xs
xsm
sm
md
lg

จบวันอังคาร! เหลิมเร่งตั้งเพรียวพันธ์ เลขาสมช.ฟ้องศาลปค.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - "ปู" บอกนักข่าวย้ายวิเชียร “เรียบร้อยแล้วค่า” ส่วน "เหลิม" เร่งตั้ง "เพรียวพันธ์" ผบ.ตร. บี้ ก.ต.ช.ประชุมจันทร์-เข้า ครม.อังคาร ขีดเส้นเสร็จก่อน 7 ก.ย. ยาหอม ตชด.เตรียมเป็นพระเอก ดุสิตโพลฯ ค้านย้าย "วิเชียร" ไม่เป็นธรรม ด้าน "ถวิล" ประกาศฟ้องศาลปกครอง อึ้ง! "เพรียวพันธ์" เล็งให้รางวัลจับยาบ้าได้เม็ดละ 2 บาท

วานนี้ (2 ก.ย.) หลังจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกมายืนยันว่า “เรียบร้อยแล้วค่า” กับข่าวการโยกย้าย พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. มาเป็น “เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ” เพื่อเปิดทางให้พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผบ.ตร.เข้ามาเป็นผบ.ตร.คนใหม่ ขณะที่ข่าวการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนสี เลขาธิสภาความมั่นคงแห่งชาติ ก็เพราะนายถวิลเป็นเลขานุการศูนย์อำนวยการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์เก็บตัวเงียบตลอดทั้งวัน ภายในห้องทำงาน ตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนที่จะเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลในเวลา 16.00 น.

รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย แจ้งว่า มีความพยายามที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จะขอให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ เปิดประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ ( ก.ต.ช.)ในวันจันทร์ 5 ก.ย.นี้สอดคล้องกับข่าวที่ร.ต.อ.เฉลิม ต้องการที่จะเสนอชื่อ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เข้าขอความเห็นชอบต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในวันที่ 6 ก.ย. รวมทั้งเสนอให้พล.ต.อ.วิเชียร เป็นเลขาธิการสมช.ในวันเดียวกัน เพื่อให้มีผบ.ตร.ในวันที่ 7 ก.ย.นี้

ขณะที่เวบไซต์ทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่าในวันที่ 5 ก.ย.ภารกิจของน.ส.ยิ่งลักษณ์ เวลา 11.30 น.จะให้การต้อนรับ นายกรัฐมนตรีบาห์เรน ที่ตึกไทยคู่ฟ้า เวลา 14.00 น. เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) ณ ตึกสันติไมตรีหลังใน ทำเนียบรัฐบาล

ด้านพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ที่ปรึกษา สบ 10 ในฐานะเลขานุการ ก.ต.ช. เปิดเผยเกี่ยวกับขั้นตอนการสรรหาตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หลังเป็นที่แน่นอนแล้วว่า พล.ต.อ.วิเชียร อาจถูกโยกย้ายให้ไปรับตำแหน่งอื่น โดยระบุว่า ขณะนี้ต้องรอคำสั่งจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นประธาน ก.ต.ช. โดยตำแหน่ง นัดประชุม ซึ่งหากมีการนัดประชุมเมื่อไรจะต้องแจ้งไปยัง คณะกรรมการ ก.ต.ช. ทั้ง 11 ท่าน ให้ทราบก่อนการประชุม 3 วัน โดยตามระเบียบแล้ว คณะกรรมการ จะรวบรวมข้อมูลประวัติ ยศ ของ พล.ต.อ. ที่มีสิทธิ์ได้รับการเสนอให้นั่งตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีทั้งหมด รวม 14 ท่าน ให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา และเลือกว่า จะเสนอชื่อของบุคคลเข้าที่ประชุม เพื่อให้คณะกรรมการ ลงมติเห็นชอบโดยต้องมีเสียงเกินกึ่งหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ตามระเบียบแล้ว คณะกรรมการ ก.ต.ช. จะมีการประชุมเดือนละ 1 ครั้ง คือ วันศุกร์สุดท้ายของเดือน แต่หากเป็นวาระเร่งด่วน เช่น การสรรหา ผบ.ตร. นายกรัฐมนตรี สามารถกำหนดวันประชุมได้ทันที

