ศูนย์ข่าวภูมิภาค-"ในหลวง-พระราชินี"ทรงห่วงใยพสกนิกรผู้ประสบอุทกภัย พระราชทานถุงยังชีพช่วยเหยื่อน้ำท่วมที่พิจิตร ส่วนเมืองสุโขทัย ยังวิกฤตหนัก น้ำทะลักท่วมไม่หยุด ชาวบ้านสังเวยเพิ่มอีก 2 ศพ ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอนสั่งด่วน อพยพราษฎรบ้านห้วยโผ 70 ครอบครัว หลังพบยอดภูเขามีรอยแยกกว่า 10 จุด หวั่นเกิดดินถล่มได้ ภาคอีสานน้ำโขงเริ่มพ่นพิษทะลักท่วมหลายพื้นที่ ปภ.เตือน 21 จังหวัดเหนือ อีสาน รับมือน้ำท่วมฉับพลัน
วานนี้ (9 ส.ค.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โปรดเกล้าให้ตำรวจตะเวนชายแดนที่ 31 ค่ายพระยาจักรี จังหวัดพิษณุโลก นำถุงยังชีพพระราชทานจำนวน 90 ชุด แจกจ่ายช่วยเหลือราษฎรที่ประสพอุทกภัยน้ำท่วม ที่บริเวณหมู่ที่ 7 บ้านเนินยุ้ง ตำบลรักนก อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร โดยมีพ.ท.ปรีชา สุนทร ผบ.หน่วยกองร้อยที่ 312 นำสิ่งของพระราชทานมอบให้กับราษฎร จำนวน 90 ครอบครัว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ราษฎรที่กำลังประสบอุทกภัยน้ำท่วม สร้างความปิติยินดีแก่พสกนิกรชาวไทยที่พระองค์ทรงห่วงใยราษฎร
สำหรับราษฎรในพื้นที่บ้านเนินยุ้งมีประชากรทั้งสิ้น 130 คน จำนวน 90 ครอบครัว ประสพอุทกภัยจากพายุนกเตน น้ำป่าที่ไหลมาจากจังหวัดกำแพงเพชร และแม่น้ำยมล้นตลิ่ง ไหลเข้าท่วม โดยถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เนื่องจากน้ำท่วมถนนเข้าออกหมู่บ้าน รถไม่สามารถสัญจรได้ ประชาชนต้องใช้เรือเข้าออกในหมู่บ้านเป็นระยะทาง 3 กิโลเมตร
วันเดียวกัน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงโปรดให้ศาสตราจารย์กิติคุณ นายแพทย์ดำรง เหรียญประยูร รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เป็นผู้แทนพระองค์ ฯ มอบถุงยังชีพพระราชทานราษฏรผู้ประสบปัญหาอุทกภัย
โดยเวลา 09.30 น.ที่วัดปากน้ำ ต.ปากน้ำ อ.สวรรคโลก ผู้แทนพระองค์ฯ ถวายถุงยังชีพพระราชทานแด่พระภิกษุสงฆ์จำนวน 13 ชุด และมอบถุงยังชีพพระราชทานแก่ราษฏรจำนวน 500 ชุด จากนั้นผู้แทนพระองค์ฯ เดินทางไปยังวัดบางคลอง ต.ปากแคว อ.เมือง ถวายถุงยังชีพพระราชทานแด่พระภิกษุสงฆ์จำนวน 10 ชุด และมอบถุงยังชีพพระราชทานแก่ราษฏรจำนวน 200 ชุด รวมทั้งมอบเงินช่วยเหลือแก่บุตรสาวทายาทผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยในพื้นที่อำเภอเมือง คือ นายหมด รักถึง ชายชราวัย 76 ปี ราษฏร ต.บ้านกล้วย อ.เมือง จำนวนเงิน 10,000 บาท จากนั้นเดินทางต่อไปยังวัดปากแคว ต.ปากแคว อ.เมือง ถวายถุงยังชีพพระราชทานแด่ พระภิกษุสงฆ์จำนวน 36 ชุด และประกอบอาหารเลี้ยงราษฏรจำนวน 500 ชุด
**สุโขทัยยังอ่วม!สังเวยเพิ่มอีก 2ศพ
ด้านสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สุโขทัย ยังไม่คลี่คลาย โดยเฉพาะระดับน้ำที่ไหลบ่าจากอ่างเก็บน้ำโครงการแก้มลิงทุ่งทะเลหลวงที่เกินจุดกักเก็บจนล้นสปิลเวย์ ยังสร้างปัญหาให้กับพื้นที่ฝั่งตะวันตกของ อ.เมืองสุโขทัย โดยเฉพาะพื้นที่เทศบาลเมืองบางส่วนและพื้นที่ ต.บ้านกล้วย ระดับน้ำยังคงท่วมสูงในหลายหมู่บ้าน ล่าสุดมีคนเสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย คือ นายหมด รักถึง อายุ 76 ปี เสียชีวิตเมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังจากพายเรือออกไปดักข่ายหาปลาบริเวณทุ่งนาพื้นที่น้ำท่วมในหมู่ 2 ต.บ้านกล้วย และกระแสน้ำไหลแรงซัดเรือพลิกคว่ำจนนายหมด จมน้ำ ส่วนอีกศพ คือ นายแจ่ม อาสารม อายุ 35 ปี เสียชีวิตขณะที่นำเรือพายจะเข้าไปรับพระจากวัดป่าทอง ต.ในเมือง อ.สวรรคโลก ได้ถูกกระแสน้ำที่ไหลแรงและเกิดภาวะกระแสน้ำวนทำให้น้ำดูดเรือหมุนจนพลิกคว่ำ นายแจ่ม พลัดหล่นจากเรือจมน้ำเสียชีวิต รวมในพื้นที่ จ.สุโขทัย มีผู้เสียชีวิตจากภาวะน้ำท่วมรวมเป็น 4 รายแล้ว
