ASTVผู้จัดการรายวัน-“บิ๊กน้อย” สุดต้าน “ระบอบแม้ว” จำใจออกหนังสือถึง “นายกฯปู” สมัครใจขอย้ายตัวเอง เปิดทาง “เพรียวพันธุ์” คุม สตช. หลังนำคณะหอบดอกไม้ยินดี"ยิ่งลักษณ์" แถมอ้าง “ไม่หวั่นกระแสโดนโยกย้าย” ด้านโฆษก ตร. ประหลาดใจยืนยัน "พล.ต.อ.วิเชียร" ยังไม่มีการทำหนังสือใด ๆ ถึง นายกฯปู เพื่อขอย้ายตัวเอง หรือลาออก “ยงยุทธ-มท.1”ยังจดๆจ้องๆจะล้างบางสิงห์น้ำเงินสายภูมิใจไทยหรือไม่
รายงานข่าวจากแหล่งข่าวระดับสูง แจ้งกับ “ ASTV ผู้จัดการรายวัน” ว่า ล่าสุด พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ทำหนังสือสมัครใจเสนอต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อขอย้ายตัวเองจากตำแหน่ง ผบ.ตร.ไปสู่ตำแหน่งอื่นที่เหมาะสมแล้ว โดยเชื่อว่าจะเป็นการเปิดทางให้แก่ พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร. อาวุโสลำดับที่ 1 ให้ขึ้นรับตำแหน่ง ผบ.ตร. หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่ามีการเสนอให้ พล.ต.อ.วิเชียรโยกไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)
ซึ่งการออกหนังสือสมัครใจของ พล.ต.อ.วิเชียรก็เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา 62 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ที่ว่า “การโอนข้าราชการตำรวจไปรับราชการในส่วนราชการหรือหน่วยงานอื่นจะกระทำได้ เมื่อเจ้าตัวสมัครใจและส่วนราชการหรือหน่วยงานต้องการจะรับโอนผู้นั้น โดนส่วนส่วนราชการหรือหน่วยงานที่ขอรับโอนทำความตกลงกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ”
**บิ๊กน้อยตบเท้าพบ“ยิ่งลักษณ์”
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 12.50น. พล.ต.อ.วิเชียร พร้อมข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เข้าพบน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ถนนเพชรบุรี ที่ห้องทำงานชั้น 8 ท่ามกลางกระแสข่าวลือสะพัดมาตลอดว่าอาจจะถูกปลดออกจากตำแหน่งหลังจากที่พรรคเพื่อไทยเข้ามาเป็นรัฐบาล ทั้งนี้ใช้เวลาเข้าพบและหารือประมาณ 20 นาที
จากนั้นเวลา 13.10 น.พล.ต.อ.วิเชียรให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบน.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า ที่ตนเดินทางมาพรรคเพื่อไทยในวันนี้นั้น เพราะต้องการนำผู้ช่วยผบ.ตร.และข้าราชการตำรวจเดินทางมาแสดงความยินดีกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรี สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวว่าอาจจะมีการโยกย้ายนั้น รู้สึกกังวลหรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า ตนทำตามหน้าที่และมีหน้าที่ต้องทำตามนโยบายของรัฐบาล เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าอาจจะมีการปลดผบ.ตร.นั้น พล.ต.อ.วิเชียรปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยกล่าวเพียงว่า ขอบคุณครับ ก่อนที่จะเดินขึ้นรถและออกเดินทางจากที่ทำการพรรคเพื่อไทยไป
