ASTVผู้จัดการรายวัน – ททท. โฟกัสกลุ่มเก่าให้มาซ้ำพรอ้มขยายกลุ่มหใหม่ เล็งเป้า ผู้สูงงวัยกับกลุ่มเจนเอ็กซ์-ไอ เตรียมแผนโปรโมต 4 แหล่งท่องเที่ยว น่าน ปาย สมุย เชียงคาน ปีหน้า เจาะตลาดท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เกาะกระแสโลก
นางพัฒน์มาศ วงศ์พัฒนศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือททท. เปิดเผยว่า แผนการทำงานในปีงบประมาณ 2555 ททท.ได้เตรียมเสนอสินค้าท่องเที่ยวใหม่ๆ ให้กับนักท่องเที่ยวในตลาดต่างประเทศ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวที่เคยมาแล้วให้มาซ้ำ และขยายฐานนักท่องเที่ยวสู่งลุกมใหม่ๆ
ให้ตัดสินใจเลือกมาเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น มุ่งเจาะ 2 ตลาดเป้าหมายหลัก ได้แก่ 1.ตลาดคุณภาพ เช่น กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มกอล์ฟ กลุ่มท่องเที่ยวเชิงดูแลสุขภาพ หรือเมดิคัล ทัวริสซึม กลุ่มฮันนีมูนและแต่งงาน กลุ่มสปา และกลุ่มผู้หญิง และ 2 ตลาดกระแสหลัก เช่น กลุ่มเจนเนอร์เรชั่นตั้งแต่เอ็กซ์-ไอ โดยกลุ่มนี้มีพื้นฐานชื่นชอบความง่าย และ
ชอบใช้เทคโนโลยีในการเดินทางและสืบค้นข้อมูล
“แหล่งท่องเที่ยวที่ ททท.จะนำเสนอ ต้องมีความเชื่อมโยงใน 3 มิติที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา คือ เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะกระแสสิ่งแวดล้อม ททท.ต้อง คิดทบทวน เพราะอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีส่วนทำให้เกิดภาวะโลกร้อนเฉลี่ย 5% ในที่นี้แบ่งเป็น 40% มาจากการเดินทางขนส่งทางอากาศ 40% , 30%ทางบก ,
21%โรงแรมและอีก 17% มาจากกิจกรรมท่องเที่ยว ”
จากปัญหาดังกล่าว ทำให้แผนงานส่งเสริมการท่องเที่ยว จะต้องเน้นปลุกจิตสำนึกนักท่องเที่ยว ในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งยังต้องร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ วางแผนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว และส่งเสริมสินค้าท่องที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับสโลแกนของ ททท.ในปี 2555 ที่ตั้งไว้ ท่องเที่ยวสดใส ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เริ่มต้นจากกลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทย
ให้รู้จักเที่ยวอย่างรู้คุณค่า ใน 4 พื้นที่หลักที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ได้แก่ จังหวัดน่าน เมืองปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมืองเชียงคาน จังหวัดเลย และเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เบื้องต้น ททท.ได้จัดทำคู่มือว่าสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ ก่อนเข้าไปในแหล่งท่องเที่ยว
ในส่วนของตลาดต่างประเทศ ชูแนวทางการส่งเสริมท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิดรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งจากข้อมูล พบว่า 2ใน3 ของนักท่องเที่ยวสหรัฐ และ 90% ของชาวอังกฤษ มีความสนใจสิ่งแวดล้อม สนับสนุนชุมชนท้องถิ่นให้มีส่วนรับผิดชอบโดยจัดที่พักที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ 70% ของนักท่องเที่ยวชาวสหรัฐ ออสเตรเลีย
สำหรับแผนรองรับกลุ่มตลาดผู้สูงอายุ อันเนื่องจากประชากรดังกล่าว กำลังเป็นชนกลุ่มใหญ่ในโลก คาดว่าปี 2563 หรืออีก 9 ปีจากนี้ จะมีผู้สูงอายุ 700 ล้านคน หรือ 15% ของจำนวนประชากรโลก และตั้งแต่ปี 2549-2569 จะมีผู้สูงอายุชาวอเมริกา 77 ล้านคนจะสู่วัยเกษียณ และมีการฉลองครบรอบ 60 ปี 8พันคนต่อวัน ขณะที่ญี่ปุ่น 8.5 พันคนต่อวัน ซึ่งททท. ต้องสร้างแรงจูงใจกลุ่มดังกล่าวมาเที่ยว
