ASTVผู้จัดการรายวัน – “ฟู้ดแลนด์” เตรียมเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 500 ล้านบาท พร้อมดันบริษัทฯเข้าตลาดหุ้นอีก 2 ปี หวังขยายฐานธุรกิจ จ่อผุดคลังสินค้าใหม่รามอินทรากว่า 900 ล้านบาท เปิดทางร่วมทุนทำคอมมูนิตี้มอลล์บนที่ดินที่มีอยู่หลายแปลง ยันไม่ลดไซส์
นายสมศักดิ์ ตีระพัฒนกุล ประธานกรรมการ บริษัท ฟู้ดแลนด์ ซูเปอร์มาร์เก็ต จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯอยู่ระหว่างการนยื่นขอเพิ่มทุนจดเบียนบริษัทอีก 500 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีทุนทดทะเบียนแล้ว 1,000 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในการขยายธุรกิจ และเตรียมตัวนำบริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในอนาคต คาดว่าภายใน 2 ปีจากนี้จะดำเนินการได้
การเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯจะทำให้เรามีความได้เปรียบในเรื่องของต้นทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเสียภาษีนิติบุคคลจะลดลงเหลือ 25% จากเดิมที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหุ้นจะเสียภาษีนิติบุคคล 30%
สำหรับแผนการลงทุนในอนาคตจะขยายสาขาเพิ่มขึ้นจากเดิมที่อาจจะไม่ได้เร่งมากนัก จากการก่อตั้งธุรกิจมาครบ 39 ปีในปีนี้ มีสาขารวมเพียง 11 สาขาเท่านั้น ซี่งที่ผ่านมาเราค่อนข้างจะซูเปอร์คอนเซอร์เวทีฟ (อนุรักษ์นิยมอย่างมาก) แต่ขณะนี้การแข่งขันธุรกิจค้าปลีกซูเปอร์มาร์เก็ตรุนแรงมากขึ้น เราคงต้องดูเทรนด์ด้วย เพราะถ้าเรามีจำนวนสาขาน้อยจะไม่เติบโตมากนัก วอลุ่มเราก็น้อยเมื่อเทียบกับรายอื่น จะเสียเปรียบในด้านการซื้อวัตถุดิบและการสั่งซื้อสินค้า แต่ก็คงไม่ขยายตัวเร็วเกินไป ซึ่งบริษัทฯมีเงินทุนพร้อมเพราะเป็นธุรกิจที่รับเงินสดหมุนเวียนทุกวัน ไม่ได้กู้เงิน
ตามแผนงานจะก่อสร้างคลังสินค้าขนาดใหญ่แห่งใหม่ มูลค่ากว่า 900 ล้านบาท โดยคาดว่าจะใช้ที่ดินส่วนหนึ่งบริเวณรามอินทรา กิโลเมตร 8 ประมาณ 46 ไร่ ซื้อมากว่า 20 ปีแล้ว
นอกจากนั้นยังมีที่ดินอีกหลายแปลง เช่น ที่ดินจำนวน 7 ไร่ที่หัวหิน ซื้อมานาน 9 ปีแล้วประมาณ 60 ล้านบาท เดิมเคยมีแผนจะพัฒนาเป็นโรงแรมแต่ล้มเลิกไปแล้ว และที่ดินจำนวน 11 ไร่บริเวณถนนประชาชื่น ใกล้มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ซื้อมา 5 ปีแล้ว มูลค่าที่ดินกว่า 118 ล้านบาท และที่ดินจำนวน 6 ไร่ครึ่งบริเวณถนนสุขาภิบาล 1 มูลค่าที่ดินกว่า 200 ล้านบาท
ทั้งนี้แนวทางการพัฒนาที่ดินที่เป็นแปลงใหญ่เช่น รามอินทรา ประชาชื่น มีความคิดที่จะพัฒนาเป็นรูปแบบคอมมูนิตึ้มอลล์ แต่ใช้วิธีร่วมทุนกับผู้ที่มีความพร้อมและสนใจรวมทั้งมีความชำนาญในด้านนี้ ซึ่งบริษัทฯก็จะลงทุนเปิดฟู้ดแลนด์สาขาใหม่ในโครงการเหล่านั้นด้วย
