xs
xsm
sm
md
lg

นโยบาย"ปู1"ฉลุย 300-15,000ทำทันที

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ครม.ไฟเขียวนโยบายรัฐบาล เน้นเพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายประชาชน "ยิ่งลักษณ์"ย้ำค่าแรง 300 บาท เงินเดือนป.ตรี 15,000 บาท ทำทันที "โต้ง"ย้ำต้องทบทวน บางโครงการของรัฐบาลเก่า หากไม่เข้าข่ายกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดแถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภา 23-24 ส.ค.นี้ "ขุนค้อน"รับลูกเพื่อไทย เสนอแก้รัฐธรรมนูญเป็นนโยบายเร่งด่วน พร้อมชี้ช่องทางด่วนปลุกผีฉบับปี 40 มาใช้ "เติ้ง"โดดหนุนทันที

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงนโยบายเศรษฐกิจมหภาคปีแรกของการเป็นรัฐบาล วานนี้ (16 ส.ค.) ว่า เป็นเพียงการหารือถึงการทำนโยบายเพื่อให้ครม. อนุมัติเห็นชอบในหลักการเท่านั้น โดยนโยบายจะแบ่งเป็นภาคๆ ทั้งในเรื่องของนโยบายเร่งด่วน นโยบายด้านสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว จะมีการชี้แจงในเรื่องของตัวเลขอีกครั้งหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวถามว่านโยบายการบริหารเศรษฐกิจที่สำคัญ 1-3 ข้อแรก มีอะไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า ส่วนใหญ่ เรามองภาพรวมจากเศรษฐกิจในต่างประเทศที่มีความผันผวน ดังนั้น เราจะพึ่งในเรื่องของการส่งออกอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องหันมาเน้นในเรื่องของเศรษฐกิจระดับประเทศมากขึ้น คือ เรื่องการกระตุ้นรายได้ และลดรายจ่ายในประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลจะเน้นในเรื่องนี้ ส่วนในเรื่องของเงินเฟ้อ มีหลายอย่างที่รัฐบาลจะทำ และไม่อยากให้มองที่เงินเฟ้ออย่างเดียว แต่ต้องมองเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมด้วย

เมื่อถามว่า ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท และเพิ่มเงินเดือนผู้จบปริญญาตรี 15,000 บาท จะบรรจุอยู่ในนโยบายเร่งด่วนที่ต้องทำทันทีหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะหารือทันทีก่อนนำไปกำหนดเป็นแผนงานต่อไป

นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม. เห็นชอบแผนนโยบายรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภาตามที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ และนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ได้เสนอต่อที่ประชุม ซึ่งมีประมาณ 35 หน้า แต่แถลงรายละเอียดไม่ได้ เพราะอยู่ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีจะแถลงต่อรัฐสภา ซึ่งประเด็นหลักๆ จะเป็นเรื่องของนโยบายเร่งด่วน การสร้างความปรองดอง การปราบทุจริตคอร์รัปชั่น การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระชาติ การแก้ไขปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ การฟื้นฟูความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน

"นายกฯ ได้สั่งการให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรี จัดพิมพ์และส่งรัฐสภาในวันที่ 19 ส.ค.นี้ ส่วนกำหนดการแถลงอยู่ที่ประธานรัฐสภาเป็นผู้กำหนด และสั่งการเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเชิญส่วนราชการประชุมทันที เพื่อชี้แจงนโยบายวันถัดไปหลังจากสภาได้พิจารณาร่างแถลงนโยบายรัฐบาลแล้ว และนายกฯ ได้ย้ำว่า หลังแถลงนโยบายให้ชี้แจงหัวหน้าส่วนราชการและเริ่มจัดทำแผนบริหารราชการแผ่นดิน และการจัดทำงบประมาณปี 2555 ทันทีเช่นกัน"นายอำพลกล่าว

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยเติบโตได้โดยการพึ่งภาคการส่งออก แต่ตอนนี้ประเทศที่ซื้อสินค้าไทย อาจมีความเข้มแข็งไม่เหมือนเดิม การปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจให้เติบโตโดยพึ่งพิงภาคการบริโภคในประเทศ เป็นเรื่องที่ควรทำ และมันเกิดประโยชน์หลายด้าน ทำให้คนในประเทศมีกำลังซื้อสูงขึ้น โดยเฉพาะการเพิ่มรายได้ให้ผู้มีรายได้ต่ำ หากมีรายได้สูงขึ้น จะเป็นผู้บริโภคที่เข้มแข็ง และไม่มีส่วนต่อการนำเข้าสินค้า ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเร่งด่วนที่จะเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร ขึ้นค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ 300 บาท และงินเดือน15,000 บาท สำหรับผู้จบปริญญาตรี

"รัฐบาลนี้พูดถึงเป้าหมายการกระจายรายได้เป็นเรื่องแรก รัฐบาลอยากเห็นผู้มีรายได้น้อย มีรายได้เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่าผู้ที่มีรายได้มาก เพราะพูดกันมากแล้วในเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำของรายได้ ที่จะเห็นผลจริงในการดำเนินการของรัฐบาลนี้"นายกิตติรัตน์กล่าว

