ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา ก็เป็นอันแน่ชัดแล้วว่า รัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ 1” มีรัฐมนตรีคนนอก 4 คน ที่จะมาร่วมรัฐบาล ส่วนจะยี้ไม่ยี้ ดีไม่ดี หรือมีเบื้องหน้าเบื้องหลังเป็นมาอย่างไร เราไปพิจารณา ฯพณฯ กันทีละคน....
เริ่มจาก "ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล" รมว.คลัง คนนี้เป็นอดีตเลขาธิการคณะกรรมการสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่เพิ่งลาออกจากตำแหน่งหมาดๆ เพื่อมาเป็นรัฐมนตรีในกระทรวงการคลัง ที่เดิมมีข่าวจะได้แค่ รมช.คลังแต่ตอนนี้กลับได้เป็นถึง รมว.คลัง
รายนี้แค่เห็นหน้าก็มีเงาระบอบทักษิณอยู่ข้างหลังแล้ว เนื่องจากหากย้อนดูหลายต่อหลายกรณีไล่ตั้งแต่สมัยคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) สอบเรื่องหุ้นชินคอร์ปจนนำไปสู่การตัดสินยึดทรัพย์ทักษิณ 4.6 หมื่นล้าน
พบว่า คตส. เรียกธีระชัยไปสอบหลายชั่วโมง แต่ธีระชัยไม่ให้ความร่วมมืออะไรเลยในการให้ข้อมูลเรื่องการซุกหุ้นขายหุ้นของทักษิณและคนในครอบครัวซึ่งก็มี “ยิ่งลักษณ์” ที่เป็นนอมินีถือหุ้นชินคอร์ป 20 ล้านหุ้นให้ทักษิณรวมอยู่ด้วย
ทั้งนี้ ล่าสุด สดๆ ร้อน ๆ ก็คือ การออกมาปกป้องยิ่งลักษณ์ ในข้อกล่าวหาเรื่องมีส่วนร่วมในการซุกหุ้นชินคอร์ป และคดีเอสซี แอสเซท ที่กลุ่มเครือข่ายพลเมืองคัดค้านนิรโทษกรรมคอร์รัปชันทักษิณ (คนท.) ไปเรียกร้องให้ ก.ล.ต. เอาผิดยิ่งลักษณ์ตามคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ฯ ซึ่งบทสรุปเรื่องนี้ ก.ล.ต.ออกแถลงการณ์อุ้มยิ่งลักษณ์เต็มสูบในช่วงเลือกตั้งว่า “ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะคดีสิ้นสุดแล้ว” ซึ่งตอนนั้นก็มีการคาดการณ์กันไว้แล้วว่า หากเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง ธีระชัยต้องมีตำแหน่งในรัฐบาลยิ่งลักษณ์แน่นอน แล้วก็เป็นจริง!
อย่างไรก็ตาม ก่อนได้รับตำแหน่ง "รมว.คลัง" เคยตอบโต้กับ "กรณ์ จาติกวณิช" อดีตรมว.คลัง เกี่ยวกับกรณีนายกรณ์ระบุว่าเคยมีจดหมายถึง ก.ล.ต. คดีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกกล่าวหาว่าให้การเท็จ และให้ข้อมูลเท็จแก่ ก.ล.ต. กรณีการถือครองหุ้นครอบครัวชินวัตร-เอสซีฯ และตอบโต้ "กรณ์" ที่เขียนเฟซบุ๊กกล่าวหาว่า อาจได้รับตำแหน่ง รมว.คลัง ในรัฐบาล "ยิ่งลักษณ์ 1" เพราะทำงานรับใช้การเมือง จนได้รับตำแหน่ง
ทั้งนี้ "ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล" รมว.คลัง คนนี้เป็นรัฐมนตรีคนนอก โควตากลาง ของนายใหญ่แห่งดูไบ ซึ่งใครหน้าไหนก็ไม่กล้าคัดค้าน!
