ก่อนอื่นต้องขอบอกความจริงที่ไม่หลอกลวง ซึ่งต่างจากแนวคิดของเหล่าพรรคการเมืองและนักวิชาการที่ไม่ได้คิดด้วยตนเอง พวกเขาเชื่อว่าประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยแล้ว แนวคิดของพวกเราชี้ให้เห็นว่าสภาพการณ์ที่แท้จริงของประเทศไทยนั้นเป็นระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญระบบรัฐสภา
หากเหตุคือระบอบประชาธิปไตยผลของการปกครองจะเป็นรัฐบาลไหนๆ ก็ตามมันก็จะออกมาดูดี น่าเชื่อถือ ไว้วางใจได้ แต่ผลที่ออกมาทุกรัฐบาลบริหารประเทศผลออกมาเป็นลบทั้งสิ้น เท่าที่เห็นมายกเว้น รัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ที่สามารถต่อสู้เอาชนะคอมมิวนิสต์ยุติสงครามกลางเมืองลงได้ แต่ในท้ายที่สุดก็ชนะไม่เด็ดขาดเพราะรัฐบาลพลเอกเปรมไม่ยอมสถาปนาหลักการปกครองแบบประชาธิปไตย พลเอกเปรม พ่ายแพ้ทางการเมืองต่อม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ผู้นำทางความคิดเผด็จการรัฐธรรมนูญระบบรัฐสภาฝ่ายขวา (หลอกว่าเป็นเสาหลักประชาธิปไตย)
เมื่อความจริงการเมืองไทยเป็นระบอบเผด็จการ ผลจึงออกมาอย่างที่เห็น รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชนะการเลือกตั้ง ด้วยความฉลาดแกมโกงของทักษิณ รู้ว่าคนไทยนั้นยากจน จึงอยากได้ในส่วนที่ขาด จึงวางนโยบายประชานิยมลดแลกแจกแถมอย่างเต็มที่
แต่พอรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ได้บริหารประเทศเพียงไม่กี่วัน ประชาชนโดยทั่วไปก็รู้สึกได้ทันทีว่า “รู้สึกผิดเสียแล้ว ที่เลือกพรรคนี้” แท้จริงพรรคเพื่อไทย เป็นพรรคของนายทุน จุดยืนนายทุน ทักษิณฉลาดสามารถเอาคนหลายฝ่ายมาเป็นพวกด้วยการหลอก หลอกนายทุนว่าจะให้ทำโปรเจกต์ขอเงินสนับสนุน หลอกชาวนา หลอกกรรมกร หลอกฝ่ายคอมมิวนิสต์ให้มาทำงานให้ความฉลาดแกมโกงของทักษิณ แนวคิดและวิธีการของทักษิณจะไม่เกิดผลอะไรเลยหากว่าสภาพการณ์ที่แท้จริงเป็นระบอบประชาธิปไตย ซึ่งประชาชนจะรู้เท่าทัน จะไม่หลงใหลตามคารมของทักษิณและพรรคเพื่อไทย
ตามมาดูแนวคิด หัวใจของคนโหวตโน การโหวตโน ส่วนหนึ่งมาจากการรณรงค์อย่างจริงจังของ สนธิ ลิ้มทองกุลและพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และส่วนหนึ่งเป็นผู้ที่เห็นตรงกับฝ่ายพันธมิตรฯ คนโหวตโนร่วมล้านห้าแสนคน ที่ไม่พอใจระบอบเผด็จการที่เป็นอยู่ ไม่พอใจพรรคการเมืองสองพรรคใหญ่และพรรคการเมืองทั้งหมด หลายคนอาจดูแคลนคนโหวตโน แต่หารู้ไหมว่า คนโหวตโนกลายเป็นคนที่มีความเห็นถูกต้องที่สุดในแผ่นดิน เป็นกลุ่มคนที่ก้าวหน้าที่สุดในแผ่นดิน และขณะนี้กลุ่มคนโหวตโนกำลังมีคุณค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ เป็นคณะกลุ่มคนที่มีจิตใจเข้มแข็งที่สุดไม่ยอมตกเป็นทาสความล่อหลอกของของพรรคการเมืองต่างๆ และเป็นกลุ่มคนที่จงรักภักดีสูงสุด จงรักภักดีอย่างถูกต้องด้วยใสซื่อ น้ำใสใจจริง เป็นกลุ่มคนที่รักชาติอย่างจริงใจสูงสุด
