพราะจากสถิติพบว่า ลูกค้ากว่า 30% ที่ซื้อโครงการไอวี่เป็นการซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า รวมไปถึงเป็นตัวกลางในการเจรจาสรรหาบริษัทที่เข้ามารับช่วงงานบริหารโครงการ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไอวี่ให้ความสำคัญมาก เนื่องจากผู้ที่เข้ามาบริหารส่วนกลางของคอนโดฯเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้คอนโดฯมีมูลค่ามากขึ้น หรือว่าด้อยค่าลง ซึ่งที่ผ่านมาเซอวิสิโอได้เป็นตัวเชื่อมเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าและบริษัทได้ดึงพันธมิตรระดับแบรนด์เนม เช่น โจนส์ แลง ลาซาลส์, เฟิร์ส แปซิฟิค ฮาริสัน, ซาวิลล์ เข้ามาให้บริการในโครงการของไอวี่
ล่าสุดได้นำโครงการไอวี่ ทองหล่อ เป็นโครงการนำร่อง โดยให้กลุ่มลูกค้าที่ซื้อห้องพักภายในโครงการที่ประสงค์จะปล่อยเช่า รวบรวมให้บริษัท อาริวา ฮอสพีทอลิตี้ กรุ๊ป เป็นผู้บริหารจัดการให้ ซึ่งกลุ่มลูกค้าจะได้รับผลตอบแทนไม่น้อยกว่า 5-6% ทั้งนี้นอกจากโครงการนี้แล้วยังมีแผนที่จะนำโครงการไอวีสาทร และไอวี่ เอ็มพริโอ รัชดาภิเษกมาเข้าโครงการนี้ด้วย ซึ่งจะทำให้แบรนด์ไอวี่มีความแข็งแกร่งและมีความเป็นอินเตอร์ฯมากยิ่งขึ้น
ด้านนายคาเมอรัล อ่อง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาริวาฯ กล่าวว่าในย่านทองหล่อจะมียูนิตที่บริหารรูปแบบเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ทั้งคอนโดฯ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ โรงแรม อยู่ประมาณ 6,000 ยูนิต โดยเชื่อว่าเมื่อเข้าไปบริหารห้องพักของไอวี่แล้วอัตราการเข้าพักน่าจะเต็ม เนื่องจากมีลูกค้าในมือที่เป็นชาวต่างชาติทั้งยุโรป อเมริกาและเอเชียอยู่แล้ว
นางสุพินท์ มีชูชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า คาดว่าอัตราค่าเช่าต่อตารางเมตรในย่านทองหล่อนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 800-850 ล้านบาทต่อตารางเมตร และมีอัตราการเข้าพักประมาณ 65% ดังนั้นการบริหารในลักษณะของเซอร์วิสคอนโดฯนั้นจะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับอาคารด้วย เพราะมีการดูแลให้ดูดีอยู่เสมอ
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS เปิดเผยว่า ความไม่ชัดเจนของนโยบายบ้านหลักแรกของรัฐบาล ส่งผลกระทบให้ลูกค้าชะลอโอนบ้าน เพื่อรอรับประโยชน์จากมาตรการดังกล่าว โดยเฉพาะกลุ่มบ้านราคา 1-2 ล้านบาท ทำให้ยอดขายและรายได้ของหลายบริษัทปรับลดลง สำหรับพฤกษาคาดว่ารายได้ในไตรมาส 3 จะลดลงประมาณ 20%
“ผู้บริโภคชะลอโอนบ้าน เพราะต้องการรับประโยชน์จากมาตรการบ้านหลักแรก ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ย 0% ส่วนลดทางภาษี เพราะช่วยลดภาระได้มาก แต่ที่ผ่านมายังไม่มีความชัดเจน อีกทั้งข่าวที่ออกมายังสร้างความสับสนต่อวงการอสังหาฯเป็นอย่างมาก รวมถึงภาษีรายได้นิติบุคลจะลดลงจาก 30% เหลือ 23% หรือไม่ รัฐบาลควรรีบออกมาระบุให้ชัดเจนไปเลยว่าจะเอายังไง จะไม่มีก็ไม่เป็นรัย เพื่อสร้างความชัดเจนให้แก่ภาคอสังหาฯ คนซื้อก็จะได้รีบซื้อ รีบโอน ผู้ประกอบการก็จะได้วางแผนการลงทุนได้ถูก” นายประเสริฐกล่าว
