ASTVผู้จัดการรายวัน - ส.นายหน้าอสังหาฯ ห่วงการทำธุรกิจซื้อ-ขายบ้านมือสองเข้าข่ายร่วมทำผิด พ.ร.บ.ฟอกเงิน เตือนนายหน้าทั้งนิติบุคคลและนายหน้า อิสระตื่นตัวรับ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฉบับใหม่ ชี้หากไม่ปฏิบัติตามบทลงโทษปรับ 5 แสนบาท
นายแพทย์ สมศักดิ์ มุนีพีระกุล นายกสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า หลังจากที่ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปราม การฟอกเงินฉบับใหม่ที่จะประกาศใช้ในวันที่ 25 สิงหาคม 2554 นี้ ทำให้ธุรกิจที่เข้าข่าย 9 ประเภทที่อาจมีส่วนทำให้เกิดการฟอกเงินต้องถูกตรวจสอบจากภาครัฐอย่างเข้มงวด รวมทั้งธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องเกี่ยวข้อง กับธุรกรรมการซื้อ-ขายบ้านมือสองที่ต้องใช้เงินสดตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้น ซึ่งกฎหมายได้บังคับให้นายหน้าต้องทำหน้าที่รายงานการทำธุรกรรมดังกล่าวต่อสำนักงานป้องกันและปราบปราบ การฟอกเงิน (ปปง.) ไม่ว่าราคาอสังหา- ริมทรัพย์จะมีมูลค่าเท่าใดก็ตาม หากมีการวางมัดจำหรือซื้อด้วยเงินสดตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไปจะต้องรายงานต่อ ปปง. ภายในเดือนถัดไป นอกจากนี้แล้ว การทำธุรกรรมซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภทที่เข้าข่ายน่าสงสัย เช่น ผู้ซื้อที่มีอาชีพและรายได้ไม่มั่นคง แต่สามารถซื้อบ้านได้ในมูลค่าแพงๆ หรือลูกค้าที่หิ้วเงินมาซื้อบ้านจำนวนมากๆ ก็จะต้องรายงานต่อ ปปง.ภายใน 7 วัน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าที่ผ่านมาการทำธุรกกรรมซื้อ-ขายที่ต้องเกี่ยวข้องกับเงินสดจำนวน 2 ล้านบาทไม่ค่อยมีมากนัก แต่การทำธุรกรรมที่ราคาต่ำกว่านี้ก็อาจเกี่ยวข้องกับผู้ร้ายฟอกเงิน ดังนั้น นายหน้าจะต้องเก็บข้อมูลและเอกสารการทำธุรกรรมการซื้อ-ขายต่างๆ ไว้ถึง 5 ปี เพื่อสามารถตรวจสอบและเป็นหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเองในกรณีที่การทำธุรกิจดังกล่าวเข้าไปเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน
'สิ่งที่เป็นกังวลอยู่ในขณะนี้ก็คือ นายหน้าส่วนใหญ่ไม่มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าว ซึ่งจะทำให้นายหน้าไม่ทราบว่าต้องรายงานการทำธุรกรรมต่อ ปปง.ภายในกำหนดของเวลา และต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย กล่าวคือ ต้องถูกปรับเป็นเงินสดมูลค่า 5 แสนบาท รวมทั้งถูกปรับเพิ่มเติมอีกวันละ 5,000 บาท จนกว่าจะสามารถรวบรวมเอกสารต่างๆ เพื่อรายงานได้ครบถ้วน นอกจากทำให้ นายหน้าเดือดร้อนแล้ว มีโอกาสเข้าข่ายร่วมมือหรือสมรู้ร่วมคิดในการฟอกเงิน'
ด้านนางดรุณี รุ่งเรืองผล กรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีทั้งนายหน้าในรูปแบบนิติบุคคลและนายหน้าอิสระจำนวนหลายแสนคน เชื่อว่าหลังจากที่กฎหมาย ป้องกันการฟอกเงินฉบับใหม่ถูกประกาศใช้ จะทำให้นายหน้าเหล่านี้ มีความเสี่ยงในการประกอบอาชีพ สมาคมนายหน้าฯ จึงได้ร่วมมือกับ สำนักงานป้องกันและปราบปราม การฟอกเงิน (ปปง.) จัดสัมมนาเรื่อง 'นายหน้าอสังหาฯ กับการปฏิบัติตามกฎหมายการฟอกเงิน' ขึ้นในวันที่ 27 ส.ค.54 เวลา 13.00-17.00 น. ณ ห้องประชุมใหญ่ บริษัท บริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) ถนนสุรศักดิ์ ฟรี
