xs
xsm
sm
md
lg

ถ่างเบนซิน-โซฮอล์ คาด4เดือนถังแตก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-"ยิ่งลักษณ์"สั่งเพิ่มส่วนต่างเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ไม่ต่ำกว่า 2 บาท หลังคนบ่นอุบ และยอดเติมเบนซินทะลัก กบง.รับลูก ควักเงินกองทุนน้ำมันฯ ถ่างส่วนต่าง ราคาลงทันที 1.07-1.60บาท แต่มีแค่ปตท.และบางจาก รับอุ้มได้อีกแค่ 4 เดือน ถังแตก "โต้ง"ตามบี้สินค้าลดราคา แย้ม"สหพัฒน์-ยูนิลีเวอร์" ร่วมมือตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคถึงสิ้นปี "มาร์ค"ข้องใจเบนซินขึ้นราคา บริษัทน้ำมันรับเนื้อๆ "กรณ์"ชี้นโยบายลักลั่น ทำเกษตรกรปลูกมันสำปะหลังเจ๊ง

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการหามาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการด้านต่างๆ หลังรัฐบาลมีนโยบายงดการเก็บเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเฉพาะเบนซินและดีเซล วานนี้ (30 ส.ค.) ว่า ได้ติดตามสถานการณ์และทราบข่าวจากผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว ซึ่งยังคงยืนยันในนโยบายเดิมที่จะส่งเสริมพลังงานทดแทน และยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ต้องการที่จะสวนตลาด และเรื่องนี้ได้ฝากเรื่องไปยังรมว.พลังงาน คณะกรรมการโยบายพลังงาน (กบง.) เพื่อดูเรื่องอัตราการช่วยเหลือแก๊สโซฮอล์แล้ว ซึ่งแนวทางจะดูในเรื่องราคาเพื่อช่วยเหลือในผู้ที่ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ โดยวิธีการจะไม่เกี่ยวข้องกับการลดภาษี แต่จะดูเรื่องของชะลอการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง

"ส่วนต่างของราคาน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ที่เหมาะสม คิดว่าอย่างน้อยต้องไม่ต่ำกว่า 2 บาท เพื่อให้การดูแลผู้ที่ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ เพราะเป็นผู้ใช้ส่วนใหญ่ โดยจะมีการติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะช่วงนี้เป็นเพียงเบื้องต้นที่ราคาน้ำมันลดลงค่อนข้างมาก คนส่วนใหญ่เลยตื่นตัวไปใช้ แต่ระยะหนึ่งจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ส่วนวงเงินที่จะนำมาใช้ดูแล กองทุนน้ำมันฯ สามารถดูแลได้ระยะหนึ่ง และจะพยายามที่จะรักษาวินัยทางการเงิน การคลังเอาไว้"

ส่วนการหารายได้มาชดเชยเงินที่สูญเสียไปจากการลดราคาน้ำมัน โดยเฉพาะการขึ้นภาษีบาปเพื่อนำมาใช้โปะนั้น ยังไม่ได้คุยกัน เป็นเพียงแค่แนวคิดที่เสนอกันเท่านั้น แต่ขณะนี้ยังไม่คิดที่จะขึ้นอะไร
นางสาวยิ่งลักษณ์กล่าวว่า การปรับลดราคาสินค้าตามการลดราคาน้ำมัน รัฐบาลกำลังทำงานร่วมกับผู้ประกอบการ เบื้องต้นจะเป็นการขอความร่วมมือ แต่ระยะยาวก็ต้องไปดูโครงสร้างทั้งหมด โดยสินค้าบางอย่างก็ต้องให้มีการแข่งขันอย่างเสรี และเป็นธรรม ซึ่งถ้าทำได้ก็เชื่อว่าราคาต่างๆ ก็จะปรับลดลงมาได้ ส่วนจะเป็นสินค้าประเภทไหนนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังศึกษาอยู่ ตอนนี้เป็นเรื่อของภาพรวม เมื่อเสร็จแล้วก็จะไล่ไปดูในสินค้าแต่ละตัว โดยจะเร่งให้เร็วที่สุด เพราะว่าบางอย่างไม่อยากพูด เพราะจะส่งผลกระทบต่อเรื่องราคา

**แก๊สโซฮอล์ราคาลง1.07-1.60บาท

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน กล่าวภายหลังการประชุม กบง. ว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีได้กำชับในการประชุมครม. เพื่อให้ดูแลส่วนต่างราคาแก๊สโซฮอล์ กบง.จึงเห็นชอบลดอัตราการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ 95 ลง 1 บาทต่อลิตร เหลือเก็บ 1.40 บาทต่อลิตร อุดหนุนแก๊สโซฮอล์ 91 เพิ่ม 1.50 บาทต่อลิตร จากที่เดิมเก็บอยู่ 10 สตางค์ต่อลิตร เป็นชดเชยเพิ่ม 1.40 บาทต่อลิตร และอุดหนุนแก๊สโซฮอล์อี 20 อีก 1.50 บาทต่อลิตร จากที่อุดหนุนอยู่ 1.30 บาทต่อลิตร เป็นอุดหนุนรวม 2.80 บาทต่อลิตร ทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันแก๊สโซฮอล์ของ ปตท.และบางจาก จะลดราคาลง 1.07-1.60 บาทต่อลิตรมีผลวันนี้ (31ส.ค.)

