น้ำท่วม กระทบ ยอดขาย-ยอดสมัครสาวมิสทีน 8 เดือนแรก ล่วง ล่าสุด บริษัท เบทเทอร์เวย์ อัดกิจกรรม โค้ง สุดท้ายปีนี้ลุยเสริมพันธมิตรแคตตาล็อคฟรายเดย์ แยกธุรกิจฟาริส บาย นาริส หวัง ดันยอดสิ้นปี โตตามเป้าหมาย 11%
นายดนัย ดีโรจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบทเทอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรง “มิสทิน” เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงาน 8 เดือนแรกปีนี้ บริษัท มีสัดส่วนการเติบโตที่ลดลง โดย ช่วงไตรมาส 2 เติบโตเพียง 8% และ ไตรมาส 3 เติบโตเพียง 5% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าเป้าหมายที่ประมาณการณ์ว่าจะเติบโต 11% สาเหตุ มาจากเป็นช่วงเปลี่ยนถ่ายรัฐบาล ต่อด้วยช่วงฤดูฝน ซึ่งปีนี้ มีฝนตกชุก หลายพื้นที่น้ำท่วม จึงทำให้กำลังซื้อชะลอตัว โดยเฉพาะลูกค้าในพื้นที่อีสาน และ พื้นที่น้ำท่วม
เบื้องต้น บริษัท ได้จัดกิจกรรมการตลาด เพื่อกระตุ้นการขายออกมาอย่างต่อเนื่อง คู่ไปกับให้รางวัลพิเศษกับสาวมิสทินเมื่อซื้อสินค้าครบตั้งแต่ 1,500-1,700 บาท อีกทั้งความชัดเจน เรื่องนโยบายค่าแรงงานขั้นต่ำของรัฐบาล ,และราคาผลผลิตทางการเกษตร ที่มีความชัดเจนมากขึ้น จะส่งผลให้ กำลังซื้อของผู้บริโภคเริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วง 4 เดือนนับจากนี้ และมั่นใจ ถึงปลายปี บริษัท จะมียอดขายรวมที่ 12,000 ล้านบาท เติบโต 11-12% ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยสัดส่วนรายได้หลัก จะมาจากพื้นที่ กรุงเทพฯ และภาคใต้ ตามด้วย พื้นที่ภาคอีสาน ภาคเหนือ และภาคตะวันออก ตามลำดับ
ด้านแผนธุรกิจ นับจากนี้ บริษัท จะให้ความสำคัญกับการทำตลาดแคตตาล็อคฟรายเดย์มากขึ้น โดยเร่งหาพันธมิตรเข้ามาร่วมธุรกิจ จะได้เพิ่มความหลากหลายของสินค้า ซึ่งปัจจุบัน แบ่งเป็น 4 กลุ่ม หลัก ได้แก่ 1. กลุ่มสินค้าเพิ่มสุขภาพ เช่น อาหารเสริม 2.กลุ่มสินค้าความงาม เช่น เครื่องสำอาง 3. กลุ่มสินค้าการศึกษา และ 4. กลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ เช่น ของใช้ของตกแต่งบ้าน ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจา พันธมิตรใหม่ 7 ราย เพื่อนำสินค้า เข้ามาจำหน่าย ในแคตตาล็อคฟรายเดย์ตั้งเป้าหมายอีก 5 ปีข้างหน้า บริษัท จะมีรายได้ ที่เกิดจากการสั่งซื้อสินค้าในแคตตาล็อคฟรายเดย์ ที่ 10,000 ล้านบาท เพิ่มจากปัจจุบัน ที่มีรายได้อยู่ที่ 3,000 ล้านบาท
ทั้งนี้การเลือกพันธมิตรทางธุรกิจ มาจำหน่ายในแคตตาล็อคฟรายเดย์ จะเน้นที่เป็นสินค้า แบรนด์ชั้นนำ เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภคอยู่แล้ว เข้ามาจำหน่าย รวมถึง จะนำสินค้าเอ็กคลูซีฟที่ไม่เคยมีจำหน่ายที่ใดมาก่อนมาลงขายในแคตตาล็อคฟรายเดย์ เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า แต่ยอมรับ ปัญหาน้ำท่วม ส่งผลกระทบให้ ยอดสมัครสมาชิกสาวมิสทีนช่วงนี้ชะลอตัว โดยปัจจุบัน มีสมาชิกสาวมิสทีนทั้งหมดราว 1.1 ล้านราย
ในส่วนของ ผลิตภัณฑ์แบรนด์ ฟาริส บาย นาริสมี บริษัท มีแผนจะแยกธุรกิจ ส่วนนี้ออกในปีหน้า ทั้งส่วนของทีมขาย และ ทีมการตลาด เพื่อให้ ธุรกิจของฟาริส บาย นาริสมีความชัดเจน สร้างยอดขายให้ได้มากขึ้น ปัจจุบัน สินค้าแบรนด์ดังกล่าว สร้างยอดขายให้บริษัท 300 ล้านบาท คิดเป็น สัดส่วน 3% ของรายได้รวม