นายแพทย์ สมศักดิ์ มุนีพีระกุล นายกสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า หลังจากที่ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปราม การฟอกเงินฉบับใหม่ที่จะประกาศใช้ในวันที่ 25 สิงหาคม 2554 นี้ ทำให้ธุรกิจที่เข้าข่าย 9 ประเภทที่อาจมีส่วนทำให้เกิดการฟอกเงินต้องถูกตรวจสอบจากภาครัฐอย่างเข้มงวด รวมทั้งธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องเกี่ยวข้อง กับธุรกรรมการซื้อ-ขายบ้านมือสองที่ต้องใช้เงินสดตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้น ซึ่งกฎหมายได้บังคับให้นายหน้าต้องทำหน้าที่รายงานการทำธุรกรรมดังกล่าวต่อสำนักงานป้องกันและปราบปราบ การฟอกเงิน (ปปง.) ไม่ว่าราคาอสังหา- ริมทรัพย์จะมีมูลค่าเท่าใดก็ตาม หากมีการวางมัดจำหรือซื้อด้วยเงินสดตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไปจะต้องรายงานต่อ ปปง. ภายในเดือนถัดไป นอกจากนี้แล้ว การทำธุรกรรมซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภทที่เข้าข่ายน่าสงสัย เช่น ผู้ซื้อที่มีอาชีพและรายได้ไม่มั่นคง แต่สามารถซื้อบ้านได้ในมูลค่าแพงๆ หรือลูกค้าที่หิ้วเงินมาซื้อบ้านจำนวนมากๆ ก็จะต้องรายงานต่อ ปปง.ภายใน 7 วัน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าที่ผ่านมาการทำธุรกกรรมซื้อ-ขายที่ต้องเกี่ยวข้องกับเงินสดจำนวน 2 ล้านบาทไม่ค่อยมีมากนัก แต่การทำธุรกรรมที่ราคาต่ำกว่านี้ก็อาจเกี่ยวข้องกับผู้ร้ายฟอกเงิน ดังนั้น นายหน้าจะต้องเก็บข้อมูลและเอกสารการทำธุรกรรมการซื้อ-ขายต่างๆ ไว้ถึง 5 ปี เพื่อสามารถตรวจสอบและเป็นหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเองในกรณีที่การทำธุรกิจดังกล่าวเข้าไปเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน
'สิ่งที่เป็นกังวลอยู่ในขณะนี้ก็คือ นายหน้าส่วนใหญ่ไม่มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าว ซึ่งจะทำให้นายหน้าไม่ทราบว่าต้องรายงานการทำธุรกรรมต่อ ปปง.ภายในกำหนดของเวลา และต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย กล่าวคือ ต้องถูกปรับเป็นเงินสดมูลค่า 5 แสนบาท รวมทั้งถูกปรับเพิ่มเติมอีกวันละ 5,000 บาท จนกว่าจะสามารถรวบรวมเอกสารต่างๆ เพื่อรายงานได้ครบถ้วน นอกจากทำให้ นายหน้าเดือดร้อนแล้ว มีโอกาสเข้าข่ายร่วมมือหรือสมรู้ร่วมคิดในการฟอกเงิน'
ด้านนางดรุณี รุ่งเรืองผล กรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีทั้งนายหน้าในรูปแบบนิติบุคคลและนายหน้าอิสระจำนวนหลายแสนคน เชื่อว่าหลังจากที่กฎหมาย ป้องกันการฟอกเงินฉบับใหม่ถูกประกาศใช้ จะทำให้นายหน้าเหล่านี้ มีความเสี่ยงในการประกอบอาชีพ สมาคมนายหน้าฯ จึงได้ร่วมมือกับ สำนักงานป้องกันและปราบปราม การฟอกเงิน (ปปง.) จัดสัมมนาเรื่อง 'นายหน้าอสังหาฯ กับการปฏิบัติตามกฎหมายการฟอกเงิน' ขึ้นในวันที่ 27 ส.ค.54 เวลา 13.00-17.00 น. ณ ห้องประชุมใหญ่ บริษัท บริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) ถนนสุรศักดิ์ ฟรี