xs
xsm
sm
md
lg

สลายหมู่บ้านแดง...!!??

เผยแพร่:   โดย: สำราญ รอดเพชร

สำราญ รอดเพชร
samr_rod@hotmail.com

“คงไม่สามารถตอบได้ว่าจะสลายหรือไม่สลาย แต่ทุกอย่างต้องดูว่ามีการทำผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าไม่ผิดจะไม่มีการดำเนินการอะไร โดยจะต้องระวังไม่ให้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนเพราะเรื่องนี้เป็นหลักการสำคัญในการอยู่ร่วมกันระหว่างฝ่ายปกครองกับประชาชน แต่ถ้าหากมีการกระทำผิดกฎหมาย จะมาอ้างว่าเป็นพวกใครไม่ได้”

นั่นคือคำตอบจากปาก รองนายกรัฐมนตรี/รมว..มหาดไทย และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย - ยงยุทธ วิชัยดิษฐ (ไทยรัฐ ออนไลน์, 15 ส.ค.2554) ต่อคำถามที่ว่ารัฐบาล-กระทรวงมหาดไทย จะสลาย “หมู่บ้านแดง” หรือไม่? นับว่าเป็นคำตอบที่รัดกุม หรือถ้าเป็นนักมวยก็การ์ดสูงไม่ยอมเปิดหน้าเปิดปลายคางให้คู่ต่อสู้น็อกได้เลย...

แต่จะการ์ดสูง รัดกุมแค่ไหน เรื่อง “หมู่บ้านแดง” ก็จะยังเป็นระเบิดเวลา เป็นหนามตำเท้าของรัฐบาลรักยิ่งรัก..รักยิ่ง รัก..ยิ่งลักษณ์หรือรัฐบาลปูแดงของผมต่อไป เช่นเดียวกับวลี “แก้วสามดวง” ของกี้ร์ อริสมันต์ ที่ยังสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นจนวันนี้..

ถ้าย้อนมองเรื่อง “หมู่บ้านแดง” สรุปสั้นๆ ได้ว่าแม้จะมีการก่อรูป ดำเนินการมานานนับปี แต่เพิ่งเป็นข่าวเป็นคราวในช่วงการยุบสภา เตรียมการเลือกตั้งทั่วไป 3 ก.ค. 2554 โดยมีการจัดตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงในหลายพื้นที่โดยเฉพาะที่จ.อุดรธานี ประธานและเลขาธิการกลุ่มคนเสื้อแดงอุดรธานี คือ ร.ต.ต.กมลศิลป์ สิงหะสุริยะและนายอานนท์ แสนน่าน ได้ทำพิธีเปิดหมู่บ้านคนเสื้อแดงในจ.อุดรธานี 217 หมู่บ้าน ขณะที่แกนนำ นปช.และพลพรรคของพรรคเพื่อไทยในอีกหลายจังหวัดของภาคอีสานก็ทยอยเปิดตัวไปตามๆ กันในอีกหลายจังหวัด

ข่าวนี้ครึกโครมถึงขนาดสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าพื้นที่ 1 ใน 3 ของภาคอีสานกำลังกลายเป็น “หมู่บ้านแดง” ไปหมดสิ้นแล้ว...ซึ่งนับเป็นรายงานข่าวที่ค่อนข้างจะเกินเลยความเป็นจริงอยู่ไม่น้อย แต่แน่นอนข่าวนี้ฟังแล้วน่าตกอกตกใจ...

ต้องยอมรับว่า..ถ้าหมู่บ้านดังกล่าวใช้ชื่อเพียงว่า “หมู่บ้าน นปช.” ถึงแม้จะรู้สึกถึงการแบ่งแยกอะไรอยู่บ้างแต่ก็คงไม่หนักข้อเท่ากับชื่อ “หมู่บ้านแดง” ที่รับทราบกันดีว่าในยุคปี พ.ศ. 2508 -2525 คำว่า “หมู่บ้านแดง” หรือหมู่บ้านสีแดงหมายถึงพื้นที่ที่พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ยึดกุม-จัดตั้งเคลื่อนไหวมวลชนเพื่อล้มล้างอำนาจรัฐ ล้มล้างสถาบันด้วยกำลังอาวุธ ซึ่งวันนี้เหตุการณ์ดังกล่าวได้จบและผ่านมาแล้วเป็นเวลาหลายสิบปี แม้มันจะเป็น “แผลเป็น” ทางประวัติศาสตร์ แต่ใช่หรือไม่ว่าประเทศไทยควรจะเดินหน้าพัฒนาไปด้วยรูปแบบสันติวิธี ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข...

จริงอยู่ คน นปช.หรือคนเสื้อแดงบอกว่า..หมู่บ้านคนเสื้อแดงไม่ได้ต่อสู้ด้วยความรุนแรงหรือด้วยอาวุธเหมือน พคท.แต่ยอมรับกันหรือไม่ว่าในเชิงของสัญลักษณ์หรือแม้แต่เนื้อหาความคิดหลายส่วนที่แพร่กระจายในหมู่บ้านคนเสื้อแดงจำนวนไม่น้อยนั้น มีข้อมูลที่เป็นด้านลบต่อสถาบันสูงสุดอยู่ด้วย