หากได้มีการรวมพลคนโหวตโน ก็เชื่อว่าจะเป็นแกนพลังทางการเมืองที่ก้าวหน้าที่สุดของชาติในขณะนี้ นี่คือความเป็นจริงในสายตาของผู้เขียน ไม่ได้ยกย่องเกินเลย แต่เขียนจากสภาพที่เป็นจริงของระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญระบบรัฐสภา
คนที่เลือกพรรคเพื่อไทยส่วนใหญ่เป็นคนเชื่อง่าย อยากได้ผลประโยชน์ เพราะอยากได้ แต่ได้จริงหรือได้หลอกก็ไม่รู้
คนที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ส่วนใหญ่เป็นคนสูงอายุละเป็นคนอนุรักษนิยมแบบงมงาย
สรุปว่าคนที่เลือกพรรคการเมือง เลือกด้วยความไม่รู้ หรือเลือกด้วยเพราะได้รับการจูงใจ ทั้งนี้แนวคิดของผู้เลือกพรรคการเมืองย่อมเห็นผิด ไม่ตรงกับสภาพความเป็นจริง พวกเขาเห็นผิดเพราะความไม่รู้ ไม่ใช่เกิดจากความโง่เขลา เพราะถ้าพวกเขารู้สภาพความเป็นจริงของประเทศว่าเป็นประเทศระบอบเผด็จการ การเมืองนี้เป็นการเมืองของนายทุน เพื่อนายทุน เขาก็คงไม่เลือก และขณะนี้มันกลายเป็นการเมืองของพรรคเพื่อไทย ของคนเสื้อแดง โดยคนเสื้อแดง และเพื่อคนเสื้อแดง จุดสูงสุดก็เพื่อประโยชน์ของตระกูลชินวัตร นั่นเอง แต่ยังไงๆ เสียคนเสื้อแดงก็ยังชื่นชมด้วยอคติเพราะรัก แต่สำหรับคนธรรมดาแล้ว ในขณะนี้ต่างก็รู้สึกกว่าผิดหวังกับรัฐบาลใหม่ หลายเรื่องหลายอย่างที่รับปากไว้แต่ทำไม่ได้ ทำได้ก็ทำได้ด้วยการตะแบงย่อมส่งผลเสียหายต่อส่วนรวม
พี่น้องทั้งหลาย คนโหวตโนปฏิเสธพรรคการเมือง ก็คือการปฏิเสธระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญระบบรัฐสภานั่นเอง หากเราสืบสาวไปหาเหตุ คณะ ส.ส.ร.ร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อนำมาประกาศใช้ ย่อมแสดงให้เห็นว่ารัฐธรรมนูญ ย่อมเป็นเหตุของพรรคการเมือง และเป็นเหตุของรัฐบาล เมื่อเหตุเลวคือรัฐธรรมนูญเลว ย่อมเป็นเหตุเป็นเงื่อนไขให้พรรคการเมืองเลว รัฐบาลเลว และส่วนที่สัมพันธ์กันเกี่ยวพันกันย่อมแย่ระส่ำตามไปด้วย นั่นเอง
คนโหวตโนต่อต้านความเลว หากสืบสาวไปหาเหตุ ก็คือต่อต้านระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ อันเป็นเหตุแห่งความเลวร้ายทางการเมืองทั้งปวงของชาติ
ดังนั้นหมู่ชนที่ต่อต้านเหตุแห่งความเลวร้ายของแผ่นดิน ย่อมเป็นบุคคล คณะบุคคลที่ก้าวหน้าที่สุดของแผ่นดิน สนธิ ลิ้มทองกุล และพันธมิตรฯ ทุกคนย่อมเป็นคณะบุคคลเป็นผู้ที่มีสายตายาวไกล ย่อมเป็นกลุ่มบุคคลที่มีคุณค่ายิ่งต่อชาติดุจดังกองทหารกล้า 500 นายของพระเจ้าตากสิน เพราะผู้มีสายตาอันยาวไกลและมองอนาคตได้ถูกต้อง เราเชื่อว่าคนโหวตโนคือกำลังสำคัญยิ่งในการสร้างชาติในอนาคตอันใกล้
