xs
xsm
sm
md
lg

โฆษกศาลปัดพูดอภัยโทษ“ทักษิณ” ชี้โทษอาญาสิ้นสุดเมื่อรับโทษ-ตาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - โฆษกศาลยุติธรรม ปัดให้ความเห็นราชทัณฑ์ชงยื่นฎีกาอภัยโทษ “ทักษิณ” เกรงศาลถูกโยงการเมือง ย้ำผลคดีอาญา สิ้นสุดเมื่อได้คนผิดรับโทษ หรือเสียชีวิต ไม่เคยมี ฎีกาขออภัยโทษทั้งที่ไม่เคยรับโทษ ด้านเสื้อแดงสงขลาแรง รวมตัวจัดตั้งเครือข่าย "นปช.-หมู่บ้านแดงภาคใต้" ดึง “วิภูแถลง” ร่วมจัดตั้ง 10 กันยายนนี้

จากกรณีที่กรมราชทัณฑ์ เสนอความเห็นการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมพิจารณา ภายหลังตรวจรายละเอียดรายชื่อผู้ถวายฎีกา 3 ล้านรายชื่อเสร็จสิ้น

วานนี้ (4 ก.ย.) นายสิทธิศักดิ์ วนะชกิจ โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า การทูลเกล้าถวายฎีกา ฯ ก็ถือเป็นสิทธิการขอความเป็นธรรม แต่เนื่องจากกระบวนการทูลเกล้าถวายฎีกา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับศาลยุติธรรม ซึ่งขั้นตอนปฏิบัติจะมีกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม พิจารณากลั่นกรอง จึงไม่อาจให้ความเห็นใดๆ ได้ และไม่ต้องการให้เกิดการชี้นำ หรือนำศาลยุติธรรมไปเป็นเครื่องมือของฝายหนึ่งฝ่ายใด หรือผูกโยงกับการเมือง ซึ่งเรื่องดังกล่าวเคยเงียบไปแล้วได้จุดประกายอีกครั้งโดยมีทั้งประชาชนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย หากศาลถูกนำไปผูกโยงการเมืองก็จะเสียความเป็นกลาง

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ ในการทูลเกล้าถวายฎีกาขออภัยโทษ ทั้งที่จำเลยนั้นยังไม่เคยรับโทษบางส่วนมาก่อน ตามเงื่อนไขกฎหมายกำหนด นายสิทธิศักดิ์ กล่าวว่า ไม่อาจคาดคะเนผลได้ เนื่องจากอำนาจสุดท้ายในการพิจารณาเรื่องนี้ไม่ใช่ศาลยุติธรรม แต่เรื่องนี้ในอดีตไม่เคยปรากฏแนวทางกรณีดังกล่าวมาก่อน ซึ่งการขออภัยโทษ ก็มีตัวอย่างคดีของนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ ก็รับโทษมาแล้วบางส่วนจากข้อกล่าวหาหมิ่นเบื้องสูง

ถามว่าผลทางคดีอาญาจะสิ้นสุดผลเมื่อใด นายสิทธิศักดิ์ กล่าวว่า ตามกฎหมาย ผลทางคดีอาญาจะสิ้นสุดผลเมื่อจับกุมตัวผู้กระทำซึ่งศาลมีคำพิพากษาแล้วมารับ โทษ หรือจำเลยหรือผู้ต้องโทษนั้นเสียชีวิต ซึ่งไม่อาจนำตัวมาพิจารณาความผิดและรับโทษได้

ซักต่อว่า ผลคดีอาญาจะสิ้นสุด ด้วยแนวทางอื่นได้หรือไม่ นายสิทธิศักดิ์ กล่าวว่า คดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษา เป็นการดำเนินคดีอาญาซึ่งมีจำเลยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่ใช่คดีการเมือง

ถามว่าการจะขออภัยโทษทั้งที่ผู้ต้องโทษนั้นยังไม่ได้รับโทษบางส่วนตาม เงื่อนไข จะขัดกับหลักนิติรัฐ นิติธรรม หรือไม่ นายสิทธิศักดิ์ ระบุเพียงว่า การถวายฎีกาขออภัยโทษ หรือการนิรโทษกรรม มีกฎหมายกำหนดหลักเกณฑ์การปฏิบัติอยู่แล้ว แต่แนวทางดังกล่าวไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน

**ยธ.ค้นฏีกาไม่พบผู้ต้องหาหนีคดีได้อภัยโทษ

รายงานข่าวจากกระทรวงยุติธรรมเปิดเผยว่า การตรวจสอบรายละเอียดกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงเข้าชื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯได้ดำเนินการต่อเนื่องนานกว่า 2 ปี โดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อดีตรมว.กระทรวงยุติธรรม มอบหมายกรมราชทัณฑ์ทำหน้าที่ตรวจสอบรายชื่อประชาชน กว่า 3 ล้านรายชื่อ รวมถึงข้อกฏหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ สาระสำคัญคือตามกม.สามารถยื่นขอพระราชทานอภัยโทษหรือไม่ และจากการตรวจสอบรายชื่อพบว่าผู้เข้าชื่อจำนวนหนึ่งใช้นามสกุลชินวัตร ซึ่งพบว่าเป็นญาติใกล้ชิดกับพ.ต.ท.ทักษิณแต่ไม่ใช่ลูกเมีย