โดยไทยต้องตอบสนองเรื่องการพักผ่อน มีการบริการที่ดีมีคุณภาพ และเป็นผลดีต่อสุขภาพ นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ มีเงินเก็บและเงินจากรัฐสวัสดิการ จึงมีความพร้อในการจับจ่าย เพื่อการพักผ่อน หลังจากเกษียณงาน
นางพัฒน์มาศ วงศ์พัฒนศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือททท. เปิดเผยว่า แผนการทำงานในปีงบประมาณ 2555 ททท.ได้เตรียมเสนอสินค้าท่องเที่ยวใหม่ๆ ให้กับนักท่องเที่ยวในตลาดต่างประเทศ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวที่เคยมาแล้วให้มาซ้ำ และขยายฐานนักท่องเที่ยวสู่งลุกมใหม่ๆ
ให้ตัดสินใจเลือกมาเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น มุ่งเจาะ 2 ตลาดเป้าหมายหลัก ได้แก่ 1.ตลาดคุณภาพ เช่น กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มกอล์ฟ กลุ่มท่องเที่ยวเชิงดูแลสุขภาพ หรือเมดิคัล ทัวริสซึม กลุ่มฮันนีมูนและแต่งงาน กลุ่มสปา และกลุ่มผู้หญิง และ 2 ตลาดกระแสหลัก เช่น กลุ่มเจนเนอร์เรชั่นตั้งแต่เอ็กซ์-ไอ โดยกลุ่มนี้มีพื้นฐานชื่นชอบความง่าย และ
ชอบใช้เทคโนโลยีในการเดินทางและสืบค้นข้อมูล
“แหล่งท่องเที่ยวที่ ททท.จะนำเสนอ ต้องมีความเชื่อมโยงใน 3 มิติที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา คือ เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะกระแสสิ่งแวดล้อม ททท.ต้อง คิดทบทวน เพราะอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีส่วนทำให้เกิดภาวะโลกร้อนเฉลี่ย 5% ในที่นี้แบ่งเป็น 40% มาจากการเดินทางขนส่งทางอากาศ 40% , 30%ทางบก ,
21%โรงแรมและอีก 17% มาจากกิจกรรมท่องเที่ยว ”
จากปัญหาดังกล่าว ทำให้แผนงานส่งเสริมการท่องเที่ยว จะต้องเน้นปลุกจิตสำนึกนักท่องเที่ยว ในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งยังต้องร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ วางแผนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว และส่งเสริมสินค้าท่องที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับสโลแกนของ ททท.ในปี 2555 ที่ตั้งไว้ ท่องเที่ยวสดใส ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เริ่มต้นจากกลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทย
ให้รู้จักเที่ยวอย่างรู้คุณค่า ใน 4 พื้นที่หลักที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ได้แก่ จังหวัดน่าน เมืองปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมืองเชียงคาน จังหวัดเลย และเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เบื้องต้น ททท.ได้จัดทำคู่มือว่าสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ ก่อนเข้าไปในแหล่งท่องเที่ยว
ในส่วนของตลาดต่างประเทศ ชูแนวทางการส่งเสริมท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิดรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งจากข้อมูล พบว่า 2ใน3 ของนักท่องเที่ยวสหรัฐ และ 90% ของชาวอังกฤษ มีความสนใจสิ่งแวดล้อม สนับสนุนชุมชนท้องถิ่นให้มีส่วนรับผิดชอบโดยจัดที่พักที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ 70% ของนักท่องเที่ยวชาวสหรัฐ ออสเตรเลีย
สำหรับแผนรองรับกลุ่มตลาดผู้สูงอายุ อันเนื่องจากประชากรดังกล่าว กำลังเป็นชนกลุ่มใหญ่ในโลก คาดว่าปี 2563 หรืออีก 9 ปีจากนี้ จะมีผู้สูงอายุ 700 ล้านคน หรือ 15% ของจำนวนประชากรโลก และตั้งแต่ปี 2549-2569 จะมีผู้สูงอายุชาวอเมริกา 77 ล้านคนจะสู่วัยเกษียณ และมีการฉลองครบรอบ 60 ปี 8พันคนต่อวัน ขณะที่ญี่ปุ่น 8.5 พันคนต่อวัน ซึ่งททท. ต้องสร้างแรงจูงใจกลุ่มดังกล่าวมาเที่ยว
โดยไทยต้องตอบสนองเรื่องการพักผ่อน มีการบริการที่ดีมีคุณภาพ และเป็นผลดีต่อสุขภาพ นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ มีเงินเก็บและเงินจากรัฐสวัสดิการ จึงมีความพร้อในการจับจ่าย เพื่อการพักผ่อน หลังจากเกษียณงาน