xs
xsm
sm
md
lg

เจาะกลุ่มฮิสแปนิก-คุกสหรัฐฯ โอกาสใหม่สินค้าไทยยึดตลาดมะกัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ใครจะไปรู้ว่าตลาดสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันเป็นตลาดส่งออกหลักของไทย จะมีช่องทางการตลาดใหม่ๆ อีกหลายช่องทางที่ผู้ส่งออกไทยนึกไม่ถึง และที่ผ่านมาๆ ไม่มีใครสนใจ และมองข้ามไป ทั้งๆ ที่เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพอีกกลุ่มหนึ่ง หากมีการซื้อขายกันได้ ก็จะเพิ่มยอดการส่งออกสินค้าไทยไปสหรัฐฯ ได้อีกมากเช่นเดียวกัน
นายภูสิต รัตนกุลเสรีเริงฤทธิ์ นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ กรมส่งเสริมการส่งออก ที่รับผิดชอบในการเสาะหาช่องทางการตลาดใหม่ๆ ให้กับผู้ส่งออกไทยในตลาดสหรัฐฯ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการบุกเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ในตลาดสหรัฐฯ โดยบอกว่า วันนี้ (3 ส.ค.) กรมฯ ได้เริ่มภารกิจในการสร้างโอกาสในการส่งออกให้กับผู้ประกอบการไทยแล้ว โดยได้เชิญคณะผู้แทนการค้ากลุ่มฮิสแปนิก และกลุ่มสถาบันจากสหรัฐฯ และเม็กซิโกกว่า 30 รายมาเยือนไทย
ทั้ง 30 รายการ เป็นกลุ่มที่มีความสนใจที่จะสั่งซื้อสินค้าในกลุ่มอาหาร และสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ข้าว ใบตองแช่เย็น ซอสปรุงรส อาหารแช่แข็ง อาหารกระป๋องและแปรรูปต่างๆ ของขวัญและของตกแต่งบ้าน เสื้อผ้า เครื่องอิเล็กโทรนิกส์ สิ่งพิมพ์ เครื่องครัว และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสปา
วิธีการดำเนินการ หลังจากที่กรมฯ ได้มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส ทำการศึกษาโอกาสและช่องทางการตลาดใหม่ๆ ในการเจาะเข้าสู่กลุ่มเป้าหมายข้างต้น ซึ่งเมื่อได้ข้อมูลครบถ้วนแล้ว กรมฯ ได้จัดคณะผู้แทนการค้า นำโดยนางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก ไปเยือนสหรัฐฯ ไปดูของจริง ไปคุยกับกลุ่มที่คาดว่าจะเป็นลูกค้าจริงๆ ทั้งกลุ่มฮิสแปนิก และกลุ่มสถาบัน ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี และเราก็ได้เชิญให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายเดินทางมาเยือนไทย เพื่อดูสินค้า พบปะกับผู้ผลิตของเรา เพื่อสร้างโอกาสในการสั่งซื้อสินค้า
"กรมฯ ได้นัดให้ผู้ประกอบการไทย ที่สนใจจะขยายตลาดส่งออกผ่านผู้นำเข้าในกลุ่มฮิสแปนิกและกลุ่มสถาบันในตลาดสหรัฐฯ ได้มาทำ Business Matching ในวันนี้ โดยเปิดโอกาสให้พบปะกับผู้นำเข้าโดยตรงได้ ซึ่งคาดว่าโอกาสในการส่งออกจะเกิดขึ้นแน่ๆ"
สำหรับตลาดฮิสแปนิก หลายๆ คนยังคงสงสัยว่ามันคือตลาดอะไร นายภูสิตได้ฉายภาพให้เห็นว่า ตลาดฮิสแปนิก เป็นตลาดชนกลุ่มน้อยของสหรัฐฯ มีรายงานว่าตั้งแต่ปี 2550 มีประชากรรวมประมาณ 40 ล้านคน และในอีก 20 ปีข้างหน้าคาดว่าพลเมืองส่วนนี้จะเพิ่มขึ้นใน 1 ใน 3 ของประชากรสหรัฐฯ หรือ ราว 100 ล้านคน ซึ่งรายได้กลุ่มฮิสแปนิคเฉลี่ยมากกว่า 40,000 เหรียญสหรัฐ และมีรสนิยมประกอบอาหารรับประทานเองมากกว่าไปตามร้านอาหารยอดนิยม จึงนิยมใช้ของสด อาทิ เครื่องปรุงรส ซอส ในอาหารประเภทอาหารทะเล หมู ไก่ ปลาหมึก เป็นต้น
ส่วนตลาดกลุ่มสถาบัน ที่กรมฯ ให้ความสำคัญในการบุกเจาะตลาด ก็คือ ตลาดทัณฑสถานสหรัฐฯ ซึ่งถือได้ว่าเป็นตลาดที่กรมฯ ให้ความสำคัญป็นพิเศษ โดยกรมฯ ต้องทำการตลาดเพิ่มในสินค้าจำเป็นพื้นฐาน ส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งสินค้าที่ทำตลาดอยู่แล้ว ได้แก่ ทูน่า ซอสพริก ข้าว บะหมี่สำเร็จรูป และกล่องใส่อาหารทำจากชานอ้อย ของขบเคี้ยว โลชั่นบำรุงผิว แชมพู สบู่ รองเท้าแตะ เสื้อผ้าชุดชั้นใน เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีลู่ทางในการจำหน่ายสินค้าอื่นๆ ให้กับทัณฑสถานได้ คือ เครื่องแบบของผู้คุมและนักโทษ เครื่องมือเครื่องใช้ รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ในสถานกักกัน
ทั้งนี้ ตลาดกลุ่มทัณฑสถานในสหรัฐฯ มีผู้กระทำผิดและถูกคุมขังมีประมาณ 75,000 คน กระจายกว่า 60 ทัณฑสถาน
"ในการบุกเจาะตลาดกลุ่มสถาบัน กรมฯ ได้ริเริ่มเจาะตลาดสินค้าไทยสู่เรือนจำในสหรัฐฯ มาตั้งแต่ปี 2552 โดยสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส ได้ริเริ่มโครงการสร้างช่องทางใหม่สินค้าไทยเจาะตลาดกลุ่มสถาบันในสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงโรงแรม สถานศึกษา เรือนจำ เรือสำราญ โรงพยาบาล สวนสนุกและกองทัพ"
นายภูสิตให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากทัณฑสถาน กลุ่มสถาบัน องค์กรอื่นๆ ในสหรัฐฯ อาทิ โรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงแรม เรือสำราญ เป็นตลาดเฉพาะที่มีกำลังซื้อไม่แพ้กลุ่มซูเปอร์มาเก็ต ห้างสรรพสินค้า เฉลี่ยมีการสั่งซื้อปีละ 23,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 690,000 ล้าน ถือเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่กรมฯ กำลังจะบุกเจาะ และต้องทำให้ได้ เพราะเป็นโอกาสในการเพิ่มยอดการรส่งออกให้กับสินค้าไทยอีกมาก
กำลังโหลดความคิดเห็น