xs
xsm
sm
md
lg

3วันหุ้นรูด20จุด ตปท.ซื้อแต่สถาบันขายหมื่นล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน – หุ้นไทยรูดต่อ 9.45 จุด รวม 3 วันดัชนีดิ่ง 20 จุด พบแค่ 4 วันแรกของเดือน สถาบันเทขายกว่า 10,000 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 8.4 พันล้าน จากความกังวลปัญหาหนี้และเศรษฐกิจในสหรัฐฯ และยุโรป จนเกิดการปรับพอร์ตของนักลงทุน โดยมีแรงเทขายในหุ้นกลุ่มแบงก์และพลังงานมากสุด โบรกฯคาด ดัชนีมีโอกาสพักฐานต่อ!
ตลาดหุ้นไทยวานนี้(4ส.ค.) ดัชนีปรับตัวผันผวนช่วงเช้าของการซื้อขายอยู่ในแดนบวกเล็กน้อย ขณะที่ช่วงบ่ายดัชนีปรับตัวลงมาในแดนลบ โดยปิดที่ระดับ 1,124.01 จุด ลดลง 9.45 จุด -0.83% มูลค่าการซื้อขาย 33,833.30 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุด 1,137.12 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,122.37 จุด
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ให้เหตุผลว่า ดัชนีหุ้นไทยวานนี้ ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค ซึ่งน่าเกิดจากการขายทำกำไร และปรับพอร์ตของนักลงทุนจากต่างประเทศ โดยเห็นได้จากแรงเทขายที่มีอยู่มากในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และหุ้นพลังงาน ขณะเดียวกันนักลงทุนเริ่มมีความกังวลต่อปัญหาเศรษฐกิจในยุโรปเกิดขึ้นอีก หลังจากก่อนหน้ากังวลต่อปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ
โดย พบว่า วานนี้ สถาบันยังขายสุทธิต่อเนื่องอีก 1,443.05 ล้านบาท เช่นเดียวกับบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ที่ขายสุทธิ 813.05 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ 539.52 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 1,716.58 ล้านบาท

**3วันหุ้นร่วง20จุดสถาบันขายหมื่นล.
ทั้งนี้ จากข้อมูลตลาดหลักทรัพย์พบว่าเมื่อเริ่มเข้าสู่เดือนสิงหาคม มีเพียงวันแรกของเดือนเท่านั้นที่ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวบวก ขานรับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร์ครั้งแรกของรัฐบาลชุดใหม่ ขณะที่ปัจจัยเสริมในต่างแดน คือ ประเด็นการลงมติผ่านร่างเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐฯช่วยสนับสนุนดัชนี
แต่หลังจากนั้น พบว่าตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค. เป็นต้นมา ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวในแดนลบมาโดยตลอด เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค. ปรับตัวลดลง 4.53 จุด วันที่ 3 ส.ค.ลดลง 6.15 จุด และวานนี้ลดลงอีก 9.45 จุด รวม 20.13 จุด และผู้ขายสุทธิต่อเนื่องมากสุดคือกลุ่มสถาบัน ขายสุทธิ (1-4ส.ค.) จำนวน 10,463.71ล้านบาท รองลงมาได้แก่ บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 880.20 ล้านบาท และ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 8,445.88 ล้านบาท

**ตลาดหุ้นต่างประเทศเริ่มกังวลยุโรป
ส่วนความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นต่างประเทศ พบว่าวานนิ้ในหลายตลาดนักลงทุนเริ่มมีความกังวลต่อปัญหาภาวะเศรษฐกิจในยุโรปอีกครั้ง ซึ่งหลายฝ่ายต่างเฝ้าจับตาการประมูลพันธบัตรสเปน และการประชุมของECB ที่กำลังเกิดขึ้น จึงมีผลให้
ดัชนีคอมโพสิต ตลาดหลักทรัพย์ลาว ปิดทรงตัวที่ระดับ 1,061.86 จุด ,ดัชนีเวทเต็ด ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 139.59 จุด หรือ 1.65% ปิดที่ 8,317.27 จุด ,ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ลดลง 56.30 จุด หรือ 1.3% ปิดที่ 4,276.5 จุด ,ดัชนีคอมโพสิต ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 47.79 จุด หรือ 2.31% มาอยู่ที่ระดับ 2,018.47 จุด และดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกงลดลง 107.98 จุด หรือ 0.49% ปิดที่ 21,884.74 จุด
น.ส.จิตรา อมรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลง ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนลบ ซึ่งหุ้นที่นำตลาดขาลงเป็นหุ้นขนาดใหญ่อย่างหุ้นในกลุ่มแบงก์ และกลุ่มพลังงาน ทั้งนี้คาดว่าคงจะเป็น เม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ แต่ก็เป็นไปในลักษณะของการปรับพอร์ตลงทุน ทำให้ตลาดพักฐาน เพราะเดือนที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติได้ซื้อเข้าพอร์ตจำนวนมาก ดังนั้นการขายครั้งนี้ก็คงเป็นลักษณะของการขายทำกำไร เนื่องจากเวลานี้ตลาดการเงินโลกไม่นิ่ง
ทั้งนี้เพราะนอกจาก เศรษฐกิจในสหรัฐฯที่ชะลอตัวแล้ว ตอนนี้กลับมากังวลเรื่องของทางยุโรปใหม่ โดยเย็นวานนี้จะมีการประมูลพันธบัตรของสเปนกัน และมีการประชุม ECB ด้วย ซึ่งก็มีการจับตาดูว่าประธาน ECB จะมี comment เรื่องการประมูลพันธบัตรของสเปนอย่างไรบ้าง เนื่องจากให้ผลตอบแทน(yield)ที่สูงสุดในรอบ 14 ปี ซึ่งเวลานี้การเงินโลกยังต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด ดังนั้นหากมีแรงขายหุ้นในตลาดเอเชียบ้างจึงมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา ทำให้แนวโน้มการลงทุนในวันนี้(5 ส.ค.) ดัชนีคงจะแกว่งแคบ และมีโอกาสที่จะพักฐานต่อ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,115-1,125 จุด
กำลังโหลดความคิดเห็น