**แม่ฮ่องสอนสั่งอพยพชาวบ้านห้วยโผ
ขณะที่นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ได้สั่งการให้นายอำเภอแม่สะเรียง ทำการอพยพราษฎรบ้านห้วยโผ หมู่ที่ 6 ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จำนวน 70 ครอบครัวไปอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัยแล้ว หลังพบว่าบริเวณยอดภูเขาสูงมีรอยแยกของภูเขามากกว่า 10 จุด เป็นเพราะอิทธิพลพายุนกเตน และเกรงว่าหากมีฝนตกลงมาซ้ำอีกจะทำให้เกิดดินถล่มลงมาทับบ้านเรือนราษฎรดังกล่าวได้ และได้สั่งการให้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแม่ฮ่องสอน เข้าไปสำรวจบริเวณที่มีรอยแยกของภูเขาสูงดังกล่าวแล้ว
**ชาวสามง่ามโวยเทศบาลไม่เหลียวแล
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ขณะนี้ชาวบ้านหลายพื้นที่ยังได้รับความเดือดร้อนจากภาวะน้ำในแม่น้ำยมเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่เกษตรอย่างต่อเนื่อง โดยในพื้นที่ชุมชนบ้านรายชะโด หมู่ที่ 6 ต.สามง่าม อ.สามง่าม ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ติดแม่น้ำยม ถูกน้ำไหลบ่าเข้าท่วมทั้งชุมชน ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักและยังพบปัญหากระสอบทรายไม่เพียงพอที่จะนำมาวางทำเป็นแนวกั้นน้ำด้วย
**น้ำโขงท่วมบ้านเรือนในเขตโขงเจียมแล้ว
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมทางภาคอีสานหลายจังหวัดยังได้รับผลกระทบต่อเนื่อง โดยที่ จ.อุบลราชธานี แม่น้ำโขงได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนราษฏรในเขตพื้นที่ อ.โขงเจียม แล้ว โดยเฉพาะหมู่บ้านดงบั้งไฟ และบ้านดงบาก ต.หนองแสงใหญ่ อ.โขงเจียม ทำให้ราษฏรอย่างน้อยประมาณ 240 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน ไม่สามารถเดินทางเข้าออกหมู่บ้านได้ เนื่องจากระดับน้ำท่วมสูงถึง 2 เมตร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้งดจ่ายกระแสไฟฟ้าเพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร โรงเรียนทั้ง 2 หมู่บ้านได้สั่งปิดการเรียนการสอนแล้ว
**น้ำโขงจ่อทะลักชั้นใต้ดินตลาดอินโดจีน
ส่วนที่ จ.มุกดาหาร นายชาญวิทย์ วสยางกรู ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้สั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดมุกดาหารและเทศบาลเมืองมุกดาหาร นำกระสอบทรายทำผนังกั้นน้ำโขงทะลักชั้นใต้ดินตลาดอินโดจีนเพื่อช่วยเหลือผู้ขายสินค้าบริเวณชั้นใต้ดินตลาดอินโดจีนกว่า 90 ราย และซักซ้อมทำความเข้าใจในการขนย้ายสิ่งของที่ชั้นใต้ดินตลาดอินโดจีนขึ้นสู่ที่ขึ้นเพื่อป้องกันน้ำท่วม โดยมีนายอดุลย์ ศิริมันต์ ป้องกันและบรรเทาและบรรเทาสาธารณะภัยเทศบาลเมืองมุกดาหาร จัดระเบียบการขนย้ายและสถานที่ที่จะรองรับผู้ค้าทั้งหมด โดยได้จัดเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย,อพปร,เทศกิจ,ชุดกู้ภัยทางน้ำ ปภ.กว่า 100 นาย พร้อมจัดเตรียมถุงทรายจัดวางตามแนวป้องกันน้ำล้นทะลักเข้ามา ซึ่งทางผู้ค้าให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
**เตือน21จว.เหนือ-อีสานน้ำท่วมฉับพลัน
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กล่าวว่า ขอเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่มใน 21 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ เลย หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร อุดรธานี และมุกดาหาร เตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินถล่มในระหว่างวันที่ 9 -11 ส.ค.