หากเหตุคือระบอบประชาธิปไตยผลของการปกครองจะเป็นรัฐบาลไหนๆ ก็ตามมันก็จะออกมาดูดี น่าเชื่อถือ ไว้วางใจได้ แต่ผลที่ออกมาทุกรัฐบาลบริหารประเทศผลออกมาเป็นลบทั้งสิ้น เท่าที่เห็นมายกเว้น รัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ที่สามารถต่อสู้เอาชนะคอมมิวนิสต์ยุติสงครามกลางเมืองลงได้ แต่ในท้ายที่สุดก็ชนะไม่เด็ดขาดเพราะรัฐบาลพลเอกเปรมไม่ยอมสถาปนาหลักการปกครองแบบประชาธิปไตย พลเอกเปรม พ่ายแพ้ทางการเมืองต่อม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ผู้นำทางความคิดเผด็จการรัฐธรรมนูญระบบรัฐสภาฝ่ายขวา (หลอกว่าเป็นเสาหลักประชาธิปไตย)
เมื่อความจริงการเมืองไทยเป็นระบอบเผด็จการ ผลจึงออกมาอย่างที่เห็น รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชนะการเลือกตั้ง ด้วยความฉลาดแกมโกงของทักษิณ รู้ว่าคนไทยนั้นยากจน จึงอยากได้ในส่วนที่ขาด จึงวางนโยบายประชานิยมลดแลกแจกแถมอย่างเต็มที่
แต่พอรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ได้บริหารประเทศเพียงไม่กี่วัน ประชาชนโดยทั่วไปก็รู้สึกได้ทันทีว่า “รู้สึกผิดเสียแล้ว ที่เลือกพรรคนี้” แท้จริงพรรคเพื่อไทย เป็นพรรคของนายทุน จุดยืนนายทุน ทักษิณฉลาดสามารถเอาคนหลายฝ่ายมาเป็นพวกด้วยการหลอก หลอกนายทุนว่าจะให้ทำโปรเจกต์ขอเงินสนับสนุน หลอกชาวนา หลอกกรรมกร หลอกฝ่ายคอมมิวนิสต์ให้มาทำงานให้ความฉลาดแกมโกงของทักษิณ แนวคิดและวิธีการของทักษิณจะไม่เกิดผลอะไรเลยหากว่าสภาพการณ์ที่แท้จริงเป็นระบอบประชาธิปไตย ซึ่งประชาชนจะรู้เท่าทัน จะไม่หลงใหลตามคารมของทักษิณและพรรคเพื่อไทย
ตามมาดูแนวคิด หัวใจของคนโหวตโน การโหวตโน ส่วนหนึ่งมาจากการรณรงค์อย่างจริงจังของ สนธิ ลิ้มทองกุลและพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และส่วนหนึ่งเป็นผู้ที่เห็นตรงกับฝ่ายพันธมิตรฯ คนโหวตโนร่วมล้านห้าแสนคน ที่ไม่พอใจระบอบเผด็จการที่เป็นอยู่ ไม่พอใจพรรคการเมืองสองพรรคใหญ่และพรรคการเมืองทั้งหมด หลายคนอาจดูแคลนคนโหวตโน แต่หารู้ไหมว่า คนโหวตโนกลายเป็นคนที่มีความเห็นถูกต้องที่สุดในแผ่นดิน เป็นกลุ่มคนที่ก้าวหน้าที่สุดในแผ่นดิน และขณะนี้กลุ่มคนโหวตโนกำลังมีคุณค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ เป็นคณะกลุ่มคนที่มีจิตใจเข้มแข็งที่สุดไม่ยอมตกเป็นทาสความล่อหลอกของของพรรคการเมืองต่างๆ และเป็นกลุ่มคนที่จงรักภักดีสูงสุด จงรักภักดีอย่างถูกต้องด้วยใสซื่อ น้ำใสใจจริง เป็นกลุ่มคนที่รักชาติอย่างจริงใจสูงสุด