นายดนัย ดีโรจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบทเทอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรง “มิสทิน” เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงาน 8 เดือนแรกปีนี้ บริษัท มีสัดส่วนการเติบโตที่ลดลง โดย ช่วงไตรมาส 2 เติบโตเพียง 8% และ ไตรมาส 3 เติบโตเพียง 5% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าเป้าหมายที่ประมาณการณ์ว่าจะเติบโต 11% สาเหตุ มาจากเป็นช่วงเปลี่ยนถ่ายรัฐบาล ต่อด้วยช่วงฤดูฝน ซึ่งปีนี้ มีฝนตกชุก หลายพื้นที่น้ำท่วม จึงทำให้กำลังซื้อชะลอตัว โดยเฉพาะลูกค้าในพื้นที่อีสาน และ พื้นที่น้ำท่วม
เบื้องต้น บริษัท ได้จัดกิจกรรมการตลาด เพื่อกระตุ้นการขายออกมาอย่างต่อเนื่อง คู่ไปกับให้รางวัลพิเศษกับสาวมิสทินเมื่อซื้อสินค้าครบตั้งแต่ 1,500-1,700 บาท อีกทั้งความชัดเจน เรื่องนโยบายค่าแรงงานขั้นต่ำของรัฐบาล ,และราคาผลผลิตทางการเกษตร ที่มีความชัดเจนมากขึ้น จะส่งผลให้ กำลังซื้อของผู้บริโภคเริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วง 4 เดือนนับจากนี้ และมั่นใจ ถึงปลายปี บริษัท จะมียอดขายรวมที่ 12,000 ล้านบาท เติบโต 11-12% ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยสัดส่วนรายได้หลัก จะมาจากพื้นที่ กรุงเทพฯ และภาคใต้ ตามด้วย พื้นที่ภาคอีสาน ภาคเหนือ และภาคตะวันออก ตามลำดับ
ด้านแผนธุรกิจ นับจากนี้ บริษัท จะให้ความสำคัญกับการทำตลาดแคตตาล็อคฟรายเดย์มากขึ้น โดยเร่งหาพันธมิตรเข้ามาร่วมธุรกิจ จะได้เพิ่มความหลากหลายของสินค้า ซึ่งปัจจุบัน แบ่งเป็น 4 กลุ่ม หลัก ได้แก่ 1. กลุ่มสินค้าเพิ่มสุขภาพ เช่น อาหารเสริม 2.กลุ่มสินค้าความงาม เช่น เครื่องสำอาง 3. กลุ่มสินค้าการศึกษา และ 4. กลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ เช่น ของใช้ของตกแต่งบ้าน ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจา พันธมิตรใหม่ 7 ราย เพื่อนำสินค้า เข้ามาจำหน่าย ในแคตตาล็อคฟรายเดย์ตั้งเป้าหมายอีก 5 ปีข้างหน้า บริษัท จะมีรายได้ ที่เกิดจากการสั่งซื้อสินค้าในแคตตาล็อคฟรายเดย์ ที่ 10,000 ล้านบาท เพิ่มจากปัจจุบัน ที่มีรายได้อยู่ที่ 3,000 ล้านบาท
ทั้งนี้การเลือกพันธมิตรทางธุรกิจ มาจำหน่ายในแคตตาล็อคฟรายเดย์ จะเน้นที่เป็นสินค้า แบรนด์ชั้นนำ เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภคอยู่แล้ว เข้ามาจำหน่าย รวมถึง จะนำสินค้าเอ็กคลูซีฟที่ไม่เคยมีจำหน่ายที่ใดมาก่อนมาลงขายในแคตตาล็อคฟรายเดย์ เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า แต่ยอมรับ ปัญหาน้ำท่วม ส่งผลกระทบให้ ยอดสมัครสมาชิกสาวมิสทีนช่วงนี้ชะลอตัว โดยปัจจุบัน มีสมาชิกสาวมิสทีนทั้งหมดราว 1.1 ล้านราย
ในส่วนของ ผลิตภัณฑ์แบรนด์ ฟาริส บาย นาริสมี บริษัท มีแผนจะแยกธุรกิจ ส่วนนี้ออกในปีหน้า ทั้งส่วนของทีมขาย และ ทีมการตลาด เพื่อให้ ธุรกิจของฟาริส บาย นาริสมีความชัดเจน สร้างยอดขายให้ได้มากขึ้น ปัจจุบัน สินค้าแบรนด์ดังกล่าว สร้างยอดขายให้บริษัท 300 ล้านบาท คิดเป็น สัดส่วน 3% ของรายได้รวม