00 แม้จะทำใจไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะต้องโดนหลอกให้รัก ถูกหลอกให้หลงเข้าสักวัน แต่ก็ยังเทให้หมดใจ เพราะใจหนึ่งยังมั่นใจว่า ด้วย “ทักษิณ คิด เพื่อไทยทำ ยิ่งลักษณ์ โคลนนิ่ง” มันก็จะทำตามที่สัญญาเอาไว้ทุกเรื่อง แต่ในที่สุดก็เป็นเพียงแค่ “เทคนิคการหาเสียง” เฉไฉไปกว่าที่ต้องพลิกพลิ้วเพราะเกรงจะผิดกฎหมายเรื่อง “สัญญาว่าจะให้” อย่างที่ “คอมมานโดเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ได้เฉลยให้ฟังในสภาให้ได้ยินไปทั่วนั่นเอง
00 กลายเป็นว่า นโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท และ จบปริญญาตรีได้เงินเดือน 15,000 บาทนั้นทำท่าไม่เป็นดังที่หาเสียงเอาไว้แล้ว เพราะมีการเขียนเอาไว้ในคำแถลงนโยบายของรัฐบาลว่าเป็น “รายได้” แทน มันก็หมายรวมถึงการเอาพวกสวัสดิการอื่นๆ เป็นการตีความแบบ “ศรีธนญชัย” เหลี่ยมจัดจริงๆ อย่างไรก็ดีจะได้รู้กันไปเลยว่าในที่สุดแล้วว่าจะ “ได้หรือไม่ได้” อีกไม่กี่วันความจริงก็ต้องปรากฏออกมา ที่สำคัญมันจะ “ทำทันที” หรือไม่
00 ในสถานการณ์ที่ภาวะเศรษฐกิจโลกกำลังถดถอยแบบนี้ การส่งออกเริ่มมีปัญหา ศักยภาพการแข่งขันของภาคเอกชนเริ่มถดถอย แต่ขณะเดียวกันสารพัดนโยบายประชานิยมที่สัญญาเอาไว้กลับต้องใช้งบประมาณมหาศาล มันก็น่าห่วงว่าจะพาเจ๊งกันหมด และคนที่โดนก่อนก็เราๆท่านๆนี่แหละ เพราะคนอย่าง ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ เขาไม่ยอมให้เจ๊งหรอก เพราะมีวิธีเอาตัวรอดได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว อย่างน้อยถ้าธุรกิจน้ำมันในอ่าวไทยตกลงกับ “ฮุนเซน” ได้กำไรมหาศาลมันก็จะมีอะไรให้กังวลอีกละ พี่น้อง
00 นับจากนี้ไปก็เริ่มเข้าสู่การทำงานจริง จะมัวทำสวย ทำสาวไปวันๆอีกไม่ได้แล้ว สำหรับ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพราะต้องทำหน้าที่เป็นผู้นำประเทศตัวจริงให้ได้ จะมัวแต่ให้คนอื่นคิดให้ทุกเรื่องคงไม่ไหว อย่างไรก็ดีภาพลักษณ์ในสภาฐานะผู้นำในวันแถลงนโยบายรัฐบาลวันแรกถือว่าออกมาไม่สวยเอาเสียเลย เหมือนกับว่าไม่ให้ความสำคัญกับสภา เห็นได้จากพอแถลงเสร็จก็รีบสะบัดก้นออกไป ทั้งที่น่าจะต้องฟังคนอื่นเขาพูดบ้าง แม้จะรู้ๆกันอยู่ว่า อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะฝ่ายค้านนั้นถนัดในเรื่องพูด แต่มารยาททางการเมืองก็ต้องมีเป็นองค์ประกอบด้วย จำไว้
00 ฟังจากปากของ รมว.กลาโหม พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ทำให้เข้าใจว่าล่าสุดโผทหารประจำปี ใกล้เสร็จสมบูรณ์หรือค่อนไปทางสมบูรณ์แล้ว มีเพียงในส่วนของกองทัพบกเท่านั้นที่อาจต้องมีการหารือกันบ้างกับ ผบ.ทบ.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในบางตำแหน่งที่ต้องสอบถาม แว่วมาว่า “บูรพาพยัคฆ์” ที่เคยขึ้นมาเป็นแผงมาในยุค “ประวิตร-อนุพงศ์” จะถูกลำเลียงออกนอกหน่วยกันไม่น้อย เว้นไว้แต่ “ตท.12 เพื่อนตู่” ที่ต้องดันกันสุดตัวว่างั้นเถอะ ขณะที่ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ นาทีนี้น่าจะทำใจได้แล้ว และคงต้องฝากไว้กับ “คนพิเศษ” ว่าจะช่วยได้แค่ไหน !!