“เราคงจะไม่พัฒนาคอมมูนิตี้มอลล์เองเพราะเราไม่ถนัด แต่จะเปิดทางให้คนที่มีความชำนาญเข้าทำแทน ร่วมทุนกับเราก็ได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯไม่มีแนวคิดที่จะย่อส่วนฟู้ดแลนด์ที่มีขนาดเล็กลงเหมือนรายอื่น ของเราขนาดมาตรฐานขั้นต่ำ 1,000 ตารางเมตรขึ้นไป และจ้างงานกว่า 250 คนต่อสาขารวม 3 กะ เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง เพราะรูปแบบเล็กจะมีสินค้าไม่ครบ และเราคงสู้กับเซเว่นอีเลฟเว่นที่มีมากกว่า 6,000 สาขาไม่ได้ ส่วนการขายแฟรนไชส์ก็ยังไม่ได้มีอะไรชัดเจน ”
ปัจจุบันฟู้ดแลนด์กรุ๊ป มีธุรกิจ 4 ขาหลักคือ ซูเปอร์มาร์เก็ต, ร้านอาหารถูกและดี, โรงงานบุชเชอร์ช้อยส์ ผลิตไส้กรอกสูตรเยอรมัน ทิ่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง และ โรงงานโอเว่นเฟรช ผลิตขนมปังสไตล์ยุโรป ตั้งอยู่ที่สาขาหัวหมาก โดยมีพนักงานรวมกันมากกว่า 2,500 คน และมีรายได้ประมาณ 4,500 ล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว กำไรประมาณ 100 กว่าล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะเติบโต 5% โดยใช้งบการตลาดประมาณ 20-30 ล้านบาทต่อปี
นายสมศักดิ์กล่าวให้ความเห็นถึงนโยบายของรัฐบาลด้วยว่า บริษัทฯเห็นด้วยกับการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเปก็ 300 บาท แต่ควรเป็นขั้นเป็นตอนไม่ใช่ปรับขึ้นครั้งเดียว ซึ่งล่าสุดบริษัทฯได้เพิ่มค่าครองชีพให้พนักงานคนละ 1,000 บาทต่อเดือนตั้งแต่เดือนที่ผ่านมาแล้ว
นายสมศักดิ์ ตีระพัฒนกุล ประธานกรรมการ บริษัท ฟู้ดแลนด์ ซูเปอร์มาร์เก็ต จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯอยู่ระหว่างการนยื่นขอเพิ่มทุนจดเบียนบริษัทอีก 500 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีทุนทดทะเบียนแล้ว 1,000 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในการขยายธุรกิจ และเตรียมตัวนำบริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในอนาคต คาดว่าภายใน 2 ปีจากนี้จะดำเนินการได้
การเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯจะทำให้เรามีความได้เปรียบในเรื่องของต้นทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเสียภาษีนิติบุคคลจะลดลงเหลือ 25% จากเดิมที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหุ้นจะเสียภาษีนิติบุคคล 30%
สำหรับแผนการลงทุนในอนาคตจะขยายสาขาเพิ่มขึ้นจากเดิมที่อาจจะไม่ได้เร่งมากนัก จากการก่อตั้งธุรกิจมาครบ 39 ปีในปีนี้ มีสาขารวมเพียง 11 สาขาเท่านั้น ซี่งที่ผ่านมาเราค่อนข้างจะซูเปอร์คอนเซอร์เวทีฟ (อนุรักษ์นิยมอย่างมาก) แต่ขณะนี้การแข่งขันธุรกิจค้าปลีกซูเปอร์มาร์เก็ตรุนแรงมากขึ้น เราคงต้องดูเทรนด์ด้วย เพราะถ้าเรามีจำนวนสาขาน้อยจะไม่เติบโตมากนัก วอลุ่มเราก็น้อยเมื่อเทียบกับรายอื่น จะเสียเปรียบในด้านการซื้อวัตถุดิบและการสั่งซื้อสินค้า แต่ก็คงไม่ขยายตัวเร็วเกินไป ซึ่งบริษัทฯมีเงินทุนพร้อมเพราะเป็นธุรกิจที่รับเงินสดหมุนเวียนทุกวัน ไม่ได้กู้เงิน