วานนี้ (9 ส.ค.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โปรดเกล้าให้ตำรวจตะเวนชายแดนที่ 31 ค่ายพระยาจักรี จังหวัดพิษณุโลก นำถุงยังชีพพระราชทานจำนวน 90 ชุด แจกจ่ายช่วยเหลือราษฎรที่ประสพอุทกภัยน้ำท่วม ที่บริเวณหมู่ที่ 7 บ้านเนินยุ้ง ตำบลรักนก อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร โดยมีพ.ท.ปรีชา สุนทร ผบ.หน่วยกองร้อยที่ 312 นำสิ่งของพระราชทานมอบให้กับราษฎร จำนวน 90 ครอบครัว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ราษฎรที่กำลังประสบอุทกภัยน้ำท่วม สร้างความปิติยินดีแก่พสกนิกรชาวไทยที่พระองค์ทรงห่วงใยราษฎร
สำหรับราษฎรในพื้นที่บ้านเนินยุ้งมีประชากรทั้งสิ้น 130 คน จำนวน 90 ครอบครัว ประสพอุทกภัยจากพายุนกเตน น้ำป่าที่ไหลมาจากจังหวัดกำแพงเพชร และแม่น้ำยมล้นตลิ่ง ไหลเข้าท่วม โดยถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เนื่องจากน้ำท่วมถนนเข้าออกหมู่บ้าน รถไม่สามารถสัญจรได้ ประชาชนต้องใช้เรือเข้าออกในหมู่บ้านเป็นระยะทาง 3 กิโลเมตร
วันเดียวกัน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงโปรดให้ศาสตราจารย์กิติคุณ นายแพทย์ดำรง เหรียญประยูร รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เป็นผู้แทนพระองค์ ฯ มอบถุงยังชีพพระราชทานราษฏรผู้ประสบปัญหาอุทกภัย
โดยเวลา 09.30 น.ที่วัดปากน้ำ ต.ปากน้ำ อ.สวรรคโลก ผู้แทนพระองค์ฯ ถวายถุงยังชีพพระราชทานแด่พระภิกษุสงฆ์จำนวน 13 ชุด และมอบถุงยังชีพพระราชทานแก่ราษฏรจำนวน 500 ชุด จากนั้นผู้แทนพระองค์ฯ เดินทางไปยังวัดบางคลอง ต.ปากแคว อ.เมือง ถวายถุงยังชีพพระราชทานแด่พระภิกษุสงฆ์จำนวน 10 ชุด และมอบถุงยังชีพพระราชทานแก่ราษฏรจำนวน 200 ชุด รวมทั้งมอบเงินช่วยเหลือแก่บุตรสาวทายาทผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยในพื้นที่อำเภอเมือง คือ นายหมด รักถึง ชายชราวัย 76 ปี ราษฏร ต.บ้านกล้วย อ.เมือง จำนวนเงิน 10,000 บาท จากนั้นเดินทางต่อไปยังวัดปากแคว ต.ปากแคว อ.เมือง ถวายถุงยังชีพพระราชทานแด่ พระภิกษุสงฆ์จำนวน 36 ชุด และประกอบอาหารเลี้ยงราษฏรจำนวน 500 ชุด
**สุโขทัยยังอ่วม!สังเวยเพิ่มอีก 2ศพ
ด้านสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สุโขทัย ยังไม่คลี่คลาย โดยเฉพาะระดับน้ำที่ไหลบ่าจากอ่างเก็บน้ำโครงการแก้มลิงทุ่งทะเลหลวงที่เกินจุดกักเก็บจนล้นสปิลเวย์ ยังสร้างปัญหาให้กับพื้นที่ฝั่งตะวันตกของ อ.เมืองสุโขทัย โดยเฉพาะพื้นที่เทศบาลเมืองบางส่วนและพื้นที่ ต.บ้านกล้วย ระดับน้ำยังคงท่วมสูงในหลายหมู่บ้าน ล่าสุดมีคนเสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย คือ นายหมด รักถึง อายุ 76 ปี เสียชีวิตเมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังจากพายเรือออกไปดักข่ายหาปลาบริเวณทุ่งนาพื้นที่น้ำท่วมในหมู่ 2 ต.บ้านกล้วย และกระแสน้ำไหลแรงซัดเรือพลิกคว่ำจนนายหมด จมน้ำ ส่วนอีกศพ คือ นายแจ่ม อาสารม อายุ 35 ปี เสียชีวิตขณะที่นำเรือพายจะเข้าไปรับพระจากวัดป่าทอง ต.ในเมือง อ.สวรรคโลก ได้ถูกกระแสน้ำที่ไหลแรงและเกิดภาวะกระแสน้ำวนทำให้น้ำดูดเรือหมุนจนพลิกคว่ำ นายแจ่ม พลัดหล่นจากเรือจมน้ำเสียชีวิต รวมในพื้นที่ จ.สุโขทัย มีผู้เสียชีวิตจากภาวะน้ำท่วมรวมเป็น 4 รายแล้ว