“หากเอกชนรายอื่นไม่ลดลงตามนโยบายก็คงบังคับไม่ได้ แต่เรายึดที่ ปตท. และบางจาก โดยผลดังกล่าวจะทำให้ราคาแก๊สโซฮอล์ 95 กับเบนซิน 91 เท่ากัน เทียบกับเบนซิน 91 แก๊สโซฮอล์ 91 ก็จะถูกกว่า 3.04 บาทต่อลิตร อี 20 ก็จะถูกกว่า 4.54 บาทต่อลิตรและอี 85 จะถูกกว่า 14.05 บาทต่อลิตร”นายพิชัยกล่าว

ทั้งนี้ การดูแลส่วนต่างราคาแก๊สโซฮอล์ครั้งนี้ส่งผลให้ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ติดลบอีก 464 ล้านบาท จากเดิม 3,600 ล้านบาทเป็น 4,023 ล้านบาทต่อเดือน ขณะที่เงินสดหมุนเวียนกองทุนน้ำมันฯ มีอยู่ 15,000 ล้านบาท ยังสามารถใช้ได้อีก 4 เดือน ดังนั้น จึงยังไม่ต้องกู้ ยังมีเวลาพิจารณา เพราะจะต้องดูโครงสร้างราคาพลังงานชนิดอื่นๆ อีก โดยเฉพาะส่วนของก๊าซแอลพีจี (ก๊าซหุงต้ม) ที่ขณะนี้ราคาประเทศเพื่อนบ้านสูงถึง 20-35 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ขณะที่ไทยเฉลี่ย 18 บาทกว่าต่อกก.เท่านั้น เพราะกองทุนน้ำมันฯ เข้าไปอุดหนุน

นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า รมว.พลังงานได้มอบหมายให้บมจ.ปตท.ไปดำเนินการพิจารณาจัดทำบัตรเครดิตพลังงานก่อนที่จะตัดสินใจนโยบายราคาของแอลพีจีและก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) เพื่อลดผลกระทบให้กับผู้มีรายได้น้อย เช่น แท็กซี่ รถตุ๊กๆ รถโดยสารสาธารณะ เกษตรกร โดยปกติกองทุนน้ำมันฯขณะนี้จะอุดหนุนแอลพีจีและเอ็นจีวีเฉลี่ยประมาณ 3,000 ล้านบาท การช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มคาดว่าจะทำให้กองทุนฯ ลดภาระได้ถึง 2,000 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังกบง.มีมติปตท.และบางจากได้นำแจ้งปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลใหม่ เมื่อรวมกับภาษีมูลค่าเพิ่มจะทำให้แก๊สโซฮอล์ลดลง 1.07 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 และอี 20 ลดลง 1.60 บาทต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันนี้ (31ส.ค.) โดยราคาเป็นดังนี้ เบนซิน95 อยู่ที่ 39.92 บาทต่อ เบนซิน91 อยู่ระดับ 35.37 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 95เท่ากับเบนซิน 91ที่ 35.37 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 32.34 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์อี 20 อยู่ที่ 30.84บาทต่อลิตร และแก๊สโซฮอล์อี 85 อยู่ที่ 21.32 บาทต่อลิตร ขณะที่ดีเซลคงเดิมที่ 26.99 บาทต่อลิตร

**"โต้ง"ตามบี้สินค้าลดราคา

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงการดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภคหลังราคาน้ำมันลดลงว่า ขณะนี้กรมการค้าภายในได้ทำงานร่วมกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด ในการติดตามสถานการณ์ราคาสินค้า ซึ่งหลังจากปรับลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน ก็จะเริ่มเห็นราคาสินค้าลดลงอย่างเนื่องจากต้นทุนการผลิตที่ลดลง แต่คงค่อยๆ ทยอยปรับลดในแต่ละกลุ่มสินค้า และไม่ได้ปรับทั้งหมดทุกรายการ

“รัฐบาลจะดูแลราคาสินค้าทั้งระบบอย่างมีเสถียรภาพ และให้ความมั่นใจว่าหลังจากนี้ค่าครองชีพจะไม่ทะยานขึ้น ทั้งที่หลายๆ ชาติทั่วโลกกำลังเผชิญปัญหาสินค้า ค่าครองชีพสูง ส่วนมาตรการขึ้นค่าแรง อาจทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นบ้าง แต่ก็จะเป็นลักษณะค่อยเป็นค่อยไป โดยเงินเฟ้อ 4.1% ถือว่ายังไม่สูง และไม่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น”

