นครศรีธรรมราช - เครือข่ายป้องทรัพยากรท้องถิ่นใต้ขยับต้านนโยบายพัฒนาใต้ เตรียมรวมพลชูใบเหลืองเตือน “ยิ่งลักษณ์”เดินแผน “เพชรเกษม41” ขอกำหนดอนาคตคิดเอง การพัฒนาต้องเป็นไปด้วยความต้องการของคนในท้องถิ่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายภาคประชาชนในการปกป้องทรัพยากรท้องถิ่นของแต่ละพื้นที่ในภาคใต้ ได้แก่ จ.สตูล สุราษฎร์ธานี ปัตตานี นครศรีธรรมราช ชุมพร และ จ.สงขลา ได้มีการประชุมหารือสรุปถึงแนวทางในการเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องภาคใต้ให้พ้นจากแผนพัฒนาที่จะทำลายทรัพยากรธรรมชาติ เช่น แผนเซาเทิร์นซีบอร์ด แผนสะพานเศรษฐกิจหรือแลนด์บริดจ์ แผนพัฒนาพลังงานที่มีทั้งอุตสาหกรรมโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน และอื่นๆ ที่จะตามมาภายหลัง ซึ่งมีการตรวจสอบพบว่าแผนเหล่านี้ได้ถูกบรรจุอยู่ในนโยบายของรัฐบาลต่อไปเรียบร้อยแล้ว
นายทรงวุฒิ พัฒน์แก้ว ผู้ประสานงานเครือข่ายรักษ์บ้านเกิดท่าศาลา ซึ่งเป็นแกนหลักในการต่อต้านโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินในพื้นที่นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า หลังจากมีการหารือกันอย่างหลากหลาย ที่ประชุมได้มีมติร่วมกันใน 3 ประเด็นหลัก
ประเด็นที่ 1คือ มีมติร่วมกันในการใช้แผน “เพชรเกษม 41” เป็นแผนปฏิบัติการหลัก สำหรับนิยามความหมายของเพชรเกษม 41 เป็นเส้นทางที่แยกออกมาจากสาย 4 ที่รัฐและนายทุนใช้กอบโกยประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ ในขณะที่ 41 เป็นเสมือนแกนกลางของชาวภาคใต้หรือกระดูกสันหลังของภาคใต้ก็ว่าได้
“หลังจากนี้เราจะร่วมกันแสดงสัญลักษณ์ของเพชรเกษม 41 ทุกที่ เพื่อรณรงค์ร่วมกันปกป้องภาคใต้ให้รอดพ้นจากการรุกล้ำของอุตสาหกรรมทุกชนิด คนภาคใต้ขอมีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคตของตัวเอง หลักจากนี้เป็นปรากฏการณ์สำคัญที่คนใต้จะขอคิดเอง เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของท้องถิ่นและชุมชน” นายทรงวุฒิ กล่าว
ประเด็นที่ 2 แต่ละจังหวัดจะเริ่มดำเนินการภายใต้แผนปฏิบัติการเดียวกัน ซึ่งแล้วแต่ว่าจังหวัดไหนจะใช้วิธีการใดในการเคลื่อนไหว
ประเด็นที่ 3ก่อนที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์จะแถลงนโยบายในวันที่ 22 ส.ค. ทุกจังหวัดจะมีประชาชนส่วนหนึ่งไปรวมกันที่เขาแพง จ.ชุมพร ซึ่งเป็นประตูสู่ภาคใต้เพื่อจะไปชูใบเหลืองให้แก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นการเตือน รวมทั้งมีการจัดกิจกรรมต่างๆ บริเวณนั้น แต่กิจกรรมบางส่วนยังไม่สามารถเปิดเผยได้
นายทรงวุฒิ กล่าวเสริมอีกว่า กิจกรรมของชาวใต้ครั้งนี้เป็นวิถีที่ต้องการปกป้องวิถีชีวิตของความเป็นภาคใต้ เตือนว่ารอบนี้คนใต้เราเอาจริง ทุกอย่างตกผลึกแล้ว การออกแบบความเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องทรัพยากรปกป้องท้องถิ่นครั้งนี้ ขอแสดงจุดยืนว่า ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองหรือพรรคการเมืองใดๆ ไม่เกี่ยวข้องกับเราทั้งสิ้น ซึ่งหากรัฐบาลไม่ฟังและยังยืนยันที่จะเดินหน้านโยบายที่กำลังจะประกาศเกี่ยวกับภาคใต้ เราจะมีมาตรการเป็นไปตามลำดับเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการเชื่อมโยงแต่ละจังหวัดเข้าด้วยกัน โดยต่างมีจุดยืนเดียวกันคือการปกป้องภาคใต้