เมื่อถามว่านโยบายรัฐบาลนี้จะใช้งบประมาณเท่าใด นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า นโยบายเหล่านี้หากพูดไปแล้วจะตกใจ เพราะเป็นนโยบายใหม่ที่ต้องใช้งบประมาณแน่นอน ตอนนี้ในทุกกระทรวงทราบดีเกี่ยวกับการกระจายรายได้ของรัฐบาล ฉะนั้น ต้องทบทวนในบางเรื่อง บางโครงการ โดยหากไม่ใช่โครงการที่มีความสำคัญเร่งด่วนต่อการเติบโตทาง เศรษฐกิจ ก็อาจจะยกเลิกหรือชะลอไป

นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การกำหนดกรอบเวลาการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภา เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการ ประสานงาน (วิป) 3 ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และวุฒิสภา จะต้องหารือถึงแนวทางและกำหนดกรอบระยะเวลา รวมถึงการแบ่งเวลาให้แต่ละฝ่ายได้อภิปราย โดยคาดว่าจะเป็นภายในสัปดาห์นี้ จากนั้นต้องนำมาให้ตนพิจารณา แต่หากไม่สามารถตกลงกันได้ ตนจะเป็นผู้พิจารณาเวลาที่เหมาะสม ตามประเพณีปฏิบัติ เช่น กำหนดให้แถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภา จำนวน 2 วัน วันละ 15 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 09.00 - 24.00 น. หรือ กำหนดให้แถลงนโยบายเป็นเวลา 3 วัน วันละ 12 ชั่วโมง เป็นต้น

สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พรรคเพื่อไทย เตรียมเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เป็นภารกิจเร่งด่วนในนโยบายรัฐบาล นายสมศักดิ์กล่าวว่า หากรัฐบาลเสนอมา สภาฯ ก็ต้องดำเนินการ เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 จะเป็นการเปิดช่องให้มีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมาทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ เพราะมาตรา 291 ปัจจุบัน เปิดช่องให้แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญรายมาตราเท่านั้น ส่วนร่างเดิมของรัฐบาล และสภาฯ ชุดเก่า ก็ขึ้นอยู่กับว่าครม.ชุดใหม่ จะมีมติยืนยันเรื่องเข้ามาใหม่หรือไม่ หากไม่ เรื่องก็จะตกไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากท่าทีของพรรคเพื่อไทยต้องการที่จะนำรัฐธรรมนูญ ปี 2540 กลับมาใช้ทั้งฉบับ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สามารถทำได้ หากสมาชิกมีความเห็นเช่นนั้น อย่างไรก็ดี หากไม่ต้องการเสียเวลาแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 รอบ คือ แก้ไขมาตรา 291 ก่อนและให้ ส.ส.ร.มาพิจารณายกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ก็สามารถมีทางด่วนพิเศษ ที่สามารถพิจารณาแก้ไขทั้งฉบับได้ โดยที่ไม่ต้องแก้มาตรา 291 แต่ให้เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยคงหมวด 1 และ 2 ที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์เอาไว้ แล้วนำรัฐธรรมนูญ ปี 2540 ที่เหลือยกเว้น หมวด 1 และ 2 มาสวมแทน ก็สามารถทำได้ เพราะหมวด 1 และ 2 มีเนื้อหาที่เหมือนกันอยู่แล้ว ส่วนพรรคเพื่อไทย จะใช้แนวทางนี้หรือไม่ ตนไม่ทราบ

นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ไม่น่าเสียหายอะไร หากเป็นการแก้ไขให้ดีขึ้น และไม่ต้องกลัว ถ้าเราทำถูกต้อง ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนาก็ยังยืนยันจุดยืนเดิมที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 237 เรื่องการยุบพรรค เพื่อคืนความเป็นธรรมคนที่ไมได้กระทำความผิด คนเราเกิดมาครั้งเดียว ตายหนเดียว ไม่ต้องกลัว ถ้าเราทำสิ่งที่ถูกต้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าล่าสุดของการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อให้รัฐบาลแถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภา เมื่อเวลา 19.30 น. นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ได้ทวิตข้อความในเวปไซต์ www.twitter.com ที่ใช้ชื่อว่า @kamnoon ระบุว่า “ล่าสุดจริงๆ แถลงนโยบายเป็นวันอังคารและวันพุธ ที่ 23-24 ส.ค. จันทร์ที่ 22 ประชุมวุฒิฯ เหมือนเดิม”

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมไปยังนายคำนูณ ในเรื่องดังกล่าว โดยนายคำนูณ กล่าวว่า ได้มีการหารือร่วมกันแล้วระหว่างนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา และ พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา แล้วว่าวันที่ 22 ส.ค. ที่รัฐบาลได้แสดงความพร้อมนั้น ปกติเป็นวันที่มีการประชุมวุฒิสภา จึงกำหนดให้มีการประชุมเพื่อให้รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ในวันที่ 23 และ 24 ส.ค. แทน
กำลังโหลดความคิดเห็น