ส่วนคน ก.ล.ต. อีกคนที่มีตำแหน่งในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ 1 ก็คือ “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ “เสี่ยโต้ง” หรือ “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” คนนี้เป็นอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยชินวัตร และอดีตผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เจ้าของวลีเด็ด “ติ๊กผิด” คำนี้เกิดขึ้นตอนที่มีการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปของ นายพานทองแท้และน.ส.พินทองทา ชินวัตร ให้กับเทมาเส็กเมื่อปี 2549 ที่มีการตรวจสอบพบว่าทั้งสองคนแจ้งข้อมูลการซื้อขายหุ้นต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ตรงกับความเป็นจริง หลังมีข่าวตอนแรก กิตติรัตน์ ออกมาการันตีว่า ตรวจสอบแล้วไม่พบการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปผิดปกติ แต่ต่อมาพบหลักฐานชัดว่า การขายหุ้นชินคอร์ปในส่วนของแอมเพิลริช มีการแจ้งไม่ตรงกับความจริง กิตติรัตน์เลยอ้างว่าเหตุที่ผิดพลาดนั้นเป็นเพราะ “ติ๊กผิด”
"กิตติรัตน์ ณ ระนอง" ที่ควบทั้งรองนายกรัฐมนตรี รมว.พาณิชย์ และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ คนนี้เป็นรัฐมนตรีคนนอก โควตากลาง ของนายหญิง-จอมนางแห่งบ้านจันทร์ส่องหล้า ที่ใครก็มิกล้าปฏิเสธ!
"สุกำพล สุวรรณทัต" รมว.คมนาคม เป็นบุคคลที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในขณะที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่นั้น ได้วางตัวจะให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารอากาศ ด้วยเหตุว่าเป็นเพื่อนนักเรียนร่วมรุ่นโรงเรียนเตรียมทหารด้วยกันมา แต่ทว่าหลังเหตุการณ์รัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ.2549 แล้ว ได้มีการปรับเปลี่ยนสายการบังคับบัญชาในกองทัพใหม่ ทำให้ทางนายทหารรุ่นเตรียมทหาร 10 หลายคนต้องหลุดจากตำแหน่งคุมกำลังพล ในส่วนของ พล.อ.อ.สุกำพล ก็ได้รับการปรับเปลี่ยนให้เป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพอากาศ ในปี พ.ศ.2550 [2] และปรับเปลี่ยนเป็นจเรทหารทั่วไป ในปี พ.ศ.2551
อีกหนึ่งมหกรรม “ตอบแทน” ที่มีชื่อมาโผล่เอาในช่วงสุดท้าย ก็คือ “พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต” รมว.คมนาคม อดีตจเรทหารทั่วไป เพื่อนร่วมรุ่นเตรียม 10 กับทักษิณ ที่ “ส้มหล่น” ใส่หัวจนได้เป็น รมว.คมนาคม
ทั้งนี้ จะว่าเป็นส้มหล่นก็ไม่ใช่ซะทีเดียว เพราะมันน่าจะเป็นการ “ตอบแทน” กันมากกว่า เพราะว่า พล.อ.อ.สุกำพล หรือ “บิ๊กโอ๋” คนนี้ ทักษิณ เคยวางตัวไว้ให้เป็นผู้บัญชาการทหารอากาศ ต่อจาก พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุก ทว่า “บิ๊กโอ๋” ไปไม่ถึงฝัน เพราะทักษิณโดน คมช. ทำรัฐประหารเสียก่อน
พล.อ.อ.สุกำพล อดีต ผช.ผบ.ทอ.และเสนาธิการทหารอากาศ ต้องชอกช้ำ กระเด็นจาก 5 เสือทัพฟ้าไปเข้ากรุเป็นที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และจเรทหารทั่วไป เหลือเดือนหน้าก็จะเกษียณอายุแล้ว แต่ชะตากรรมของ “บิ๊กโอ๋” ทำให้ “ทักษิณ” เห็นใจเพื่อนรักทัพฟ้าคนนี้มาก เมื่อมีโอกาสเลย “จัดให้” เพื่อนรักเป็น รมว.คมนาคม ซะเลย เพื่อเป็นการปลอบใจเพื่อนรักหลังเกษียณ อีกทั้งยังไว้ใจได้ สั่งได้ คุยรู้เรื่อง มีหรือทักษิณจะไม่หนุน
