xs
xsm
sm
md
lg

อีสานใต้จ่อเชือด แจ้งทำผิดกม.เลือกตั้ง 2 คดี – ภาค 3 ระดม ตร. 2 หมื่นคุมเข้มวันกาบัตร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.ท.ระพีพัฒน์ ปาละวงศ์ ผช.ผบ.ตร.  เป็นประธานมอบนโยบายเกี่ยวกับการป้องกันปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. ในเขตพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3 ที่ จ.นครราชสีมา วันนี้ (14 มิ.ย.)
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “พล.ต.ท.ระพีพัฒน์” ผช.ผบ.ตร. เดินสายมอบนโยบายป้องกันและปราบทุจริตเลือกตั้ง ส.ส. แก่ตำรวจ 8 จว.อีสานใต้ เผยอีสานใต้พบร้องเรียนเกณฑ์คนฟังปราศรัย-เตรียมเงินซื้อเสียง-เก็บบัตรปชช. ส่งชุดหาข่าวลงพื้นที่เก็บข้อมูลแล้ว ขณะตร.ภาค 3 ระดมกำลังดูแลเลือกตั้งร่วม 2 หมื่นนาย ส่งตร.อารักขาผู้สมัคร ส.ส. แล้วกว่า 100 นาย ระบุยโสธรทำลายป้ายหาเสียงมากสุด เผยจ่อเชือด แจ้งความทำผิดกม.เลือกตั้งแล้ว 2 คดีดัง ที่ ศรีสะเกษ และ โคราช

วันนี้ ( 14 มิ.ย. ) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 3 ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.ระพีพัฒน์ ปาละวงศ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าชุดป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นประธานมอบนโยบายเกี่ยวกับการป้องกันปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. ในเขตพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมรับทราบปัญหา อุปสรรคข้อขัดข้องในการดำเนินงาน และให้ข้อเสนอแนะ แนวทางการปฏิบัติแก่ตำรวจในสังกัดภูธรภาค 3 รวม 8 จังหวัดอีสานตอนล่าง ประกอบด้วย จ.นครราชสีมา , ชัยภูมิ ,บุรีรัมย์ , สุรินทร์ , ศรีสะเกษ , ยโสธร , อำนาจเจริญ และ จ.อุบลราชธานี จำนวนกว่า 200 นาย เพื่อให้นำไปปฏิบัติในพื้นที่ ซึ่งแต่ละแห่งจะมีหัวหน้าชุดเคลื่อนที่เร็วที่ทำหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ในระดับภาค ระดับจังหวัด และระดับสถานีตำรวจ

พล.ต.ท.ระพีพัฒน์ ปาละวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้กล่าวเน้นย้ำกับข้าราชการตำรวจโดยเฉพาะหัวหน้าชุดเคลื่อนที่เร็วทุกระดับ ให้ทำการสืบสวนหาข่าวการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งในเชิงลึก ทุกพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในพื้นที่ที่คาดว่าจะมีการต่อสู้กันรุนแรง รวมถึงเน้นให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และอาวุธสงครามในห้วงก่อนและหลังการเลือกตั้งอย่างเข้มข้น และเอ็กซเรย์พื้นที่หาข่าวความเคลื่อนไหวที่อาจมีผลกระทบต่อการเลือกตั้ง

รวมทั้งกำชับเป็นพิเศษในเรื่องของการวางตัวเป็นกลางของข้าราชการตำรวจในสังกัด และอบรมชี้แจงเกี่ยวกับการปฏิบัติให้กับกำลังพลที่จะทำหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานการเลือกตั้ง เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจและมีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างถูกต้องรวดเร็ว และสามารถแก้ไขสถานการณ์ในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม

พล.ต.ท.ระพีพัฒน์ กล่าวอีกว่า ในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคอีสานตอนล่างในความรับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 3 นั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับรายงานว่า มีการว่าจ้างเกณฑ์คนไปรับฟังการปราศรัย และเตรียมการใช้เงินซื้อเสียงในบางจุด รวมถึงมีการเก็บบัตรประชาชนในบางพื้นที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้ส่งชุดพิเศษ ซึ่งขณะนี้แฝงตัวลงพื้นที่ทั่วประเทศ ไปเก็บข้อมูล เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน เอาผิดกับผู้กระทำผิด

โดยลักษณะการกระทำผิดจะมีอยู่ 2 ลักษณะ คือ การกระทำผิดซึ่งหน้า หากพบสามารถดำเนินการเข้าจับกุมได้ทันที ส่วนอีกลักษณะหนึ่งคือ การร้องเรียนเข้ามายังทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรณีนี้ทางตำรวจจะต้องทำการสืบสวนสอบสวนหาหลักฐานแล้วสรุปสำนวนส่งไปยัง กกต.กลาง เพื่อพิจารณาออกใบเหลืองใบแดงให้กับผู้กระทำผิดตามระเบียบที่กำหนดไว้ ส่วนช่องทางอีกช่องทางหนึ่งที่จะได้รับรายงานคือ การลงพื้นที่ของหน่วยข่าวกรอง และเรื่องร้องเรียนต่างๆ ที่แจ้งเข้ามาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยตรง

สำหรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3 จนถึงขณะนี้พบว่ามีเรื่องร้องเรียนเข้ามายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติหลายเรื่อง แต่จะอยู่ในพื้นที่ใดบ้าง หรือมีจำนวนมากน้อยเพียงใดนั้นไม่สามารถเปิดเผยได้ขณะนี้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หาข่าวเรื่องดังกล่าวอยู่

พล.ต.ท.ระพีพัฒน์ กล่าวอีกว่า ในช่วงที่มีการเลือกตั้งตำรวจทุกนายต้องทำหน้าที่ของตนเองอย่างตรงไปตรงมา เป็นกลาง ไม่เอนเอียงเข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดและขอฝากไปถึงผู้สมัคร ส.ส.ทุกคน หากพบหรือรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ประสานงานโดยตรงมายังตนได้ทันที รวมถึงข้อมูลการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งก็สามารถแจ้งมาได้โดยตรงเช่นเดียว ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าขณะนี้มีการร้องเรียนเรื่องตำรวจวางตัวไม่เป็นกลางเข้ามาบ้างแล้ว แต่ไม่สามารถให้ข้อมูลได้เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นการร้องเรียนโดยตรงไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการรายสถานการณ์และการเตรียมความพร้อมการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้งในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3 ระบุว่า พื้นที่ 8 จังหวัดอีสานตอนล่าง ในความรับผิดชอบตำรวจภูธรภาค 3 มีประชากรทั้งสิ้น10.57 ล้านคนเศษ มีจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกว่า 7.96 ล้านคนมี ส.ส.ได้ 63 คน มีทั้งหมด 63 เขตเลือกตั้ง รวม 17,759 หน่วย จ.นครราชสีมามีหน่วยเลือกตั้งมากที่สุดถึง 4,275 หน่วย มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการรักษาความสงบเรียบร้อยรวม 17,759 นาย และ มีฝ่ายปกครองสนับสนุนอีก 17,759 คน มีการจัดชุดเคลื่อนที่เร็วประจำ กกต.จังหวัด 20 นาย ชุดเคลื่อนที่เร็ว สภ. 420 นาย และชุดปฏิบัติการหาข่าว 24 นาย มีผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ทั้งสิ้น 394 ราย

พรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครมากสุดคือ พรรคเพื่อไทย และ ประชาธิปัตย์พรรคละ 63 ราย รองลงมาคือ พรรคภูมิใจไทย 48 ราย จ.นครราชสีมามีผู้สมัครมากสุด 109 ราย โดยมีการร้องขอเจ้าหน้าที่ตำรวจไปรักษาความปลอดภัยผู้สมัคร ส.ส. จำนวน 52 ราย จาก 7 พรรคการเมือง รวมใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 104 นาย

สำหรับพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ล่อแหลม และต้องจับตามองเป็นพิเศษ แบ่งเป็นไม่มีรายงานความขัดแย้งหรือไม่มีความรุนแรง 28 เขต , พื้นที่ที่มีความขัดแย้งหรือรุนแรงน้อย 15 เขต , พื้นที่ที่มีความขัดแย้งหรือความเสี่ยงรุนแรงปานกลาง 20 เขต ส่วนพื้นที่ที่มีความขัดแย้งหรือความเสี่ยงรุนแรงมากถึงมากที่สุดยังไม่มี

ส่วนการทำลายป้ายหาเสียงจนถึงขณะนี้มีทั้งสิ้น 58 ป้ายจังหวัดยโสธรมากสุดถึง 23 ป้าย แจ้งความไว้เป็นหลักฐาน 12 กรณี รับเป็นคดี 2 กรณี ในพื้นที่ จ.ยโสธร จ.ศรีสะเกษ และ มีเรื่องร้องเรียนตำรวจวางตัวไม่เป็นกลาง 2 เรื่อง

ทั้งนี้ ล่าสุดมีคดีเกี่ยวเนื่องกับการเลือกตั้ง 3 เรื่อง แบ่งเป็นความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง 2 เรื่อง คือ 1.รับคำร้องทุกข์ 1 เรื่อง คดี 77/2554 สภ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ 2. อยู่ในขั้นตอนการสืบสวน กกต. จังหวัด 1 เรื่อง กรณีผู้ใหญ่บ้านอ.จักราช จ.นครราชสีมา ยึดบัตรประจำตัวประชาชน และ คดีเกี่ยวเนื่องกับการเลือกตั้ง 1 เรื่อง คือ หมิ่นประมาทเจ้าหน้าที่ กกต. จังหวัดศรีสะเกษ




กำลังโหลดความคิดเห็น