**อยากได้ “เพรียวพันธ์-ภาณุพงศ์” คู่กัน

ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลที่ใช้ในการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนสี เลขาธิสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพราะเป็นเลขานุการศูนย์อำนวยการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งหากใช้เหตุผลนี้ต้องโยกย้ายคนที่เกี่ยวข้องกับศอฉ.ทั้งหมดหรือไม่ ว่า ไม่ใช่ คนละเรื่อง ต้องดูลักษณะงาน เพราะนายถวิลเป็นเลขาฯสมช.ต้องนั่งทำงานในคณะรัฐมนตรี

ถามว่าถ้าวันนี้นายถวิลอยู่กับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ถ้าประชาธิปัตย์มาเขาจะเปลี่ยนหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า มันคนละเรื่องอย่าไปคิดหรือโยงถึงแม่ทัพนายกอง ตนไม่ได้คิดอย่างนั้น เอาเฉพาะว่าเลขาฯสมช.นั่งทำงานกับประชาธิปัตย์ พอเราเป็นรัฐบาลมานั่งทำงานกับเราอีก ในความเป็นไปได้มันเป็นไปไม่ได้หรอก อย่าไปคิดมากกว่านี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายถวิลระบุว่าปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายนักการเมืองก็เหมือนกัน ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เราต้องปรับเปลี่ยนให้พล.ต.อ.วิเชียร เพื่อเอาพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ มาปราบยาเสพติดและปราบอาชญากรรมคู่กับพล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผบ.ตร.ไม่ได้มีข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่น เมื่อถามว่าในอดีตที่ผ่านมาเลขาฯสมช.ไม่เคยมีตำรวจ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า อันนี้ไม่จำเป็นแล้วแต่รัฐบาลมีนโยบายที่จะไขปัญหาส่วนรวมของประเทศ

**เเนะ “ถวิล” ขอย้ายตัวเอง

ส่วนจะให้ความเป็นธรรมกับนายถวิล อย่างไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า แล้วแต่นายกฯจะพิจารณา เพราะตนได้รับมอบหมายจากนายกฯ ให้เสนอ ตนก็เสนอ เมื่อถามว่าจะย้ายเลขาฯสมช.ไปตำแหน่งใด ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ต้องทำให้ดูดี แต่ถ้าตนเป็นนายถวิล ตนจะทำบันทึกขอย้ายตัวเอง นี่พูดกันตรงไปตรงมา

ส่วนที่จะให้พล.ต.อ.วิเชียร ไปเป็นปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แล้วทำไมถึงมาเป็นเลขาฯสมช.ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตำแหน่งปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาไม่เหมาะสมกับพล.ต.อ.วิเชียร เพราะเป็นนักวางแผน นักการข่าว เขียนหนังสือเก่งและจบปริญญาโทจากนิด้า แต่เรื่องปราบปรามไม่ถนัด

เมื่อถามว่าข้าราชการที่เป็นตำแหน่งสำคัญที่ทำงานร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ จะถูกโยกย้ายทั้งหมดหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า คงไม่ จะย้ายทั้งหมดได้อย่างไร ย้ายไปย้ายมาก็อยู่ที่เก่า พวกกันทั้งนั้น

ถามถึงขั้นตอนที่จะให้ประชุมก.ตช.เสนอชื่อพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เป็นผบ.ตร.ตัวจริงอีกนานหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ถ้าพล.ต.อ.วิเชียร มาเป็นเลขาฯสมช.ต้องดูว่าทั้งนี้ตั้งแต่วันที่เท่าไหร่ มีกระบวนการ หากพล.ต.อ.วิเชียรพ้นตำแหน่งมา พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ในฐานะรองผบ.ตร.อาวุโสอันดับ1ต้องรักษาการโดยหลักปฏิบัติหลังจากนายกฯในฐานะประธานต้องเรียกประชุมซึ่งเมื่อไหร่ก็สุดแต่นายกฯ รับรองได้ว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ทำอะไรฟื้นกฎประเพณีและกฎระเบียบ อย่างที่รัฐบาลที่แล้วทำ