ทั้งนี้ พล.ต.อ.วิเชียรถือเป็น ผบ.ตร.คนที่ 7 ของประเทศไทยที่ถูกแต่งตั้งในสมัยนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งก่อนหน้านั้นมี พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ นั่งเป็นตัวแทนรักษาการฯ นานนับปี
สำหรับ ประวัติ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ปัจจุบันอายุ 57 ปี เกิดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ.2496 เป็นชาวอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น จบการศึกษาโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 28 พ่วงด้วยปริญญาโทจาก 3 สถาบัน คือ ปริญญาโท คณะพัฒนบริหารศาสตร์ จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า), ปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และปริญญาโท ด้านกฎหมายเศรษฐกิจ คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นอกจากนี้ยังผ่านหลักสูตร F.B.I. รุ่น 159, หลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 388 และหลักสูตรบริหารงานตำรวจ จากประเทศอังกฤษอีกด้วย
ได้รับการติดยศ พล.ต.อ. ตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 ในตำแหน่งหัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ (นรป.) ซึ่งถือว่าครองยศ พล.ต.อ. ก่อนรอง ผบ.ตร. และผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่าคนอื่น ๆ ในขณะนี้ ต่อมา พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ถูกโยกมาดำรงตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. ฝ่ายความมั่นคง และรับผิดชอบงานด้านรักษาความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้ง (ศรส.ลต.ตร.) ตลอดจนงานดูแลความสงบในการชุมนุมทางการเมือง ซึ่ง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี สามารถโชว์ผลงานคุมเกมวันลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ.2550 ได้เด็ดขาดจนได้รับการยกย่อง
เมื่อต้นปี พ.ศ.2552 พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ได้ขยับเข้าสู่ตำแหน่งที่ปรึกษา(สบ10) ดูแลการเลือกตั้ง และการรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยาน ทั้งนี้ แม้จะดูงานด้านความมั่นคงและมีหลายครั้งที่ต้องควบคุมการชุมนุมทางการเมือง แต่ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ยังไม่มีประวัติเรื่องการวางตัวไม่เป็นกลาง หรือเข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เรียกได้ว่าขึ้นชื่อในเรื่องความเป็นกลางคนหนึ่ง จึงเป็นที่จับตามองว่า มีโอกาสที่จะได้ขึ้นเป็น ผบ.ตร คนต่อไป
นอกจากนี้ ในระหว่างดำรงตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ก็ได้รับความไว้วางใจให้นั่งรักษาการ ผบ.ตร. ถึง 2 ครั้ง 2 ครา ระหว่างที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร.โดนมรสุมการเมืองเล่นงาน
ด้านชีวิตครอบครัว พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี สมรสกับคุณกิ่งดาว พจน์โพธิ์ศรี มีบุตรชาย 2 คน และ บุตรสาว 2 คน คือ นางสาวชื่นสุข พจน์โพธิ์ศรี, เด็กหญิงพัชรเพ็ญ พจน์โพธิ์ศรี, เด็กชายธนชัย พจน์โพธิ์ศรี และ เด็กชายกมลพัฒน์ พจน์โพธิ์ศรี
