xs
xsm
sm
md
lg

เบรกเกมแก้รธน.ช่วยแม้ว "เหลิม"อ้างไม่ใช่เรื่องด่วน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 13.00 น. วานนี้ (18 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า รัฐบาลจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยบรรจุไว้ในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ว่า ไม่ทราบว่าไปเอาข่าวมาจากที่ใด สิ่งที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ออกมาระบุนั้นเป็นเพียงการพูดในเชิงวิชาการเท่านั้น
ทั้งนี้ ประธานสภาไม่มีสิทธิ์ในการแก้รัฐธรรมนูญ มีแต่ส.ส.ที่มีสิทธิ์เสนอเท่านั้น อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยได้บอกคนทั่วบ้านทั่วเมืองว่า จะคืนความสุขให้กับประเทศไทยและคืนความสุขให้กับประชาชน ซึ่งเราเปิดหน้าชกมาตลอดว่า ไม่เอารัฐธรรมนูญปี 50 ทั้งการโหวตในสภา หรือแม้กระทั่งการหาเสียง เนื่องจากรัฐธรรมนูญปี 50 มาจากคราบไคลของเผด็จการ
แต่เมื่อเราเห็นว่ารัฐธรรมนูญปี 40 นั้นดี จึงอยากได้ แต่คงไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนของรัฐบาลชุดนี้ เนื่องจากเรื่องที่รัฐบาลชุดนี้ต้องเร่งดำเนินการคือ 1. แก้ไขปัญหาความยากจน 2.แก้ไขปัญหายาเสพติด 3. แก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ 4. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน 5. การคืนความเป็นธรรมให้สังคม
" ส่วนที่ใส่ไว้ในรัฐธรรมนูญ ผมไม่เห็นว่าจะต้องไปแก้ไขในมาตราไหน และไอ้พวกที่วิพากษ์วิจารณ์ ขอกราบงามๆ เถอะ สอนผมหน่อยได้ไหมว่าแก้รัฐธรรมนูญมาตราไหนถึงยกโทษให้คนหนึ่งคนใดได้ ซึ่งมันไม่มี เพราะกฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ไม่ได้มีไว้ยกโทษให้ใคร ซึ่งบางคนก็อย่ากวนน้ำให้ขุ่น เชิญพรรคประชาธิปัตย์สอบถามได้เลย ถ้านายกรัฐมนตรีมอบหมายให้มา ผมจะตอบแทน" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หนักใจหรือไม่ที่ฝ่ายค้านโจมตีตั้งแต่ยังไม่เข้าทำงาน ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่หนักใจ ตนว่าสนุกดี เพราะมีฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง และรัฐบาลที่แก้ไขปัญหาได้ เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรี จะรับมือไหวหรือไม่ เพราะอาจจะกลายเป็นปูนึ่ง หรือปูนิ่ม ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ปูทะเลก้ามใหญ่ต่างหาก แต่เชื่อว่าไม่มีอะไร เพราะการเมืองก็เป็นแบบนี้

** ตั้ง “คอมมานโด” คุ้มกันนายกฯในสภา

ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการแต่งตั้ง “องครักษ์พิทักษ์นายกรัฐมนตรี” เพื่อปกป้องการถูกโจมตีในสภา ว่า ไม่ใช่องครักษ์ แต่เป็นคอมมานโดของพรรคเพื่อไทย ซึ่งตนเป็นคนตั้งเอง เพราะตนเป็นหัวหน้าคอมมานโดเก่า สมัยอยู่กองปราบปราม ซึ่งในที่ประชุมมีการหารือกันว่า หากมีการอภิปรายนอกเรื่องนโยบาย จะทำอย่างไร ตนจึงเสนอไปว่าคอมมานโดต้องเข้าปะทะ ประท้วงในข้อบังคับ เนื้อหา หากมีการพูดนอกเรื่อง ต้องอย่าให้พูดกันแบบฟรีคิ๊ก หรือฟรีๆ และที่มีการระบุว่า ตนจะปกป้องนายกรัฐมนตรี ตนนั้นไม่มีสิทธิ์ปกป้องท่าน มีแต่ท่านปกป้องตน อย่างไรก็ตามหากมีการมอบหมายให้ตนทำ ก็พร้อมจะชี้แจง ทั้งนี้ ตนเป็นเพียงผู้ช่วยคอมมานโด เท่านั้น