**แม่ฮ่องสอนสั่งอพยพชาวบ้านห้วยโผ
ขณะที่นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ได้สั่งการให้นายอำเภอแม่สะเรียง ทำการอพยพราษฎรบ้านห้วยโผ หมู่ที่ 6 ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จำนวน 70 ครอบครัวไปอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัยแล้ว หลังพบว่าบริเวณยอดภูเขาสูงมีรอยแยกของภูเขามากกว่า 10 จุด เป็นเพราะอิทธิพลพายุนกเตน และเกรงว่าหากมีฝนตกลงมาซ้ำอีกจะทำให้เกิดดินถล่มลงมาทับบ้านเรือนราษฎรดังกล่าวได้ และได้สั่งการให้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแม่ฮ่องสอน เข้าไปสำรวจบริเวณที่มีรอยแยกของภูเขาสูงดังกล่าวแล้ว
**ชาวสามง่ามโวยเทศบาลไม่เหลียวแล
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ขณะนี้ชาวบ้านหลายพื้นที่ยังได้รับความเดือดร้อนจากภาวะน้ำในแม่น้ำยมเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่เกษตรอย่างต่อเนื่อง โดยในพื้นที่ชุมชนบ้านรายชะโด หมู่ที่ 6 ต.สามง่าม อ.สามง่าม ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ติดแม่น้ำยม ถูกน้ำไหลบ่าเข้าท่วมทั้งชุมชน ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักและยังพบปัญหากระสอบทรายไม่เพียงพอที่จะนำมาวางทำเป็นแนวกั้นน้ำด้วย
**น้ำโขงท่วมบ้านเรือนในเขตโขงเจียมแล้ว
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมทางภาคอีสานหลายจังหวัดยังได้รับผลกระทบต่อเนื่อง โดยที่ จ.อุบลราชธานี แม่น้ำโขงได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนราษฏรในเขตพื้นที่ อ.โขงเจียม แล้ว โดยเฉพาะหมู่บ้านดงบั้งไฟ และบ้านดงบาก ต.หนองแสงใหญ่ อ.โขงเจียม ทำให้ราษฏรอย่างน้อยประมาณ 240 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน ไม่สามารถเดินทางเข้าออกหมู่บ้านได้ เนื่องจากระดับน้ำท่วมสูงถึง 2 เมตร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้งดจ่ายกระแสไฟฟ้าเพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร โรงเรียนทั้ง 2 หมู่บ้านได้สั่งปิดการเรียนการสอนแล้ว
**น้ำโขงจ่อทะลักชั้นใต้ดินตลาดอินโดจีน
ส่วนที่ จ.มุกดาหาร นายชาญวิทย์ วสยางกรู ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้สั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดมุกดาหารและเทศบาลเมืองมุกดาหาร นำกระสอบทรายทำผนังกั้นน้ำโขงทะลักชั้นใต้ดินตลาดอินโดจีนเพื่อช่วยเหลือผู้ขายสินค้าบริเวณชั้นใต้ดินตลาดอินโดจีนกว่า 90 ราย และซักซ้อมทำความเข้าใจในการขนย้ายสิ่งของที่ชั้นใต้ดินตลาดอินโดจีนขึ้นสู่ที่ขึ้นเพื่อป้องกันน้ำท่วม โดยมีนายอดุลย์ ศิริมันต์ ป้องกันและบรรเทาและบรรเทาสาธารณะภัยเทศบาลเมืองมุกดาหาร จัดระเบียบการขนย้ายและสถานที่ที่จะรองรับผู้ค้าทั้งหมด โดยได้จัดเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย,อพปร,เทศกิจ,ชุดกู้ภัยทางน้ำ ปภ.กว่า 100 นาย พร้อมจัดเตรียมถุงทรายจัดวางตามแนวป้องกันน้ำล้นทะลักเข้ามา ซึ่งทางผู้ค้าให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
**เตือน21จว.เหนือ-อีสานน้ำท่วมฉับพลัน
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กล่าวว่า ขอเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่มใน 21 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ เลย หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร อุดรธานี และมุกดาหาร เตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินถล่มในระหว่างวันที่ 9 -11 ส.ค.