ก่อนที่สุดท้าย จะตัดสินใจยื่นหนังสือ สมัครใจขอย้ายตัวเองในวันนี้
***ตร.ยันไม่จริง"วิเชียร"ลาออก!
วานนี้(11 ส.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร. กล่าวถึงกระแสข่าวที่พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ทำหนังสือสมัครใจลาออกจากตำแหน่ง เสนอต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อขอย้ายตัวเองจากตำแหน่ง ผบ.ตร.ไปสู่ตำแหน่งอื่นที่เหมาะสมเพื่อเปิดทางให้แก่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร. อาวุโสลำดับที่ 1 ให้ขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. แทนว่า รู้สึกประหลาดใจกับข่าวดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพล.ต.อ.วิเชียร ยังไม่มีการทำหนังสืออะไรเสนอนายกรัฐมนตรี ซึ่งพล.ต.อ.วิเชียร เองก็ยังไม่ทราบข่าวนี้ เนื่องจากช่วงเย็นมีภารกิจเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ที่สวนจิตรลดา เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
ส่วนการที่ ผบ.ตร. เข้าพบน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่พรรคเพื่อไทยเมื่อวานนี้ นั้น พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า พล.ต.อ.วิเชียร ได้เดินทางไปพบเป็นหมู่คณะหลายคน และพบเพียงประมาณ 5 นาทีเท่านั้นเนื่องจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องเดินทางไปภารกิจอื่นต่อ ซึ่งไม่ได้เป็นการพบกันส่วนตัว โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังกล่าวขอบคุณ พล.ต.อ.วิเชียร และคณะตำรวจที่มาแสดงความยินดี พร้อมพูดว่ายินดีที่ได้ร่วมงานกัน และมีจุดมุ่งหมายเดียวกันอยู่แล้ว คือ ความผาสุกและสงบสุขของสังคม ทั้งนี้นายสมชาย วงสวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ในห้องด้วยยัง กล่าวกับ พล.ต.อ.วิเชียร ว่า ไม่มีอะไรก็ขอให้ทำงานต่อไป เป็นกำลังใจให้
***"ยงยุทธ"จ้องล้างบางห้อย
ในช่วงสายที่กระทรวงมหาดไทย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ได้เข้ากระทรวงเป็นวันแรก โดยมีข้าราชการระดับสูงของมหาดไทยให้การต้อนรับ อาทิ นาย วิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิพาณิชย์
นายยงยุทธกล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยคือบ้านเข้ามาอยู่ตั้งแต่ พ.ศ.2509 จะไม่แถลงนโยบายทำงาน จนกว่ารัฐบาลจะแถลงนโยบายเสียก่อน ส่วนการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการของกระทรวงจากที่เคยเป็นข้าราชการ ก็เข้าใจความรู้สึกว่า ข้าราชการต้องทำตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งรัฐมนตรีทุกคนก็มีเหตุผลที่จะทำอะไรอย่างไร การแต่งตั้งโยกย้าย ต้องเอาใจเขาใส่ใจเรา เหตุผลที่ใครจะอยู่ที่เดิมหรือถูกสับเปลี่ยน ก็อยู่ที่ระบบคุณธรรม หลักการ การแต่งตั้งโยกย้ายมันต้องพิจารณาวงกว้าง กระทรวงมหาดไทยไม่มีภาพพจน์ที่เสียหาย ทุกอย่างจะใช้หลักการและเหตุผลมาพูดกัน งานเร่งด่วนคือการช่วยเหลือน้ำท่วม ที่รัฐธรรมนูญให้ดำเนินการได้ทันทีโดยไม่ต้องแถลงนโยบาย โดยในวันเสาร์นี้ จะลงพื้นที่ร่วมกับนางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเพื่อช่วยเหลือประชาชน
รายงานข่าวจากแหล่งข่าวระดับสูง แจ้งกับ “ ASTV ผู้จัดการรายวัน” ว่า ล่าสุด พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ทำหนังสือสมัครใจเสนอต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อขอย้ายตัวเองจากตำแหน่ง ผบ.ตร.ไปสู่ตำแหน่งอื่นที่เหมาะสมแล้ว โดยเชื่อว่าจะเป็นการเปิดทางให้แก่ พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร. อาวุโสลำดับที่ 1 ให้ขึ้นรับตำแหน่ง ผบ.ตร. หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่ามีการเสนอให้ พล.ต.อ.วิเชียรโยกไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)
ซึ่งการออกหนังสือสมัครใจของ พล.ต.อ.วิเชียรก็เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา 62 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ที่ว่า “การโอนข้าราชการตำรวจไปรับราชการในส่วนราชการหรือหน่วยงานอื่นจะกระทำได้ เมื่อเจ้าตัวสมัครใจและส่วนราชการหรือหน่วยงานต้องการจะรับโอนผู้นั้น โดนส่วนส่วนราชการหรือหน่วยงานที่ขอรับโอนทำความตกลงกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ”