**แย้ม"สหพัฒน์-ยูนิลีเวอร์"รับตรึงราคา

นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ในวันที่ 5 ก.ย.นี้ กระทรวงพาณิชย์ จะเชิญผู้ประกอบการทุกกล่มสินค้ามาหารือ เพื่อขอความร่วมมือให้ปรับลดราคาสินค้าลง เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล หลังจากราคาน้ำมันได้ปรับลดลงแล้ว ซึ่งกรมฯ จะขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการปรับลดราคาขายลงตามต้นทุนที่ลดลง หากปรับลดมากเกินไป ผู้ประกอบการอาจจะเป็นฝ่ายเดือดร้อนเอง

ทั้งนี้ ในเบื้องต้น ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ คือ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) และบริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด รับปากแล้วว่าจะตรึงราคาสินค้าถึงสิ้นปี 2554 ซึ่งจะมีผลต่อผู้บริษัทอื่นๆ ไม่ปรับเพิ่มราคาสินค้าเช่นกัน

**เบรกขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมัน 6 เดือน

นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลได้ตัดสินจะไม่ปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันตามที่กรมสรรพสามิตเสนอมา เนื่องจากนายกรัฐมนตรีเห็นว่าควรคงอัตราภาษีทุกประเภทไว้เช่นเดิมต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อเป็นการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนตามนโยบายที่ประกาศไว้ โดยอย่างน้อยจะคงอัตราภาษีต่อไปอีก 6 เดือน รวมถึงภาษีสรรพสามิตสินค้าฟุ่มเฟือยอื่นๆ และหลังจากนั้น ค่อยมาพิจารณากันอีกครั้งหากเห็นว่ากระทบต่อรายได้ของรัฐบาลมากเกินไป

**"ปูนใหญ่"จ่อลดปูน-วัสดุก่อสร้าง

นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)กล่าวถึงกรณีที่รัฐลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันทำให้ราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลปรับราคาลดลงว่า ราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับลดลงมาทำให้ต้นทุนลอจิสติกส์ปรับลดลง 4-5% ส่วนการปรับลดราคาซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างนั้น บริษัทกำลังประเมินอยู่ เนื่องจากต้นทุนพลังงานอย่างถ่านหินปรับสูงขึ้น โดยพยายามดูแลราคาอยู่แล้ว เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชน หากราคาสินค้าปรับลดลงก็จะเป็นการกระตุ้นการบริโภคของประชาชน ทำให้มีการใช้จ่ายสูงขึ้น

**"มาร์ค"ข้องใจบริษัทน้ำมันรับเต็มๆ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังข้องใจว่าทำไมน้ำมันเบนซินถึงขึ้นราคา และการขึ้นราคาได้ส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ หรือไม่ ต้องไปตรวจสอบดู มิเช่นนั้นจะเป็นการลดการส่งเงินเข้ากองทุน และแทนที่ประโยชน์จะอยู่กับประชาชน จะกลายเป็นอยู่กับบริษัทน้ำมัน อีกทั้งการแก้ปัญหาแก็สโซฮอล์ ก็ควรจะดูทั้งระบบตั้งแต่แรก เพราะถ้าทำนโยบายแล้วไม่ดูทั้งระบบ จะเป็นปัญหาและสับสนไปเรื่อย แต่ว่าขณะนี้ควรจะดูว่า ไม่ใช่ลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ แล้ว แต่คนได้ประโยชน์กลับไม่ใช่คนใช้น้ำมัน แต่เป็นบริษัทน้ำมัน

**"กรณ์"ห่วงชาวไร่มันสำปะหลังเจ๊ง

นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อดีตรมว.คลัง กล่าวถึงกรณีผลกระทบจากการระงับการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ว่า ผลที่เกิดขึ้น พบว่า เมื่อราคาน้ำมันเบนซินถูกลง ประชาชนได้เลิกใช้แก็สโซฮอล์ แล้วกลับมาใช้น้ำมันเบนซินแทน ถือว่าเป็นการสิ้นเปลือง แต่เป็นการตัดสินใจของผู้บริโภคที่เข้าใจได้ เพราะประสิทธิภาพการใช้น้ำมันเบนซินเหนือกว่าแก๊สโซฮอล์ ตามความเข้าใจทั่วไป ซึ่งในส่วนนี้ผู้ได้ประโยชน์ คือ ผู้ใช้รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นกับนโยบายการใช้น้ำมันทดแทน ก็เป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าได้ส่งผลถึงชาวไร่ โดยเฉพาะชาวไร่มันสำปะหลัง เพราะราคามันสำปะหลังถูกปรับลดมา 1 บาทเต็มๆ เพราะไม่มีความแน่นอน และโรงกลั่นเอทานอลยกเลิกซื้อ อีกทั้งชาวไร่เองก็ขาดมาตรการรองรับจากเดิมที่เคยมีนโยบายมาตรการประกันรายได้
กำลังโหลดความคิดเห็น