“อย่างที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่าโยกย้ายผบ.ตร.ต้องชี้แจงสังคมได้นั้น ผมชี้แจงได้ ให้เรียบร้อยผมชี้แจงได้ หากนายอภิสิทธิ์อยากทราบขั้นตอนเป็นอย่างไรก็ตั้งกระทู้สดถามผม” รองนายกฯ กล่าว

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า มีคนโทรศัพท์บอกตนว่ามีนายแพทย์คนหนึ่งไปให้สัมภาษณ์ ทวงความเป็นธรรมให้ดาบยิ้มก็หมายกระทบตน ก็เหตุเรื่องนี้เกิดปี2544 ศาลยกฟ้องปี 2547 ด้วยหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ว่าลูกชายตนไม่ผิด คดีจบมา 7 ปี หมอไปอยู่ไหนมาเพิ่งมาทวงความเป็นธรรม เหตุเกิด 10 ปี คดีเกิด 7 ปี มาทวงความเป็นธรรมช้าไป ถ้าหมอมีข้อมูลก็ไปให้ประชาธิปัตย์ เขาจะได้ถามตนในสภา หมอไม่น่าเล่นการเมืองนอกสภา เพราะตนผ่านการเลือกตั้ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเปิดบ่อนในประเทศจะหมดไปหรือไม่ ถ้ามีการโยกย้ายแต่งตั้ง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ มานั่งตำแหน่ง ผบ.ตร. ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า วันนี้ก็หมดแล้ว ยังเหลืออีก 3 บ่อนที่เล่นคือ บ่อนบางซื่อ บ่อนลอยฟ้า และบ่อนกิ่งเพชร ที่จับยากเพราะว่ามีความสลับซับซ้อนโดยเฉพาะบ่อนบางซื่อ ที่มี 8ชั้น 9 ชั้น และมีชาวบ้านเป็นเกาะกำบัง ส่วนบ่อนลอยฟ้าและบ่อนกิ่งเพชรก็จับยาก แต่ไม่ต้องห่วงถ้าจับไม่ได้ แต่เขาก็ไม่สามารถเล่นได้ เพราะเราตั้งด่านสกัด ตนเข้าใจดีว่าวิธีการควรจะทำอย่างไร แต่ 3 บ่อนนี้ต้องค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งขณะนี้ตู้ม้าเรียบร้อยหมดแล้วทั้งประเทศ และก็จะไม่ได้หมดเพียงชั่วคราวถ้าตนยังทำหน้าที่ตรงนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนของอุปกรณ์ตู้ม้าที่จับมาได้ทำมาจึงไม่นำไปทำลายให้หมด รองนายกฯ กล่าวว่า ต้องแล้วแต่ศาลสั่ง ตำรวจจับแล้วไม่สามารถนำไปทำลายได้ ต้องมีการร้องให้ศาลสั่งทำลาย และเจ้าของสามารถเรียกร้องคัดค้านได้ เพราะตู้เหล่านี้ถ้านำไปวางไว้โดยไม่เสียบปลั๊กจะไม่มีความผิด เมื่อซักต่อว่า หาก ผบ.ตร.คนใหม่ ไม่สามารถทำงานได้ตามนโยบายของรัฐบาลจะจัดการอย่างไร รองนายกฯ กล่าวว่า ท่านต้องรับผิดชอบต้องทำให้ดีกว่าที่ตนคิดไว้ เพราะ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เป็นตำรวจที่ไม่รับเงิน และเป็นตำรวจมือปราบ อีกทั้งยังเติบโตมาจากยุทธจักรของนักเลง

