นราธิวาส - คนร้ายใช้เอ็ม 16 ถล่ม พนง.ขับรถมิสทีนพรุนทั้งร่าง ก่อนซุกระเบิดแสวงเครื่องหนัก 20 ก.ก. ปนไว้กับสินค้าที่กระบะหลัง หวังสังหาร จนท.ขณะเข้าตรวจสอบ โชคดียิงทำลายสำเร็จ
เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ร.ต.อ.กฤตินาท เมืองลาย ร้อยเวร สภ.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิตบนถนนในหมู่บ้านเจาะบองอ หมู่ 7 ต.สาวอ อ.รือเสาะ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สะท้านฟ้า วามะสิงห์ ผกก.สภ.รือเสาะ พ.ต.ท.กระจ่าง รักษณ์ณรงค์ หัวหน้ากองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จ.นราธิวาส ร.ต.ต.แชน วรงคไพสิษฐ์ หัวหน้าชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.ภ.จ.นราธิวาส และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารจำนวนหนึ่ง รุดเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมกซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน กจ-653 กทม ซึ่งข้างรถมีโลโก้ผลิตภัณฑ์มิสทีนติดอยู่ โดยพบว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถส่งของของบริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือมิสทีน จอดอยู่บนถนนในสภาพกระจกหน้าถูกกระสุนปืนสงคราม เอ็ม.16 เป็นรูพรุน ที่บริเวณที่นั่งคนขับพบศพผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดอยู่คาพวงมาลัย ทราบชื่อคือ นายเสรี รักษ์พันธ์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 369 หมู่ 1 ต.ชะม่วง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง มีบาดแผลถูกกระสุนปืนสงครามเอ็ม.16 พรุนไปทั้งร่าง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภายในรถ ซึ่งมีผลิตภัณฑ์มิสทีนจำนวนมากวางอยู่ภายในกระบะหลัง และเมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดเจ้าหน้าที่พบ ระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ถังดังเพลิงหนัก 20 ก.ก. จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ ซึ่งวางซุกซ่อนปะปนอยู่กับผลิตภัณฑ์มิสทีน เจ้าหน้าที่จึงได้ตะโกนให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกห่างจากรัศมีระเบิด ก่อนที่จะใช้ปืนแรงดันน้ำพลังสูงยิงทำลาย จากนั้นจึงทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง พบปลอกกระสุนปืนสงครามเอ็ม.16 จำนวน 25 ปลอก ตกอยู่บนพื้นถนน เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายเสรี ผู้ตาย ซึ่งเป็นพนักงานส่งของของบริษัท เบทเตอร์เวย์(ประเทศไทย) จำกัด หรือมิสทีน ได้ขับรถยนต์กระบะของบริษัทโดยบรรทุกผลิตภัณฑ์มิสทีนเพื่อเดินทางมาส่งให้กับลูกค้าในหมู่บ้านจุดเกิดเหตุ ในระหว่างที่นายเสรี ขับรถอยู่นั้นได้มีคนร้ายจำนวน 4 คน พร้อมอาวุธปืนสงครามครบมือวิ่งออกจากป่ารกทึบริมทาง ก่อนจะโบกรถเพื่อให้นายเสรี และใช้อาวุธปืนเอ็ม.16 คนละกระบอกยิงใส่นายเสรีจนเสียชีวิตคาพวงมาลัย
นอกจากนี้ ก่อนหลบหนีคนร้ายได้เตรียมระเบิดแสวงเครื่องหนัก 20 กิโลกรัมไว้ล่วงหน้า และนำระเบิดดังกล่าวไปวางปะปนกับผลิตภัณฑ์มิสทีนที่อยู่ในกระบะหลัง เพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่ขณะตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ได้เปิดเครื่องรบกวนสัญญาณโทรศัพท์มือถือทำให้ระเบิดไม่สามารถทำงานได้ ก่อนจะเก็บกู้ไว้ได้