** เผย “ปู” ให้ดูแลปัญหายาเสพติด

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงหน้าที่รับผิดชอบของตน ในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีว่า ยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งต้องรอให้แถลงนโยบายเสร็จสิ้นก่อน ขณะนี้นายกรัฐมนตรี เพียงแต่สั่งในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ( ครม. ) ให้ตนดูแลแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมทั้งการตอบคำถาม เรื่องกระบวนการยุติธรรม หากมีการถามในการประชุมสภา อย่างไรก็ตาม ตนไม่ขัดข้อง หากนายกรัฐมนตรีจะมอบหมายให้ดูงานอะไร

** "วสันต์"ค้านนำรธน.ปี40 มาใช้ทั้งฉบับ

นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีที่อาจมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี พ.ศ 2550 ว่า หากรัฐบาลต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ควรแต่งตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ ชุดที่ 3 (ส.ส.ร. 3) ขึ้นมาทำหน้าที่ เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งหมด และนำส่วนดีของรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ.2540 มาปรับใช้ ไม่ใช่นำรัฐธรรมนูญปี พ.ศ.2540 มาใช้ทั้งหมด เนื่องจากมีปัญหาบางส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับระบบศาลยุติธรรม ซึ่งทำให้ผู้พิพากษาต้องไปพิจารณาในคดีที่ไม่มีความชำนาญได้

** "เพื่อไทย" แบ่ง8 ทีมแถลงนโยบาย

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าพรรคได้มีการประชุมด้านนโยบาย โดยมี พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย เป็นประธานในที่ประชุม และมีส.ส.ของพรรคบางส่วนเข้าร่วม ซึ่งเป็นตัวแทนจากหลาย ๆ ภาคของประเทศ และได้มีการหารือถึงการอภิปรายแถลงนโยบายของรัฐบาล ในวันที่ 23-24 สิงหาคม นี้ และที่ประชุมได้แบ่งทีมออกเป็น 8 ทีม กับ 8 หัวข้อหลัก ที่จะใช้ในการแถลงนโยบาย เช่น นโยบายเร่งเด่วนที่จะเริ่มดำเนินการในปีแรก 50 นาที ความมั่นคงแห่งรัฐ 30 นาที เศรษฐกิจ 1 ชั่วโมง นโยบายสังคม และคุณภาพชีวิต 30 นาที นโยบายที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม 30 นาที นโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัย และนวัตกรรม 30 นาที นโยบายการต่างประเทศ 30 นาที การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี 30 นาที
รวมทั้งสิ้นรัฐบาล จะได้เวลา 11 ชั่วโมง ซึ่งจะมีการแบ่งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคณะรัฐมนตรี ทำการอภิปรายประมาณ 4 ชั่วโมง นอกจากนั้นจะเป็นการเปิดโอกาสให้ทำการชี้แจงและประท้วงต่าง ๆ
นายจิรายุ กล่าวว่า ที่ประชุมยังเห็นว่า การร่วมแถลงนโยบาย จะใช้วิธีการสมานฉันท์ ซึ่งหากพรรคฝ่ายค้านเห็นว่า นโยบายของรัฐบาลไม่เหมาะสม ก็สามารถแนะนำได้ โดยทางรัฐบาลก็จะเอาไปปรับปรุงแก้ไข
ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยยังได้มีการตั้งคณะกรรมการส่งเสริมประชาธิปไตย ซึ่งก็เปรียบเสมือนองค์รักษ์พิทักษ์คณะรัฐมนตรี โดยมี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย เป็นหัวหน้าทีม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรค เป็นรองหัวหน้าทีม นางสาววิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ นายนวัธ เตาะเจริญสุข นายสมคิด บาลไธสง นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท นายพายัพ ปั้นเกตุ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะสลับกันทำหน้าที่ชี้แจง และควบคุมเวลาของฝ่ายค้าน และเป็นทีมงานในการสร้างสมานฉันท์

** ไม่ห่วงกลุ่มเสื้อหลากสีป่วน

นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวกรณี นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี ระบุจะนำมวลชนมาที่หน้ารัฐสภา ในวันที่มีการแถลงนโยบายรัฐบาล ว่า เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่ต้องดูแลความปลอดภัยอยู่แล้ว คงต้องมีการกำชับให้เข้มงวดเรื่องการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เชื่อว่า คงไม่มีปัญหาถึงขั้นต้องบีนบันไดรัฐสภาหนีเหมือนการแถลงนโยบายรัฐบาลที่ผ่านมา เพราะขณะนี้เราได้เดินหน้ามามากแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น