นายประเสริฐกล่าวต่อว่า บริษัทเตรียมต่อยอดธุรกิจจากการพัฒนาโครงการคอนโดฯหรูแบรนด์ “ไอวี่” ซึ่งในปัจจุบันมี 6 โครงการ สร้างรายได้กว่า 10,000 ล้านบาท ได้แก่ ไอวี่ รัชดา, ไอวี่ ริเวอร์, ไอวี่ สาทร, ไอวี่ ปิ่นเกล้า, ไอวี่ ทองหล่อ และไอวี่ แอมพิโอ โดยตั้งเป้าหมายพัฒนาไอวี่ให้เป็นคอนโดฯระดับ A+ ทั้งในเรื่องการพัฒนาโครงการ โดยจะเน้นทำเลที่ตั้งในย่าน CBD, ใช้วัสดุที่มีคุณภาพ ใสใจเรื่องพื้นที่ส่วนกลาง มาตรฐานเทียบเท่าโรงแรม 5 ดาว เพดานสูงไม่ต่ำกว่า 2.8 เมตร ให้ความหรูหรา โล่ง โร่ง สบาย
ด้านการบริการได้ตั้งหน่วยงาน “Servizio” (เซอวิสิโอ) ที่ให้บริการดูแลลูกค้า ทั้งในเรื่องการฝากขาย เช่า เพราะจากสถิติพบว่า ลูกค้ากว่า 30% ที่ซื้อโครงการไอวี่เป็นการซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า รวมไปถึงเป็นตัวกลางในการเจรจาสรรหาบริษัทที่เข้ามารับช่วงงานบริหารโครงการ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไอวี่ให้ความสำคัญมาก เนื่องจากผู้ที่เข้ามาบริหารส่วนกลางของคอนโดฯเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้คอนโดฯมีมูลค่ามากขึ้น หรือว่าด้อยค่าลง ซึ่งที่ผ่านมาเซอวิสิโอได้เป็นตัวเชื่อมเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าและบริษัทได้ดึงพันธมิตรระดับแบรนด์เนม เช่น โจนส์ แลง ลาซาลส์, เฟิร์ส แปซิฟิค ฮาริสัน, ซาวิลล์ เข้ามาให้บริการในโครงการของไอวี่
ล่าสุดได้นำโครงการไอวี่ ทองหล่อ เป็นโครงการนำร่อง โดยให้กลุ่มลูกค้าที่ซื้อห้องพักภายในโครงการที่ประสงค์จะปล่อยเช่า รวบรวมให้บริษัท อาริวา ฮอสพีทอลิตี้ กรุ๊ป เป็นผู้บริหารจัดการให้ ซึ่งกลุ่มลูกค้าจะได้รับผลตอบแทนไม่น้อยกว่า 5-6% ทั้งนี้นอกจากโครงการนี้แล้วยังมีแผนที่จะนำโครงการไอวีสาทร และไอวี่ เอ็มพริโอ รัชดาภิเษกมาเข้าโครงการนี้ด้วย ซึ่งจะทำให้แบรนด์ไอวี่มีความแข็งแกร่งและมีความเป็นอินเตอร์ฯมากยิ่งขึ้น
ด้านนายคาเมอรัล อ่อง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาริวาฯ กล่าวว่าในย่านทองหล่อจะมียูนิตที่บริหารรูปแบบเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ทั้งคอนโดฯ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ โรงแรม อยู่ประมาณ 6,000 ยูนิต โดยเชื่อว่าเมื่อเข้าไปบริหารห้องพักของไอวี่แล้วอัตราการเข้าพักน่าจะเต็ม เนื่องจากมีลูกค้าในมือที่เป็นชาวต่างชาติทั้งยุโรป อเมริกาและเอเชียอยู่แล้ว
นางสุพินท์ มีชูชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า คาดว่าอัตราค่าเช่าต่อตารางเมตรในย่านทองหล่อนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 800-850 ล้านบาทต่อตารางเมตร และมีอัตราการเข้าพักประมาณ 65% ดังนั้นการบริหารในลักษณะของเซอร์วิสคอนโดฯนั้นจะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับอาคารด้วย เพราะมีการดูแลให้ดูดีอยู่เสมอ