“เป็ดเหลิม” ระบุ แก้ รธน.ไม่ใช่นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่ต้องทำ ซัด ปชป.ชอบกวนน้ำให้ขุ่น ไม่ห่วง “ยิ่งลักษณ์” ถูกถล่มทุกวัน ยกเป็นปูกล้ามใหญ่ ไม่ใช่ปูนึ่ง คุยเป็นคนตั้งคอมมานโดคุ้มกันนายกฯหญิง ในสภา บอกภูมิใจซักฟอกจนดีเอสไอ กลับลำฟ้อง ฟิลลิป มอร์ริส
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวรัฐบาลจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ไม่ทราบว่าไปเอาข่าวมาจากที่ใด สิ่งที่ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรออกมาระบุนั้น เป็นเพียงการพูดในเชิงวิชาการ ทั้งนี้ ประธานสภาไม่มีสิทธิ์ในการแก้รัฐธรรมนูญ มีเพียงแต่ ส.ส.ที่มีสิทธิ์เสนอเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยได้บอกคนทั่วบ้านทั่วเมือง ว่า จะคืนความสุขให้กับประเทศไทยและคืนความสุขให้กับประชาชน ซึ่งเราเปิดหน้าชกมาตลอด ว่า ไม่เอารัฐธรรมนูญปี 50 ทั้งการโหวตในสภา หรือแม้กระทั่งการหาเสียง เนื่องจากรัฐธรรมนูญปี 50 มาจากคราบไคลของเผด็จการ แต่เมื่อเราเห็นว่า รัฐธรรมนูญปี 40 นั้นดี จึงอยากได้ แต่คงไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนของรัฐบาลชุดนี้ เนื่องจากรัฐบาลชุดนี้ต้องเร่งดำเนินการ คือ 1.แก้ไขปัญหาความยากจน 2.แก้ไขปัญหายาเสพติด 3.แก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ 4.ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน 5.การคืนความเป็นธรรมให้สังคม
“ส่วนที่ใส่ไว้ในรัฐธรรมนูญ ผมไม่เห็นว่า จะต้องไปแก้ไขในมาตราไหน และไอ้พวกที่วิพากษ์วิจารณ์ ขอกราบงามๆ เถอะ สอนผมหน่อยได้ไหมว่าแก้รัฐธรรมนูญมาตราไหนถึงยกโทษให้คนหนึ่งคนใดได้ ซึ่งมันไม่มี เพราะกฎหมายรัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศไม่ได้มีไว้ยกโทษให้ใคร ซึ่งบางคนก็อย่ากวนน้ำให้ขุ่น เชิญพรรคประชาธิปัตย์สอบถามได้เลยถ้านายกรัฐมนตรีมอบหมายให้มา ผมจะตอบแทน”
ผู้สื่อข่าวถามว่า หนักใจหรือไม่ที่ฝ่ายค้านโจมตีตั้งแต่ยังไม่เข้าทำงาน ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่หนักใจ ตนว่าสนุกดี เพราะมีฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง และรัฐบาลที่แก้ไขปัญหาได้ เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีจะรับมือไหวหรือไม่ เพราะอาจจะกลายเป็นปูนึ่ง หรือ ปูหนีบ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ปูทะเลกล้ามใหญ่ต่างหาก แต่เชื่อว่าไม่มีอะไร เพราะการเมืองเป็นแบบนี้
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงหน้าที่รับผิดชอบในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ว่า ยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งต้องรอให้แถลงนโยบายเสร็จสิ้นเสียก่อน ขณะนี้นายกรัฐมนตรีเพียงแต่สั่งในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ตนดูแลแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมทั้งให้ตอบเรื่องกระบวนการยุติธรรม หากมีการถามในการประชุมสภา อย่างไรก็ตาม ตนไม่ขัดข้องหากนายกรัฐมนตรีจะมอบหมายให้ดูงานอะไร
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงกรณีที่มีการแต่งตั้ง “องครักษ์นายกรัฐมนตรี” เพื่อปกป้องในสภา ว่า ไม่ใช่องครักษ์ แต่เป็นคอมมานโดของพรรคเพื่อไทย ซึ่งตนเป็นคนตั้งเอง เพราะตนเป็นหัวหน้าคอมมานโดเก่า สมัยอยู่กองปราบปราม ซึ่งในที่ประชุมมีการหารือกันว่าหากมีการอภิปรายนอกเรื่องนโยบายจะทำอย่างไร ตนจึงเสนอไปว่า คอมมานโดต้องเข้าปะทะประท้วงในข้อบังคับ เนื้อหา หากมีการพูดนอกเรื่อง ต้องอย่าให้พูดกันแบบฟรีคิก หรือฟรีๆ และที่มีการระบุว่า ตนจะปกป้องนายกรัฐมนตรี ตนนั้นไม่มีสิทธิ์ปกป้องท่าน มีแต่ท่านปกป้องตน อย่างไรก็ตาม หากมีการมอบหมายให้ตนทำก็พร้อมจะชี้แจง ทั้งนี้ ตนเป็นเพียงผู้ช่วยคอมมานโดเท่า
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสอนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ สั่งดำเนินคดีกับบริษัท ฟิลลิป มอร์ริส จำกัด กรณีหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงค่าภาษีอากร ทำให้ค่าภาษีอากรต่ำประมาณ 68,000 ล้านบาท ว่า ตนดีใจที่สุดที่เป็นคนอภิปรายไม่ไว้วางรัฐบาลชุดที่แล้ว ในเรื่องนี้ จนกระทั่งทำให้ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปลี่ยนใจมาสั่งฟ้องเรื่องเงิน 68,000 ล้านบาท ซึ่งเมื่อคืนวาน (17 ส.ค.) ตนนอนยิ้มทั้งคืน