วันนี้...หลังเลือกตั้ง 3 ก.ค. 2554 เมื่อพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นรัฐบาลและประกาศชัดเจนว่าจะยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จะเทิดทูนปกป้องสถาบันสูงสุด...จึงเป็นธรรมดาที่สังคมจะจับจ้องมองดูว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะเอายังไงกับ “หมู่บ้านแดง” ของคนเสื้อแดง ของ นปช.หรือขบวนการมวลชนที่ได้แปรรูปเป็น “ขบวนการรณรงค์หาเสียง” หนุนส่งให้พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งแบบท่วมท้น

คำตอบแบบการ์ดสูงของ มท.1-ยงยุทธ วิชัยดิษฐ พอฟังได้และเข้าใจได้ ถ้าในส่วนลึกท่านไม่เห็นด้วยแต่ยังเกรงอกเกรงใจคนเสื้อแดง...แต่ถ้าในส่วนลึกท่านเห็นดีเห็นงามหรือปล่อยให้เกิดหมู่บ้านแดงตามอัธยาศัยก็นับเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังสำหรับคนที่เคยเติบใหญ่ในมหาดไทย เคยรับใช้แผ่นดินเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สุดท้ายได้เป็นถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย...

สำหรับนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยพูดถึง “หมู่บ้านแดง” ในช่วงการหาเสียงเพียงว่า...เป็นเรื่องการแสดงออกเฉยๆ เป็นเพียงสัญลักษณ์ ยังไม่ผิดกฎหมายอะไร และน่าจะเป็นปรากฏการณ์ช่วงเลือกตั้งเท่านั้น...ต่างกับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่พูดในห้วงเวลาเดียวกันว่า...ควรสลายหมู่บ้านแดง...

ถามผมว่าคิดอ่านอย่างไรในเรื่องนี้...??

ตอบแบบฟันธงสั้นๆ ก่อนว่า...รัฐบาลยิ่งลักษณ์ควรอย่างยิ่งที่จะต้องสลาย..ส่วนรายละเอียดวิธีการ...ไปว่ากันเอาเอง..จะค่อยๆ ลดความเร่าร้อนจากชื่อ “หมู่บ้านแดง” เป็น “หมู่บ้าน นปช.” อย่างรักษาการประธาน นปช.-ธิดา ถาวรเศรษฐ์ เสนอสุดแท้แต่..แต่ถ้าสลายไปได้เลยจะดีที่สุด

ผมเคารพ ไม่ขัดข้องการรวมตัวการแสดงออกของพี่น้องประชาชน แม้ความเห็นนั้นจะแปลกแยกแตกต่างกันเพียงใดก็ตาม แต่คำว่า “หมู่บ้านแดง” ที่หลายหมู่บ้านลามปามไปถึงการตั้งกำนันหมู่บ้านแดง, ผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านแดง ทำให้เกิดความแตกแยกในเชิงลึกของผู้นำ ทั้งๆ ที่ตามกฎหมายก็มี พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2547 อยู่แล้ว นอกจากจะมีนัยที่แสดงถึงอำนาจรัฐซ้อนอำนาจรัฐแล้ว ยังเป็นการตอกย้ำถึงการแบ่งสีแบ่งฝ่าย หรือชวนให้ครุ่นคิดไปถึงขบวนการล้มเจ้า....อีกต่างหาก

ครับ ทั้งหลายทั้งปวง..สุดท้ายก็ต้องบอกว่าเรื่องราวเหล่านี้มันเป็นปรากฏการณ์ทางประวัติศาสตร์ของพรรคเพื่อไทยและสังคมการเมืองไทยโดยแท้ ต้องยอมรับว่าการรัฐประหาร 19 กันยา 2549 ล้มทักษิณ แต่เกิดอาการ “เยี่ยวไม่สุด” ของคณะรัฐประหาร ทำให้เกิดขบวนการต่อต้านเผด็จการที่ไปจับมือกับระบอบทักษิณจนเกิดขบวนการเคลื่อนไหวการเมืองนอกสภาครั้งใหญ่ เกิด นปช. เกิดยุทธศาสตร์ 2 ขาคือพรรคเพื่อไทยและ นปช. (คนเสื้อแดง) ที่จับมือกันแผลงฤทธิ์ชนะเลือกตั้งเหนือพรรคประชาธิปัตย์ที่อ่อนงานมวลชน และกล้าได้แต่ไม่กล้าเสีย (สนธิ ลิ้มทองกุล, 16 ส.ค. 2554)

แม้ระยะยาวพรรคเพื่อไทยกับ นปช.อาจขัดแข้งขัดขากัน เพราะขบวนการคนเสื้อแดงมีหลายกลุ่ม บางกลุ่มมีเป้าหมายที่มากกว่าการเมืองในระบอบประชาธิปไตยระบบตัวแทน (การเลือกตั้ง) ขณะที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยจำนวนไม่น้อยลึกๆ ก็ไม่ชอบขบวนการคนเสื้อแดง...แต่ดูเหมือนว่ายังไม่มีใครในกลุ่มคนเหล่านี้กล้าหาญพอที่จะแตะเบรกหมู่บ้านแดงที่กำลังเดินหน้า นอกจากนายขวัญชัย ไพรพนา ที่ขัดผลประโยชน์กับแกนนำเสื้อแดงที่จ.อุดรธานีเท่านั้น...

ขอฝาก ส.ส.ฝ่ายค้านหรือ ส.ว.ที่กังวลใจเรื่อง “หมู่บ้านแดง” ตั้งกระทู้ถามให้นายกฯ ปูแดงของผม ตอบให้กระจะกระจ่างกลางสภา ซักทีเหอะ..!!
กำลังโหลดความคิดเห็น