หากได้มีการรวมพลคนโหวตโน ก็เชื่อว่าจะเป็นแกนพลังทางการเมืองที่ก้าวหน้าที่สุดของชาติในขณะนี้ นี่คือความเป็นจริงในสายตาของผู้เขียน ไม่ได้ยกย่องเกินเลย แต่เขียนจากสภาพที่เป็นจริงของระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญระบบรัฐสภา
คนที่เลือกพรรคเพื่อไทยส่วนใหญ่เป็นคนเชื่อง่าย อยากได้ผลประโยชน์ เพราะอยากได้ แต่ได้จริงหรือได้หลอกก็ไม่รู้
คนที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ส่วนใหญ่เป็นคนสูงอายุละเป็นคนอนุรักษนิยมแบบงมงาย
สรุปว่าคนที่เลือกพรรคการเมือง เลือกด้วยความไม่รู้ หรือเลือกด้วยเพราะได้รับการจูงใจ ทั้งนี้แนวคิดของผู้เลือกพรรคการเมืองย่อมเห็นผิด ไม่ตรงกับสภาพความเป็นจริง พวกเขาเห็นผิดเพราะความไม่รู้ ไม่ใช่เกิดจากความโง่เขลา เพราะถ้าพวกเขารู้สภาพความเป็นจริงของประเทศว่าเป็นประเทศระบอบเผด็จการ การเมืองนี้เป็นการเมืองของนายทุน เพื่อนายทุน เขาก็คงไม่เลือก และขณะนี้มันกลายเป็นการเมืองของพรรคเพื่อไทย ของคนเสื้อแดง โดยคนเสื้อแดง และเพื่อคนเสื้อแดง จุดสูงสุดก็เพื่อประโยชน์ของตระกูลชินวัตร นั่นเอง แต่ยังไงๆ เสียคนเสื้อแดงก็ยังชื่นชมด้วยอคติเพราะรัก แต่สำหรับคนธรรมดาแล้ว ในขณะนี้ต่างก็รู้สึกกว่าผิดหวังกับรัฐบาลใหม่ หลายเรื่องหลายอย่างที่รับปากไว้แต่ทำไม่ได้ ทำได้ก็ทำได้ด้วยการตะแบงย่อมส่งผลเสียหายต่อส่วนรวม
พี่น้องทั้งหลาย คนโหวตโนปฏิเสธพรรคการเมือง ก็คือการปฏิเสธระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญระบบรัฐสภานั่นเอง หากเราสืบสาวไปหาเหตุ คณะ ส.ส.ร.ร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อนำมาประกาศใช้ ย่อมแสดงให้เห็นว่ารัฐธรรมนูญ ย่อมเป็นเหตุของพรรคการเมือง และเป็นเหตุของรัฐบาล เมื่อเหตุเลวคือรัฐธรรมนูญเลว ย่อมเป็นเหตุเป็นเงื่อนไขให้พรรคการเมืองเลว รัฐบาลเลว และส่วนที่สัมพันธ์กันเกี่ยวพันกันย่อมแย่ระส่ำตามไปด้วย นั่นเอง
คนโหวตโนต่อต้านความเลว หากสืบสาวไปหาเหตุ ก็คือต่อต้านระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ อันเป็นเหตุแห่งความเลวร้ายทางการเมืองทั้งปวงของชาติ
ดังนั้นหมู่ชนที่ต่อต้านเหตุแห่งความเลวร้ายของแผ่นดิน ย่อมเป็นบุคคล คณะบุคคลที่ก้าวหน้าที่สุดของแผ่นดิน สนธิ ลิ้มทองกุล และพันธมิตรฯ ทุกคนย่อมเป็นคณะบุคคลเป็นผู้ที่มีสายตายาวไกล ย่อมเป็นกลุ่มบุคคลที่มีคุณค่ายิ่งต่อชาติดุจดังกองทหารกล้า 500 นายของพระเจ้าตากสิน เพราะผู้มีสายตาอันยาวไกลและมองอนาคตได้ถูกต้อง เราเชื่อว่าคนโหวตโนคือกำลังสำคัญยิ่งในการสร้างชาติในอนาคตอันใกล้