**บิ๊กน้อยตบเท้าพบ“ยิ่งลักษณ์”
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 12.50น. พล.ต.อ.วิเชียร พร้อมข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เข้าพบน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ถนนเพชรบุรี ที่ห้องทำงานชั้น 8 ท่ามกลางกระแสข่าวลือสะพัดมาตลอดว่าอาจจะถูกปลดออกจากตำแหน่งหลังจากที่พรรคเพื่อไทยเข้ามาเป็นรัฐบาล ทั้งนี้ใช้เวลาเข้าพบและหารือประมาณ 20 นาที
จากนั้นเวลา 13.10 น.พล.ต.อ.วิเชียรให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบน.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า ที่ตนเดินทางมาพรรคเพื่อไทยในวันนี้นั้น เพราะต้องการนำผู้ช่วยผบ.ตร.และข้าราชการตำรวจเดินทางมาแสดงความยินดีกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรี สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวว่าอาจจะมีการโยกย้ายนั้น รู้สึกกังวลหรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า ตนทำตามหน้าที่และมีหน้าที่ต้องทำตามนโยบายของรัฐบาล เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าอาจจะมีการปลดผบ.ตร.นั้น พล.ต.อ.วิเชียรปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยกล่าวเพียงว่า ขอบคุณครับ ก่อนที่จะเดินขึ้นรถและออกเดินทางจากที่ทำการพรรคเพื่อไทยไป
ทั้งนี้ พล.ต.อ.วิเชียรถือเป็น ผบ.ตร.คนที่ 7 ของประเทศไทยที่ถูกแต่งตั้งในสมัยนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งก่อนหน้านั้นมี พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ นั่งเป็นตัวแทนรักษาการฯ นานนับปี
สำหรับ ประวัติ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ปัจจุบันอายุ 57 ปี เกิดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ.2496 เป็นชาวอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น จบการศึกษาโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 28 พ่วงด้วยปริญญาโทจาก 3 สถาบัน คือ ปริญญาโท คณะพัฒนบริหารศาสตร์ จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า), ปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และปริญญาโท ด้านกฎหมายเศรษฐกิจ คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นอกจากนี้ยังผ่านหลักสูตร F.B.I. รุ่น 159, หลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 388 และหลักสูตรบริหารงานตำรวจ จากประเทศอังกฤษอีกด้วย
ได้รับการติดยศ พล.ต.อ. ตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 ในตำแหน่งหัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ (นรป.) ซึ่งถือว่าครองยศ พล.ต.อ. ก่อนรอง ผบ.ตร. และผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่าคนอื่น ๆ ในขณะนี้ ต่อมา พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ถูกโยกมาดำรงตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. ฝ่ายความมั่นคง และรับผิดชอบงานด้านรักษาความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้ง (ศรส.ลต.ตร.) ตลอดจนงานดูแลความสงบในการชุมนุมทางการเมือง ซึ่ง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี สามารถโชว์ผลงานคุมเกมวันลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ.2550 ได้เด็ดขาดจนได้รับการยกย่อง
เมื่อต้นปี พ.ศ.2552 พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ได้ขยับเข้าสู่ตำแหน่งที่ปรึกษา(สบ10) ดูแลการเลือกตั้ง และการรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยาน ทั้งนี้ แม้จะดูงานด้านความมั่นคงและมีหลายครั้งที่ต้องควบคุมการชุมนุมทางการเมือง แต่ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ยังไม่มีประวัติเรื่องการวางตัวไม่เป็นกลาง หรือเข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เรียกได้ว่าขึ้นชื่อในเรื่องความเป็นกลางคนหนึ่ง จึงเป็นที่จับตามองว่า มีโอกาสที่จะได้ขึ้นเป็น ผบ.ตร คนต่อไป
นอกจากนี้ ในระหว่างดำรงตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ก็ได้รับความไว้วางใจให้นั่งรักษาการ ผบ.ตร. ถึง 2 ครั้ง 2 ครา ระหว่างที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร.โดนมรสุมการเมืองเล่นงาน
ด้านชีวิตครอบครัว พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี สมรสกับคุณกิ่งดาว พจน์โพธิ์ศรี มีบุตรชาย 2 คน และ บุตรสาว 2 คน คือ นางสาวชื่นสุข พจน์โพธิ์ศรี, เด็กหญิงพัชรเพ็ญ พจน์โพธิ์ศรี, เด็กชายธนชัย พจน์โพธิ์ศรี และ เด็กชายกมลพัฒน์ พจน์โพธิ์ศรี