00 ในที่สุดเมื่อวานนี้ (24 ส.ค.)ที่ประชุมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก็มีมติเป็นเอกฉันเลือก วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ เป็นประธานศาล รธน.คนใหม่ แทน ชัช ชลวรณ์ ที่ลาออกไปหลังจากเกิดเหตุอื้อฉาวกรณีเลขาฯส่วนตัวแอบถ่ายคลิปในคดียุบพรรคปชป. มองในแง่ดี การได้ประธานคนใหม่ถือว่ามีความมั่นใจขึ้นไปอีกว่าองค์กรยุติธรรมดังกล่าวไม่แกร่งไกวไปตามกระแสแน่ เมื่อพิจารณาจากตัวบุคคลที่ชื่อ วสันต์ สร้อยพิสุทธ์ คนนี้ !!
00 กลายเป็นว่า นโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท และ จบปริญญาตรีได้เงินเดือน 15,000 บาทนั้นทำท่าไม่เป็นดังที่หาเสียงเอาไว้แล้ว เพราะมีการเขียนเอาไว้ในคำแถลงนโยบายของรัฐบาลว่าเป็น “รายได้” แทน มันก็หมายรวมถึงการเอาพวกสวัสดิการอื่นๆ เป็นการตีความแบบ “ศรีธนญชัย” เหลี่ยมจัดจริงๆ อย่างไรก็ดีจะได้รู้กันไปเลยว่าในที่สุดแล้วว่าจะ “ได้หรือไม่ได้” อีกไม่กี่วันความจริงก็ต้องปรากฏออกมา ที่สำคัญมันจะ “ทำทันที” หรือไม่
00 ในสถานการณ์ที่ภาวะเศรษฐกิจโลกกำลังถดถอยแบบนี้ การส่งออกเริ่มมีปัญหา ศักยภาพการแข่งขันของภาคเอกชนเริ่มถดถอย แต่ขณะเดียวกันสารพัดนโยบายประชานิยมที่สัญญาเอาไว้กลับต้องใช้งบประมาณมหาศาล มันก็น่าห่วงว่าจะพาเจ๊งกันหมด และคนที่โดนก่อนก็เราๆท่านๆนี่แหละ เพราะคนอย่าง ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ เขาไม่ยอมให้เจ๊งหรอก เพราะมีวิธีเอาตัวรอดได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว อย่างน้อยถ้าธุรกิจน้ำมันในอ่าวไทยตกลงกับ “ฮุนเซน” ได้กำไรมหาศาลมันก็จะมีอะไรให้กังวลอีกละ พี่น้อง
00 นับจากนี้ไปก็เริ่มเข้าสู่การทำงานจริง จะมัวทำสวย ทำสาวไปวันๆอีกไม่ได้แล้ว สำหรับ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพราะต้องทำหน้าที่เป็นผู้นำประเทศตัวจริงให้ได้ จะมัวแต่ให้คนอื่นคิดให้ทุกเรื่องคงไม่ไหว อย่างไรก็ดีภาพลักษณ์ในสภาฐานะผู้นำในวันแถลงนโยบายรัฐบาลวันแรกถือว่าออกมาไม่สวยเอาเสียเลย เหมือนกับว่าไม่ให้ความสำคัญกับสภา เห็นได้จากพอแถลงเสร็จก็รีบสะบัดก้นออกไป ทั้งที่น่าจะต้องฟังคนอื่นเขาพูดบ้าง แม้จะรู้ๆกันอยู่ว่า อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะฝ่ายค้านนั้นถนัดในเรื่องพูด แต่มารยาททางการเมืองก็ต้องมีเป็นองค์ประกอบด้วย จำไว้
00 ฟังจากปากของ รมว.กลาโหม พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ทำให้เข้าใจว่าล่าสุดโผทหารประจำปี ใกล้เสร็จสมบูรณ์หรือค่อนไปทางสมบูรณ์แล้ว มีเพียงในส่วนของกองทัพบกเท่านั้นที่อาจต้องมีการหารือกันบ้างกับ ผบ.ทบ.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในบางตำแหน่งที่ต้องสอบถาม แว่วมาว่า “บูรพาพยัคฆ์” ที่เคยขึ้นมาเป็นแผงมาในยุค “ประวิตร-อนุพงศ์” จะถูกลำเลียงออกนอกหน่วยกันไม่น้อย เว้นไว้แต่ “ตท.12 เพื่อนตู่” ที่ต้องดันกันสุดตัวว่างั้นเถอะ ขณะที่ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ นาทีนี้น่าจะทำใจได้แล้ว และคงต้องฝากไว้กับ “คนพิเศษ” ว่าจะช่วยได้แค่ไหน !!
00 ในที่สุดเมื่อวานนี้ (24 ส.ค.)ที่ประชุมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก็มีมติเป็นเอกฉันเลือก วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ เป็นประธานศาล รธน.คนใหม่ แทน ชัช ชลวรณ์ ที่ลาออกไปหลังจากเกิดเหตุอื้อฉาวกรณีเลขาฯส่วนตัวแอบถ่ายคลิปในคดียุบพรรคปชป. มองในแง่ดี การได้ประธานคนใหม่ถือว่ามีความมั่นใจขึ้นไปอีกว่าองค์กรยุติธรรมดังกล่าวไม่แกร่งไกวไปตามกระแสแน่ เมื่อพิจารณาจากตัวบุคคลที่ชื่อ วสันต์ สร้อยพิสุทธ์ คนนี้ !!