**ตชด.เตรียมเป็นพระเอกยุค“เหลิม”

รองนายกฯ กล่าวต่อว่า ข่าวที่ตนอ่านแล้วไม่สบายใจ ไอ้พวกบุกรุกป่า ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ แต่ดำเนินคดีไม่ได้ อีกทั้งเรื่องของยาเสพติด ตนก็จะปฏิบัติการเชิงรุกควบคู่ เมื่อปราบปรามแล้วต้องมีมาตรการยึดทรัพย์ และพวกค้ายาเสพติดเมื่อฟังข่าวแล้วให้เลิกซะ นอกจากนี้ตนจะเปิดตู้ปณ.ร้องทุกข์ ฉะนั้นตำรวจหน่วยไหนที่หย่อนยาน ตนทราบและมีวิธีการเช็ค และหลังจากที่ตนไปกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนแล้ว จะให้ตำรวจตระเวนชายแดนเป็นพระเอกในยุคที่ตนรับผิดชอบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะ ตชด. ไม่มีความสัมพันธ์กับผู้ทำผิดกฎหมาย ดังนั้นจึงอยากจะเอาเขามาทำงาน และนำมาแก้ปัญหายาเสพติด แนวชายแดน แรงงานต่างด้าว และเรื่องของการขโมยรถยนต์ไปขายต่างประเทศ ส่วนพวกตำรวจที่ทำความผิด คงหนาวๆร้อนๆมาตามกัน ส่วนพวกตำรวจที่ทำดีก็อยู่สบาย

**'เพรียวพันธ์' ปิ๊งจับยาบ้าได้เม็ดละ 2 บาท

เวลา 14.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (บช.ตชด.) ร.ต.อ.เฉลิม เดินทางตรวจเยี่ยมพร้อมมอบนโยบาย โดยมี พล.ต.อ เพรียวพันธ์ และ พล.ต.ท.ประยูร อำมฤต ผบช.ตชด. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมเจ้าหน้าที่ บช.ตชด. ให้การต้อนรับ ซึ่งการมอบนโยบายครั้งนี้มีตัวแทนข้าราชการตำรวจ บก.ตชด. จำนวน 150 นายจากทุกหน่วยทั่วประเทศร่วมเข้ารับฟัง

พล.ต.อ เพรียวพันธ์ กล่าวก่อนการประชุมถึงมาตรการการปราบปรามยาเสพติด ว่า การทำงานปราบปรามยาเสพติดให้ได้ผล ต้องทำแบบบูรณาการร่วมกันกับหลายฝ่าย ไม่ใช่การจับกุมผู้กระทำผิดหรือการบำบัดผู้ติดยาเท่านั้น ซึ่งเห็นว่าต้องมีการสกัดกั้นตามแนวชายแดนให้เข็มแข็งยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนจังหวัดทางภาคเหนือ ประกอบด้วยจังหวัด เชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน นอกจากนี้จะมีการสร้างแรงจูงใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยการปรับการจ่ายค่าตอบแทนด้านยาเสพติดให้มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งปกติจะต้องมีการเข้าคณะกรรมการเพื่อพิจารณาค่าตอบแทน แต่อาจปรับให้มีการจ่ายค่าตอบแทนก่อนหลังมีผลจับกุมทันที โดยใช้อัตรามอบเงินรางวัลจับกุมแก่ผู้ปฏิบัติยาบ้าให้เม็ดละ 2 บาท แต่รวมจำนวนทั้งหมดไม่เกิน 1 แสนบาท

ในที่ประชุม พล.ต.ท.ประยูร อำมฤต ผู้บัญชาการตำรวจตะเวนชายแดน ได้มีการนำเสนอรายงานในที่ประชุม 3 หัวข้อแก่ คือ 1การปฎิบัติงานในอดีตและอนาคต 2 ผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน และ 3 แนวทางในการพัฒนาศักยภาพของตำรวจระเวนชายแดน ซึ่งใช้ในการนำเสนอประมาณ 30 นาที เพื่อให้ ร.ต.อ.เฉลิม ได้พิจารณาในการวางนโยบายโดยใช้เวลาในการประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง

ทั้งนี้ภายหลังการประชุม ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ได้ขอความร่วมมือกับ ตชด. ที่ 5 ข้อ ในการป้องกันปราบปรามปัญหายาเสพติดและอาชญากรรม ได้แก่ ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด ,ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ,การป้องกันปัญหาการโจรกรรมรถยนต์,แรงงานเถื่อนผิดกฎหมาย,และการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งหลักจากนี้ จะให้กองบังคับการ ตชด. 1 ปทุมธานีสนธิกำลังร่วมกับนครบาล ในการปราบปรามเรื่องดังกล่าว นอกจากนี้ยังให้กองบังคับการ ตชด. 2 และตชด.3 ที่ดูแลภาคเหนือ อีสาน กวดขันปัญหายาเสพติดที่แพร่ระบาดตามชายแดน อีกด้วย

ที่ผ่านมาพื้นที่ในความรับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจนครบาลยังคงปล่อยให้เกิดปัญหาทั้งยาเสพติดอาชญากรรม ปัญหาสถานบันเทิงที่เปิดเกินเวลา และขณะนี้ยังมีปัญหาบ่อนการพนั้นในกรุงเทพ อีก 3 บ่อน คือ บ่อนกิ่งเพชร บ่อนลอยฟ้า และบ่อนเตาปูน ซึ่งจากนี้ตนเข้ามาดูแลปัญหาดังกล่าวต้องหมดไป และจะมีการประเมินการทำงานของนครบาลด้วยว่าได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข็มงวดหรือไม่ โดยได้มอบหมายให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตะเวนชายแดนสนธิกำลังร่วมกับนครบาลทำงานในเชิงรุกมากขึ้น ในการดูแลปราบปรามปัญหาเหล่านี้ และรายงานให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ และ พล.ต.ท.วรพงษ์ ทราบ

“ตอนนี้ผมไม่สามารถประเมินได้ว่าตำรวจนครบาลทำงานล้มเหลวหรือไม่ เพราะเพิ่งมาทำงานได้เพียงสัปดาห์เดียว แต่รัฐบาลก่อนหน้านี้ผมก็ไม่เห็นมีนโยบายแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ไม่เห็นทำอะไร หากอ้างว่ากำลังไม่พอต้องดูแลการชุมนุมก็จะนำกำลัง ตชด.ไปช่วยดู ยุคผมตำรวจต้องทำงานสนองนโยบาย บ่อนใหญ่ที่เปิดอยู่หากจับกุมไม่ได้ ก็ให้เอาตำรวจ ตชด.ไปตั้งด่านด้านหน้าบ่อนเพื่อไม่ให้คนเข้าไปเล่น” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

เมื่อถามว่าผู้ที่รับผิดชอบในเรื่องบ่อนในพื้นที่นครบาลควรเป็นตำรวจระดับใด ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เรื่องบ่อนคงไม่ใช่เพียงระดับ ผกก. หรือ ผบก. ที่ปล่อยปะละเลย ระดับที่มากกว่านั้นต้องทราบ ส่วนจะเกี่ยวข้องถึงระดับ ผบช.น. หรือไม่ต้องรอจเรตำรวจตรวจสอบ และเรื่องนี้มอบหมายให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ไปดูแลแล้ว

**มาร์คจี้ “ปู”แจงสังคมเหตุเด้งวิเชียร

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่มีอะไรเหนือความคาดหมาย เพราะเป็นธงที่ตั้งไว้แต่ต้น ในการเปลี่ยนตัว ผบ.ตร. แต่การดำเนินการไปกระทบตำแหน่งเลขาฯ สมช.ของนายถวิลด้วย ถือว่าไม่เป็นธรรม และตำแหน่งที่จะถูกย้ายไปคือตำแหน่งอะไร โยกย้ายด้วยเหตุผลอะไร แต่ทั้งหมดก็ต้องดูว่า ข้อยุติจะเป็นอย่างไร เพราะจะต้องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 6 ก.ย.นี้

