ASTVผู้จัดการรายวัน – บริษัทจดทะเบียน โชว์ผลงานงวดครึ่งแรกปี 54 กำไรสุทธิรวม 385,957 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ปีก่อน 34.61% และมียอดขายรวมสูงเกือบ 4.5 ล้านล้านบาท โดยมี ปตท. ครองแชมป์กำไรสูงสุด
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึง ผลการดำเนินของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) จำนวน 472 บริษัท คิดเป็น 92.73% ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด 509 บริษัท (รวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 34 กองทุน) ประจำงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2554 ว่า บริษัทจดทะเบียนมีกำไรสุทธิรวม 385,957 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่กำไรรวม 286,727 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 34.61% โดยมีกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 6 กลุ่ม
ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2 ปี 2554 บริษัทจดทะเบียนมีกำไรสุทธิรวม 172,384 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.46 % จากงวดเดียวกันของปีก่อน
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนนั้น บริษัทจดทะเบียนมียอดขายรวม 4,487,505 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดขายเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 6 กลุ่ม และมีบริษัทที่มีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 402 บริษัท หรือคิดเป็น 85.17% ของบริษัทจดทะเบียนที่แจ้งผลประกอบการทั้งหมด
นายจรัมพร กล่าวว่า ผลดำเนินงานของบจ.ยังคงสะท้อนถึงแนวโน้มและอัตราการเติบโตของทั้งยอดขายและกำไรรวมที่ปรับตัวเพิ่ม และสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องจากไตรมาส 1 ที่ผ่านมา โดยมีสัญญาณการปรับตัวเพิ่มชัดเจนมาตั้งแต่งวด ปี 2553 และงวดไตรมาส 1 ของปี 2554 จากภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่มีการขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้มีความต้องการสินค้าและบริการเพิ่มมากขึ้น
“พื้นฐานเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ รวมถึงศักยภาพของผู้ประกอบการบริษัทจดทะเบียนในการบริหารค่าใช้จ่ายและการบริหารจัดการเพื่อสร้างกำไรแก่ธุรกิจภายใต้ภาวะต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น ทำให้ยอดขายเติบโตอย่างโดดเด่น แม้จะมีผลกระทบจากสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจในยุโรปและสหรัฐฯ โดยมีการเติบโตอย่างโดดเด่นในหุ้นขนาดใหญ่ (SET50) โดยเฉพาะหุ้นในหมวดพลังงาน ปิโตรเคมี และธนาคาร ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 1 ของปีนี้ ” นายจรัมพรกล่าว
สำหรับบริษัทในกลุ่ม SET100 มีกำไรสุทธิงวด 6 เดือนของปี 2554 รวม 330,769 ล้านบาท คิดเป็น 85.28% ของกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนรวมทั้งหมด คิดเป็นกำไรเพิ่มขึ้น 35.93% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมียอดขายรวม 3,788,106 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.43% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่มีการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 327 ล้านบาท มีภาระดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น 18.32% และต้นทุนขายเพิ่มขึ้น 24.41 % ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 19.20% เป็น 19.22%
ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนที่มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานตามปกติสูงสุด 5 อันดับแรก คือ บมจ. ปตท. (PTT) บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) และ บมจ. ธนาคารกรุงเทพ (BBL)
สำหรับหมวดธุรกิจที่มีกำไรรวมสูงสุด 5 อันดับแรกในช่วง 6 เดือนแรกปี 2554 จาก 27 หมวดธุรกิจ ได้แก่ หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค หมวดธนาคาร หมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ หมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และหมวดวัสดุก่อสร้าง
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึง ผลการดำเนินของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) จำนวน 472 บริษัท คิดเป็น 92.73% ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด 509 บริษัท (รวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 34 กองทุน) ประจำงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2554 ว่า บริษัทจดทะเบียนมีกำไรสุทธิรวม 385,957 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่กำไรรวม 286,727 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 34.61% โดยมีกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 6 กลุ่ม
ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2 ปี 2554 บริษัทจดทะเบียนมีกำไรสุทธิรวม 172,384 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.46 % จากงวดเดียวกันของปีก่อน
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนนั้น บริษัทจดทะเบียนมียอดขายรวม 4,487,505 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดขายเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 6 กลุ่ม และมีบริษัทที่มีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 402 บริษัท หรือคิดเป็น 85.17% ของบริษัทจดทะเบียนที่แจ้งผลประกอบการทั้งหมด
นายจรัมพร กล่าวว่า ผลดำเนินงานของบจ.ยังคงสะท้อนถึงแนวโน้มและอัตราการเติบโตของทั้งยอดขายและกำไรรวมที่ปรับตัวเพิ่ม และสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องจากไตรมาส 1 ที่ผ่านมา โดยมีสัญญาณการปรับตัวเพิ่มชัดเจนมาตั้งแต่งวด ปี 2553 และงวดไตรมาส 1 ของปี 2554 จากภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่มีการขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้มีความต้องการสินค้าและบริการเพิ่มมากขึ้น
“พื้นฐานเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ รวมถึงศักยภาพของผู้ประกอบการบริษัทจดทะเบียนในการบริหารค่าใช้จ่ายและการบริหารจัดการเพื่อสร้างกำไรแก่ธุรกิจภายใต้ภาวะต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น ทำให้ยอดขายเติบโตอย่างโดดเด่น แม้จะมีผลกระทบจากสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจในยุโรปและสหรัฐฯ โดยมีการเติบโตอย่างโดดเด่นในหุ้นขนาดใหญ่ (SET50) โดยเฉพาะหุ้นในหมวดพลังงาน ปิโตรเคมี และธนาคาร ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 1 ของปีนี้ ” นายจรัมพรกล่าว
สำหรับบริษัทในกลุ่ม SET100 มีกำไรสุทธิงวด 6 เดือนของปี 2554 รวม 330,769 ล้านบาท คิดเป็น 85.28% ของกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนรวมทั้งหมด คิดเป็นกำไรเพิ่มขึ้น 35.93% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมียอดขายรวม 3,788,106 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.43% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่มีการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 327 ล้านบาท มีภาระดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น 18.32% และต้นทุนขายเพิ่มขึ้น 24.41 % ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 19.20% เป็น 19.22%
ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนที่มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานตามปกติสูงสุด 5 อันดับแรก คือ บมจ. ปตท. (PTT) บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) และ บมจ. ธนาคารกรุงเทพ (BBL)
สำหรับหมวดธุรกิจที่มีกำไรรวมสูงสุด 5 อันดับแรกในช่วง 6 เดือนแรกปี 2554 จาก 27 หมวดธุรกิจ ได้แก่ หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค หมวดธนาคาร หมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ หมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และหมวดวัสดุก่อสร้าง