ตามแผนงานจะก่อสร้างคลังสินค้าขนาดใหญ่แห่งใหม่ มูลค่ากว่า 900 ล้านบาท โดยคาดว่าจะใช้ที่ดินส่วนหนึ่งบริเวณรามอินทรา กิโลเมตร 8 ประมาณ 46 ไร่ ซื้อมากว่า 20 ปีแล้ว
นอกจากนั้นยังมีที่ดินอีกหลายแปลง เช่น ที่ดินจำนวน 7 ไร่ที่หัวหิน ซื้อมานาน 9 ปีแล้วประมาณ 60 ล้านบาท เดิมเคยมีแผนจะพัฒนาเป็นโรงแรมแต่ล้มเลิกไปแล้ว และที่ดินจำนวน 11 ไร่บริเวณถนนประชาชื่น ใกล้มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ซื้อมา 5 ปีแล้ว มูลค่าที่ดินกว่า 118 ล้านบาท และที่ดินจำนวน 6 ไร่ครึ่งบริเวณถนนสุขาภิบาล 1 มูลค่าที่ดินกว่า 200 ล้านบาท
ทั้งนี้แนวทางการพัฒนาที่ดินที่เป็นแปลงใหญ่เช่น รามอินทรา ประชาชื่น มีความคิดที่จะพัฒนาเป็นรูปแบบคอมมูนิตึ้มอลล์ แต่ใช้วิธีร่วมทุนกับผู้ที่มีความพร้อมและสนใจรวมทั้งมีความชำนาญในด้านนี้ ซึ่งบริษัทฯก็จะลงทุนเปิดฟู้ดแลนด์สาขาใหม่ในโครงการเหล่านั้นด้วย
“เราคงจะไม่พัฒนาคอมมูนิตี้มอลล์เองเพราะเราไม่ถนัด แต่จะเปิดทางให้คนที่มีความชำนาญเข้าทำแทน ร่วมทุนกับเราก็ได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯไม่มีแนวคิดที่จะย่อส่วนฟู้ดแลนด์ที่มีขนาดเล็กลงเหมือนรายอื่น ของเราขนาดมาตรฐานขั้นต่ำ 1,000 ตารางเมตรขึ้นไป และจ้างงานกว่า 250 คนต่อสาขารวม 3 กะ เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง เพราะรูปแบบเล็กจะมีสินค้าไม่ครบ และเราคงสู้กับเซเว่นอีเลฟเว่นที่มีมากกว่า 6,000 สาขาไม่ได้ ส่วนการขายแฟรนไชส์ก็ยังไม่ได้มีอะไรชัดเจน ”
ปัจจุบันฟู้ดแลนด์กรุ๊ป มีธุรกิจ 4 ขาหลักคือ ซูเปอร์มาร์เก็ต, ร้านอาหารถูกและดี, โรงงานบุชเชอร์ช้อยส์ ผลิตไส้กรอกสูตรเยอรมัน ทิ่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง และ โรงงานโอเว่นเฟรช ผลิตขนมปังสไตล์ยุโรป ตั้งอยู่ที่สาขาหัวหมาก โดยมีพนักงานรวมกันมากกว่า 2,500 คน และมีรายได้ประมาณ 4,500 ล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว กำไรประมาณ 100 กว่าล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะเติบโต 5% โดยใช้งบการตลาดประมาณ 20-30 ล้านบาทต่อปี
นายสมศักดิ์กล่าวให้ความเห็นถึงนโยบายของรัฐบาลด้วยว่า บริษัทฯเห็นด้วยกับการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเปก็ 300 บาท แต่ควรเป็นขั้นเป็นตอนไม่ใช่ปรับขึ้นครั้งเดียว ซึ่งล่าสุดบริษัทฯได้เพิ่มค่าครองชีพให้พนักงานคนละ 1,000 บาทต่อเดือนตั้งแต่เดือนที่ผ่านมาแล้ว