อย่างไรก็ตาม สำหรับ พล.อ.อ.สุกำพลคนนี้ ชาวพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จดจำกันได้ดี เพราะเมื่อหลายปีที่แล้วเขาถูกพันธมิตรฯ ออกมาเปิดเผยพร้อมเอกสารทางราชการว่า กองทัพอากาศได้นำเครื่องบินซี 130 ของกองทัพอากาศไปรับแขกของนาง มณฑาทิพย์ โกวิทเจริญกุล ชินวัตร น้องสาวทักษิณ พี่สาวยิ่งลักษณ์ เพื่อขนคนไปร่วมงานวันเกิดและขึ้นบ้านใหม่ของมณฑาทิพย์ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 14 พ.ย.2548
ข้อมูลที่พันธมิตรฯ นำมาเปิดเผยตอนนั้น สร้างแรงสั่นสะเทือนทางการเมืองและทางกองทัพอย่างมาก กับการเอาเครื่องบินซี 130 ของราชการไปอำนวยความสะดวกให้แขกของนางมณฑาทิพย์ น้องสาวทักษิณที่เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งตอนนั้น พล.อ.อ.สุกำพล เป็นเสนาธิการทหารอากาศ จึงปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ และสิ่งที่สังคมวิจารณ์กันหนักก็คือ หากบิ๊กทัพฟ้าอย่าง “พล.อ.อ.สุกำพล” ไม่ใช่เพื่อน ตท.10 กับ “ทักษิณ” และไม่ใช่เพื่อนร่วมรุ่น วปอ.กับ “มณฑาทิพย์” หรือ “พี่แป๊ว” ของน้อง “ปู” แล้ว เครื่องบินซี 130 ของ ทอ. จะถูกนำมาใช้เพื่อภารกิจแบบนี้ได้อย่างไร !?
ทั้งนี้ “พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต” เป็นรัฐมนตรีคนนอก โควตากลาง ของนายใหญ่แห่งดูไบ ที่ใครเลยจะกล้า ไม่เห็นด้วย!
และสุดท้ายก็มาถึง “พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ" รองนายกรัฐมนตรี รายนี้ก็เป็นอีกคนที่ชื่อมาโผล่เอาในช่วงสุดท้าย ทั้งนี้ พล.ต.อ.โกวิท เคยนั่งรองนายกรัฐมนตรี ควบ รมว.มหาดไทย สมัยรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช และนั่ง รมว.มหาดไทย สมัยรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เมื่อปี 2547 "พล.ต.อ.โกวิท" ได้ขึ้นเป็น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร เหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 พล.ต.อ.โกวิท เป็นสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ท่ามกลางกระแส "ความไม่เต็มใจ" ต่อการทำรัฐประหาร
ต่อมา พล.ต.อ.โกวิท ได้รับคำสั่งไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรีสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2550 หลังจากไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีเหตุระเบิดในกรุงเทพมหานคร โดยให้ไปนั่งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ ระดับ 11 และแต่งตั้ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ "พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ" เป็นรัฐมนตรีคนนอก โควตากลาง ของนายหญิงแห่งบ้านจันทร์ส่องหล้า ที่หลายคนรู้ว่า "พล.ต.อ.โกวิท” ใกล้ชิดกับบ้านหลังนี้เพียงใด
และการที่ทั้ง “ธีระชัย กิตติรัตน์ สุกำพล และโกวิท” มาเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลยิ่งลักษณ์พร้อมกัน มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ไม่ง่ายนัก ถ้าไม่ใช่เพราะเกิดจากการ “จัดให้” ตอบแทนคนที่เคย “รับใช้” กัน, มันก็เท่านั้นเอง!