เมื่อถามว่า ร.ต.อ.เฉลิม ระบุว่า นายถวิล ควรจะพ้นตำแหน่งไปนานแล้ว เพราะไปนั่งเป็นเลขาศอฉ. จึงไม่ควรนั่งเป็นเลขาฯ สมช. นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กฎหมายกำหนดให้เขาเป็น คนที่พูดต้องระมัดระวัง เพราะท่านปฏิบัติตามหน้าที่ แต่หากเขาดำเนินการอะไรที่ไม่เหมาะสม ก็ต้องมีความชัดเจนว่า มันเป็นเช่นนั้น ถ้าพูดอย่างนั้นแล้วจะเกี่ยวข้องกับคนอีกไม่รู้กี่คน และตั้งแต่ต้นที่ตั้งเรื่องนี้ขึ้นมา สรุปสุดท้ายก็ต้องอธิบายว่า การเปลี่ยนแปลงโยกย้ายทั้งหมดเพราะอะไร นอกจากที่มีเป้าหมายเพียงเพื่อให้คนๆหนึ่งขึ้นมาดำรงตำแหน่งเท่านั้นเอง ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบว่า รัฐบาลจะให้นายถวิลไปอยู่ที่ไหน แต่อยากเรียกร้องให้ข้าราชการออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้ถึงที่สุดเพื่อรักษาระบบราชการ ไม่เฉพาะเพื่อตัวบุคคลที่ออกมาต่อสู้เท่านั้น แต่เพื่อระบบโดยรวม และที่ผ่านมามีหลายฝ่าย หลายเครือข่ายที่ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อรักษาไว้ซึ่งระบบ

**สั่งเช็คยอด ดร.สีกากีระดมหัวกระทิ

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มีรายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.ท.ยงยศ นาคเฉลิม ผู้บัญชาการสำนักงานกำหลังพล (ผบช.สกพ.) มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ 0009.214/6595 เรื่องสำรวจข้อมูลข้าราชการตำรวจผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ถึงทุกหน่วยงานในสังกัด โดยมีใจความว่า ร.ต.อ.เฉลิม ซึ่งกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดให้มีการประชุมว่าระดมความเห็นและข้อเสนอแนะจากข้าราชการตำรวจที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก เพื่อนำข้อมูลที่ได้รับไปประกอบการพิจารณากำหนดยุทธศาสตร์และทิศทางการพัฒนางานของ ตร.ในอนาคต ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 12 กันยายน เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคาร 1 ตร. ดังนั้นจึงให้ทุกหน่วยสำรวจข้าราชการตำรวจที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ตามสาขาต่างๆ ส่งให้สำนักงานกำลังพลภายในวันที่ 7 กันยายน และให้ข้าราชการตำรวจเข้าร่วมประชุมตามวันเวลาที่กำหนดด้วย

**โพลค้านย้าย "วิเชียร" ชี้ไม่เป็นธรรม

สวนดุสิตโพล ทำการสำรวจความคิดเห็นประชาชน จากกระแสข่าวการโยกย้าย พล.ต.อ.วิเชียร ไปเป็นเลขาสมช. พบว่า ร้อยละ 26.77 มีความเห็นไม่ควรโยกย้ายในช่วงนี้ ควรดำเนินการในเรื่องอื่นที่สำคัญ เช่น แก้ไขปัญหาน้ำท่วม และควบคุมราคาสินค้า นอกจากนี้ ร้อยละ74.70 ยังมองว่า การโยกย้ายดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องการเมือง เนื่องจากไม่ว่ารัฐบาลใด เข้ามาทำหน้าที่ต้องมีการจัดสรรคนของตนเองเข้าไปดูแลหน่วยงานสำคัญ ซึ่งเป็นเรื่องปกติทางการเมือง ที่รัฐบาลจะต้องทำ เพื่อให้มีเสถียรภาพที่มั่นคง

**'ถวิล'เล็งสู้ฟ้องศาลปค.-กก.พิทักษ์ฯ

วันเดียวกัน นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เสนอให้ทำหนังสือขอย้ายตัวไปรับราชการตำแหน่งอื่น หลังจากย้าย พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.มาแทน ว่า ตลอดชีวิตการเป็นข้าราชการ อยู่ในสภาความมั่นคงมานานกว่า 30 ปี ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นซื่อสัตย์สุจริตมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชุดไหนเข้ามาบริหารประเทศ ก็สามารถที่จะทำงานได้ไม่มีปัญหา และไม่คิดทำหนังสือขอย้ายตัวเองไปรับตำแหน่งอื่นตามที่ ร.ต.อ.เฉลิมเสนอ โดยจะรอจนกว่าที่ประชุมครม.จะมีมติอย่างเป็นทางการ