ก่อนที่สุดท้าย จะตัดสินใจยื่นหนังสือ สมัครใจขอย้ายตัวเองในวันนี้
***ตร.ยันไม่จริง"วิเชียร"ลาออก!
วานนี้(11 ส.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร. กล่าวถึงกระแสข่าวที่พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ทำหนังสือสมัครใจลาออกจากตำแหน่ง เสนอต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อขอย้ายตัวเองจากตำแหน่ง ผบ.ตร.ไปสู่ตำแหน่งอื่นที่เหมาะสมเพื่อเปิดทางให้แก่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร. อาวุโสลำดับที่ 1 ให้ขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. แทนว่า รู้สึกประหลาดใจกับข่าวดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพล.ต.อ.วิเชียร ยังไม่มีการทำหนังสืออะไรเสนอนายกรัฐมนตรี ซึ่งพล.ต.อ.วิเชียร เองก็ยังไม่ทราบข่าวนี้ เนื่องจากช่วงเย็นมีภารกิจเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ที่สวนจิตรลดา เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
ส่วนการที่ ผบ.ตร. เข้าพบน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่พรรคเพื่อไทยเมื่อวานนี้ นั้น พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า พล.ต.อ.วิเชียร ได้เดินทางไปพบเป็นหมู่คณะหลายคน และพบเพียงประมาณ 5 นาทีเท่านั้นเนื่องจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องเดินทางไปภารกิจอื่นต่อ ซึ่งไม่ได้เป็นการพบกันส่วนตัว โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังกล่าวขอบคุณ พล.ต.อ.วิเชียร และคณะตำรวจที่มาแสดงความยินดี พร้อมพูดว่ายินดีที่ได้ร่วมงานกัน และมีจุดมุ่งหมายเดียวกันอยู่แล้ว คือ ความผาสุกและสงบสุขของสังคม ทั้งนี้นายสมชาย วงสวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ในห้องด้วยยัง กล่าวกับ พล.ต.อ.วิเชียร ว่า ไม่มีอะไรก็ขอให้ทำงานต่อไป เป็นกำลังใจให้
***"ยงยุทธ"จ้องล้างบางห้อย
ในช่วงสายที่กระทรวงมหาดไทย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ได้เข้ากระทรวงเป็นวันแรก โดยมีข้าราชการระดับสูงของมหาดไทยให้การต้อนรับ อาทิ นาย วิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิพาณิชย์
นายยงยุทธกล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยคือบ้านเข้ามาอยู่ตั้งแต่ พ.ศ.2509 จะไม่แถลงนโยบายทำงาน จนกว่ารัฐบาลจะแถลงนโยบายเสียก่อน ส่วนการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการของกระทรวงจากที่เคยเป็นข้าราชการ ก็เข้าใจความรู้สึกว่า ข้าราชการต้องทำตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งรัฐมนตรีทุกคนก็มีเหตุผลที่จะทำอะไรอย่างไร การแต่งตั้งโยกย้าย ต้องเอาใจเขาใส่ใจเรา เหตุผลที่ใครจะอยู่ที่เดิมหรือถูกสับเปลี่ยน ก็อยู่ที่ระบบคุณธรรม หลักการ การแต่งตั้งโยกย้ายมันต้องพิจารณาวงกว้าง กระทรวงมหาดไทยไม่มีภาพพจน์ที่เสียหาย ทุกอย่างจะใช้หลักการและเหตุผลมาพูดกัน งานเร่งด่วนคือการช่วยเหลือน้ำท่วม ที่รัฐธรรมนูญให้ดำเนินการได้ทันทีโดยไม่ต้องแถลงนโยบาย โดยในวันเสาร์นี้ จะลงพื้นที่ร่วมกับนางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเพื่อช่วยเหลือประชาชน