นอกจากนี้ กรมราชทัณฑ์ได้เข้าไปตรวจสอบข้อกม.และฏีกาต่าง ๆ ที่ญาติผู้ต้องขังรายอื่น ๆ เคยใช้ยื่นประกอบการถวายฏีกาขอพระราชทานอภัยโทษ รวบรวมทำความเห็นต่อรมว.ยธ. แต่ไม่พบว่ามีการอภัยโทษให้กับผู้ต้องโทษที่หลบหนีหรือไม่เคยรับโทษจำคุกตามคำพิพากษา ส่วนใหญ่ผู้ที่อยู่ในเกณฑ์ได้รับอภัยโทษต้องรับโทษคุมขังมาแล้วระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตามกม.ให้อำนาจรัฐมนตรียุติธรรมเป็นคนทำความเห็นประกอบฏีกา เพื่อเสนอไปยังสำนักพระราชวัง ว่าสมควรอภัยโทษหรือไม่ แต่ทั้งนี้การอภัยโทษถือเป็นพระราชอำนาจ

สำำหรับขั้นตอนการขอพระราชทานอภัยโทษเป็นรายบุคคลนั้นผู้ต้องโทษหรือผู้ที่มีประโยชน์เกี่ยวข้อง จะใช้สิทธิยื่นเรื่องราวทูลเกล้าถวายฏีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ผ่านเรือนจำหรือส่วนราชการอื่นที่เกี่ยวข้องก็ได้ เช่นสำนักราชเลขาธิการ กระทรวงยุติธรรม ก.ตปท. ราชทัณฑ์ และเมื่อเรือนจำได้รับเรื่องทูลเกล้าของนักโทษเด็ดขาดหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้ ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง เกี่ยวกับนักโทษ ฏีกาคำพิพากษา หมายจำคุกหรือเอกสารประกอบเรื่องราว ว่าถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ ในกรณีที่มีปัญหาจะต้องขอทราบข้อเท็จจริงเช่นประวัติการทำผิดและรายละเอียดบางประการเกี่ยวกับนักโทษ ต้องประสานไปยังเรือนจำและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง

จากนั้นกรมราชทัณฑ์มีหน้าที่สรุปยอดฏีกาทูลเกล้าและคำพิพากษาในคดีของนักโทษเด็ดขาดรายนั้น ๆ ประมวลเรื่องราวพร้อมเหตุผล เสนอต่อ รมว.กระทรวงยุติธรรม พิจารณาให้ความเห็น แล้วเสนอเรื่องเพื่อรมต.นำความขึ้นกราบบังคมต่อไป

**เหิมตั้งหมู่บ้านแดงภาคใต้

วันเดียวกันที่ห้องประชุมสมิหลาบี โรงแรมไดอิชิ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นางนิษิฎภัทร์ ณ นคร ประธานชมรมคนรักประชาธิปไตยจ.สงขลา52 พร้อมเครือข่ายคนเสื้อแดงทั้งในจ.สงขลา พัทลุง และสตูล เปิดแถลงข่าวการจัดงาน รวมพลังมวลชนเพื่อพัฒนาประชาธิปไตยในจ.สงขลา ครั้งที่1 ซึ่งจะมีขึ้นในวันเสาร์ที่10 กันยายน นี้ที่โรงแรมไดอิชิ โดยจะมีแกนนำคนเสื้อแดงจากส่วนกลางและในภาคใต้เข้าร่วมอาทิ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย สส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย นายจิรายุส เนาวเกตุ นายศฤงคาร หมันหลี นายรณภพ วัตตะสิงห์ และว่าที่ ร.ต.ประสิทธิ์ บัวงาม โดยเป้าหมายของการจัดกิจกรรมเพื่อรวมพลคนรักประชาธิปไตยจ.สงขลาให้เป็นหนึ่งเดียวเพื่อจัดตั้งเป็นเครือข่ายมวลชนคนรักประชาธิปไตยในจ.สงขลาหรือเครือข่าย นปช.สงขลา รวมทั้งการจัดหมู่บ้านคนเสื้อแดงหมู่บ้านแรกขึ้นในจ.สงขลาที่ต.คู อ.จะนะ จ.สงขลา นอกจากนี้ยังมีการจัดเสวนาประชาธิปไตยของประชาชนคนรากหญ้ากับการพัฒนาประชาธิปไตยในระดับชาติ และแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลให้ถึงมือประชาชนอย่างแท้จริงและผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาจากการรัฐประหาร.
กำลังโหลดความคิดเห็น