ASTVผู้จัดการรายวัน - คลังเล็งเพิ่มกรอบงบประมาณปี 55 ขาดดุลจากเดิม 3.5 แสนล้านเป็น 4 แสนล้านบาท รายจ่ายอยู่ที่ 2.36 ล้านล้านบาท ส่วนประมาณการรายได้อยู่ที่ 1.96 ล้านล้านบาท “ธีระชัย” ระบุแม้จะขาดดุลเพิ่มแต่ไม่ส่งผลทางลบต่อเศรษฐกิจ
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลัง เปิดเผยว่า จากการหารือร่วม 4 หน่วยงานประกอบไปด้วยกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในการจัดทำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2555 ได้มีการปรับเพิ่มตัวเลขการขาดดุลงบประมาณจากเดิมที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดเดิมได้ตั้งไว้ที่ 3.5 แสนล้านบาทขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้สามารถดำเนินนโยบายตามที่รัฐบาลประกาศไว้
โดยในรายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขการจัดทำงบประมาณทั้งหมดได้ต้องนำเข้าหารือกับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ก่อน ซึ่งผู้แทนทั้ง 4 ฝ่ายได้เห็นชอบร่วมกันที่จะปรับลดงบประมาณรายจ่ายตามกรอบเดิมที่เห็นว่ามีความซ้ำซ้อน ไม่จำเป็น รวมทั้งโครงการที่ไม่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลลงด้วยเพื่อให้สามารถนำงบประมาณมาใช้ทำโครงการตามที่รัฐบาลประกาศไว้ได้
“ตัวเลขขาดดุลยังไม่นิ่งแต่เพิ่มจากกรอบเดิมที่รัฐบาลชุดที่แล้ววางไว้ที่ 3.5 แสนล้านบาท แต่เมื่อคิดเป็นสัดส่วนการขาดดุลงบประมาณต่อจีดีพีแล้วถือว่าลดลงเนื่องจากฐานการเติบโตของปีนี้ขยายตัวจากปีที่แล้วมาก ดังนั้นผลในทางเศรษฐศาสตร์แม้ว่าจะขาดดุลเพิ่มเติมจากกรอบเดิมก็ไม่ทำให้มีผลทางเศรษฐกิจในทางลบแต่อย่างใด ขณะที่การประมาณการด้านรายได้ก็ยังคงอยู่ในกรอบที่ใกล้เคียงกับประมาณการเดิม” นายธีระชัยกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่าจากการหารือของ 4 หน่วยงานในเบื้องต้นที่ประชุมเห็นชอบร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 โดยมีรายจ่าย 2.36 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากกรอบเดิม 1.1 แสนล้านบาท ส่วนประมาณการรายได้อยู่ที่ 1.96 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 6 หมื่นล้านบาท ขณะที่กรอบวงเงินขาดดุลจากเดิมที่ 3.5 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้น 5 หมื่นล้าน เป็น 4 แสนล้านบาท.
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลัง เปิดเผยว่า จากการหารือร่วม 4 หน่วยงานประกอบไปด้วยกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในการจัดทำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2555 ได้มีการปรับเพิ่มตัวเลขการขาดดุลงบประมาณจากเดิมที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดเดิมได้ตั้งไว้ที่ 3.5 แสนล้านบาทขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้สามารถดำเนินนโยบายตามที่รัฐบาลประกาศไว้
โดยในรายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขการจัดทำงบประมาณทั้งหมดได้ต้องนำเข้าหารือกับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ก่อน ซึ่งผู้แทนทั้ง 4 ฝ่ายได้เห็นชอบร่วมกันที่จะปรับลดงบประมาณรายจ่ายตามกรอบเดิมที่เห็นว่ามีความซ้ำซ้อน ไม่จำเป็น รวมทั้งโครงการที่ไม่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลลงด้วยเพื่อให้สามารถนำงบประมาณมาใช้ทำโครงการตามที่รัฐบาลประกาศไว้ได้
“ตัวเลขขาดดุลยังไม่นิ่งแต่เพิ่มจากกรอบเดิมที่รัฐบาลชุดที่แล้ววางไว้ที่ 3.5 แสนล้านบาท แต่เมื่อคิดเป็นสัดส่วนการขาดดุลงบประมาณต่อจีดีพีแล้วถือว่าลดลงเนื่องจากฐานการเติบโตของปีนี้ขยายตัวจากปีที่แล้วมาก ดังนั้นผลในทางเศรษฐศาสตร์แม้ว่าจะขาดดุลเพิ่มเติมจากกรอบเดิมก็ไม่ทำให้มีผลทางเศรษฐกิจในทางลบแต่อย่างใด ขณะที่การประมาณการด้านรายได้ก็ยังคงอยู่ในกรอบที่ใกล้เคียงกับประมาณการเดิม” นายธีระชัยกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่าจากการหารือของ 4 หน่วยงานในเบื้องต้นที่ประชุมเห็นชอบร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 โดยมีรายจ่าย 2.36 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากกรอบเดิม 1.1 แสนล้านบาท ส่วนประมาณการรายได้อยู่ที่ 1.96 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 6 หมื่นล้านบาท ขณะที่กรอบวงเงินขาดดุลจากเดิมที่ 3.5 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้น 5 หมื่นล้าน เป็น 4 แสนล้านบาท.