ทั้งนี้ สาระสำคัญของแนวที่กลุ่มเครือข่ายต้องแสดงความไม่เห็นด้วยคือ นโยบายที่เกี่ยวกับพื้นที่ภาคใต้ ในส่วนของอุตสาหกรรมพลังงาน เช่น ไฟฟ้าถ่านหิน อุตสาหกรรมน้ำมัน พลังงาน และท่าเรืออุตสาหกรรม เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายภาคประชาชนในการปกป้องทรัพยากรท้องถิ่นของแต่ละพื้นที่ในภาคใต้ ได้แก่ จ.สตูล สุราษฎร์ธานี ปัตตานี นครศรีธรรมราช ชุมพร และ จ.สงขลา ได้มีการประชุมหารือสรุปถึงแนวทางในการเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องภาคใต้ให้พ้นจากแผนพัฒนาที่จะทำลายทรัพยากรธรรมชาติ เช่น แผนเซาเทิร์นซีบอร์ด แผนสะพานเศรษฐกิจหรือแลนด์บริดจ์ แผนพัฒนาพลังงานที่มีทั้งอุตสาหกรรมโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน และอื่นๆ ที่จะตามมาภายหลัง ซึ่งมีการตรวจสอบพบว่าแผนเหล่านี้ได้ถูกบรรจุอยู่ในนโยบายของรัฐบาลต่อไปเรียบร้อยแล้ว
นายทรงวุฒิ พัฒน์แก้ว ผู้ประสานงานเครือข่ายรักษ์บ้านเกิดท่าศาลา ซึ่งเป็นแกนหลักในการต่อต้านโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินในพื้นที่นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า หลังจากมีการหารือกันอย่างหลากหลาย ที่ประชุมได้มีมติร่วมกันใน 3 ประเด็นหลัก
ประเด็นที่ 1คือ มีมติร่วมกันในการใช้แผน “เพชรเกษม 41” เป็นแผนปฏิบัติการหลัก สำหรับนิยามความหมายของเพชรเกษม 41 เป็นเส้นทางที่แยกออกมาจากสาย 4 ที่รัฐและนายทุนใช้กอบโกยประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ ในขณะที่ 41 เป็นเสมือนแกนกลางของชาวภาคใต้หรือกระดูกสันหลังของภาคใต้ก็ว่าได้
“หลังจากนี้เราจะร่วมกันแสดงสัญลักษณ์ของเพชรเกษม 41 ทุกที่ เพื่อรณรงค์ร่วมกันปกป้องภาคใต้ให้รอดพ้นจากการรุกล้ำของอุตสาหกรรมทุกชนิด คนภาคใต้ขอมีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคตของตัวเอง หลักจากนี้เป็นปรากฏการณ์สำคัญที่คนใต้จะขอคิดเอง เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของท้องถิ่นและชุมชน” นายทรงวุฒิ กล่าว
ประเด็นที่ 2 แต่ละจังหวัดจะเริ่มดำเนินการภายใต้แผนปฏิบัติการเดียวกัน ซึ่งแล้วแต่ว่าจังหวัดไหนจะใช้วิธีการใดในการเคลื่อนไหว
ประเด็นที่ 3ก่อนที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์จะแถลงนโยบายในวันที่ 22 ส.ค. ทุกจังหวัดจะมีประชาชนส่วนหนึ่งไปรวมกันที่เขาแพง จ.ชุมพร ซึ่งเป็นประตูสู่ภาคใต้เพื่อจะไปชูใบเหลืองให้แก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นการเตือน รวมทั้งมีการจัดกิจกรรมต่างๆ บริเวณนั้น แต่กิจกรรมบางส่วนยังไม่สามารถเปิดเผยได้
นายทรงวุฒิ กล่าวเสริมอีกว่า กิจกรรมของชาวใต้ครั้งนี้เป็นวิถีที่ต้องการปกป้องวิถีชีวิตของความเป็นภาคใต้ เตือนว่ารอบนี้คนใต้เราเอาจริง ทุกอย่างตกผลึกแล้ว การออกแบบความเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องทรัพยากรปกป้องท้องถิ่นครั้งนี้ ขอแสดงจุดยืนว่า ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองหรือพรรคการเมืองใดๆ ไม่เกี่ยวข้องกับเราทั้งสิ้น ซึ่งหากรัฐบาลไม่ฟังและยังยืนยันที่จะเดินหน้านโยบายที่กำลังจะประกาศเกี่ยวกับภาคใต้ เราจะมีมาตรการเป็นไปตามลำดับเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการเชื่อมโยงแต่ละจังหวัดเข้าด้วยกัน โดยต่างมีจุดยืนเดียวกันคือการปกป้องภาคใต้
ทั้งนี้ สาระสำคัญของแนวที่กลุ่มเครือข่ายต้องแสดงความไม่เห็นด้วยคือ นโยบายที่เกี่ยวกับพื้นที่ภาคใต้ ในส่วนของอุตสาหกรรมพลังงาน เช่น ไฟฟ้าถ่านหิน อุตสาหกรรมน้ำมัน พลังงาน และท่าเรืออุตสาหกรรม เป็นต้น