ส่วนข้อกล่าวหาที่ร.ต.อ.เฉลิม ระบุว่า เคยเป็นเลขานุการ ศอฉ.ในรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ จึงไม่สามารถทำงานร่วมกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทยได้ นายถวิล กล่าวว่า การเป็นเลขานุการศอฉ.เป็นไปโดยตำแหน่ง และกฎหมายไม่ได้กำหนดให้ต้องย้ายข้าราชการเพราะเคยทำงานร่วมกับรัฐบาลในอดีต และการปฏิบัติหน้าที่ ที่ผ่านมาก็ไม่ได้บกพร่องแต่อย่างได ขณะนี้จึงยังไม่คิดว่าจะต้องถูกย้ายไปรับตำแหน่งอื่น และหากจะถูกย้ายจริง ตำแหน่งที่เหมาะสมคือปลัดกระทรวง ไม่ใช่ช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี

ขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาข้อกฏหมาย และความเป็นไปได้กรณีถูกโยกย้ายไม่เป็นธรรม ผ่านช่องทางยื่นให้ศาลปกครองพิจารณา และช่องทางของคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรม ของข้าราชการพลเรือน เพราะการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการต้องยึดหลักตามกฎหมาย และหลักคุณธรรมด้วย หากที่สุดแล้วถูกแต่งตั้ง หรือ โยกย้ายไม่เป็นธรรมก็พร้อมที่จะต้อสู้ตามช่องทางของกฎหมายกำหนด เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับข้าราชการประจำ ที่ทำงานเพื่อประเทศชาติมาโดยตลอด แต่ขณะนี้ต้องรอฟังมติที่ประชุมครม.อย่างเป็นทางการก่อน เพราะเมื่อฝนยังไม่ตก จึงไม่จำเป็นต้องกางร่ม

เมื่อถามว่า พล.ต.อ.วิเชียร ยอมทำหนังสือย้ายตัวเอง จะมีผลบังคับให้เลขาฯสมช.ต้องทำหนังสือขอย้ายตัวเองตามด้วยหรือไม่ นายถวิล กล่าวว่า อยากถาม พล.ต.อ.วิเชียร เหมือนกันว่า คนที่เคยเป็นผบ.ตร. แต่ขอย้ายตัวเองมาเป็นเลขาธิการสมช.จะมีความเหมาะสมตรงไหน และทำไมไม่ต่อสู้ให้ถึงที่สุด เพื่อปกป้องระบบข้าราชการ ไม่ให้นักการเมืองเข้ามาแทรกแซงได้ ดังนั้นจะไม่ทำหนังสือย้ายตัวเอง เพราะมั่นใจว่าเหมาะสมกับตำแหน่งเลขาฯสมช.แล้ว เพราะหากจะไปต้องเป็นปลัดกระทรวง และจะให้ไปอยู่ในกระทรวงไหน เพราะขณะนี้ทุกกระทรวงก็มีปลัดหมดแล้ว

**ลือ!สุรสิทธิ์ นั่งกุนซือยุติธรรม

อีกด้านหลังจากพล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ อดีตผู้บังคับการกองปราบปราม และอดีตผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ปรากฏตัวต่อสื่อมวลชนครั้งแรก ในงานสถาปนากองบังคับการปราบปรามครบรอบ 63 ปี หลังจากที่ถูกดำเนินคดีหวยบนดิน และเดินทางออกต่างประเทศไปทำธุรกิจให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ตั้งแต่นั้น

อย่างไรก็ตามแม้ พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ จะปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่าจะได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับคณะรัฐบาลชุดนี้หรือไม่นั้น

มีกระแสข่าวว่า อาจจะได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าารกระทรวงยุติธรรม (พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก).
กำลังโหลดความคิดเห็น