ASTV ผู้จัดการรายวัน - "จักรทิพย์" สั่งเด้ง"รองผกก.สืบพญาไท" เซ่นคดี "พ.อ."ขับรถชน"หมอมุก" ไปช่วยงานสืบ บก.น.1 ระบุผิดพลาดในการทำงาน โดยเฉพาะคดีหมอมุกที่ใช้เวลา 46 วัน ในการสรุปคดีสั่งฟ้องผู้ต้องหาได้ ด้านแม่หมอมุกติดใจ! ตร.แจ้งข้อหาคนเดียว หวั่นคดีถูกบิดเบือน
วานนี้ (28 ก.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา ทาง บชน.ได้มีคำสั่งให้ พ.ต.ท.โชติ สุวรรณจุณีย์ รอง ผกก.สส.สน.พญาไท ไปปฏิบัติหน้าที่สืบสวน บก.น.1 และให้ พ.ต.ท.บรรยง แดงมั่นคง พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.พญาไท ปฏิบัติหน้าที่รอง ผกก.สืบสวนแทน
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า คำสั่งโยกย้ายในครั้งนี้ เบื้องต้นทาง บก.น.1 เสนอผ่าน พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น.(ดูแลงานบริหารและงานสอบสวน) จากนั้นได้ส่งให้ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. ลงนามเห็นชอบ เพื่อให้ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เป็นผู้ออกคำสั่ง โดยระบุเหตุผลว่าเป็นเรื่องผิดพลาดในการปฏิบัติหน้าที่ โดยมีกำหนดให้มาปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการที่ บก.น.1 เป็นเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค.ที่ออกคำสั่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุที่มีการย้าย พ.ต.ท.โชติ มาช่วยงานที่ บก.น.1 เนื่องมาจาก พ.ต.ท.โชติ เป็นผู้ดูแลและทำคดีของ พ.ต.พญ.หทัยพร หรือ หมอมุก อิ่มวิทยา ที่มีการทำงานล่าช้า และเพิ่งมีการแจ้งข้อหาแก่ พ.อ.(พิเศษ) ศักดิ์สิทธิ์ ภู่กลั่น ผอ.กองกลาง สำนักงานปลัดบัญชีทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ไปเมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา
ด้าน พญ.พรรณกร อิ่มวิทยา มารดา พ.ต.พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา หรือ หมอมุก กล่าวว่า ถึงวันนี้ยังรู้สึกติดใจเกี่ยวกับคดีใน 2 เรื่องคือ รถคันที่เกิดเหตุ ซึ่งตนเคยให้ปากคำกับตำรวจไปแล้วว่า หลังเกิดเหตุรถคันก่อเหตุได้ขับหลบหนีไปทาง ถ.เศรษฐศิริ เข้า ถ.อำนวยสงคราม และสิ้นสุด ถ.เขียวไก่กา ก่อนจะติดตามไม่ได้ ซึ่งสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจน เกรงว่าจะมีการเปลี่ยนผู้ขับ หรือนำรถไปทำลายหลักฐาน
ส่วนที่ 2 คือพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาพยายามฆ่ากับ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ภู่กลั่น ผู้อำนวยการกองกลาง สำนักงานปลัดบัญชีทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย เพียงคนเดียว ขณะที่รถคันดังกล่าว มีนั่งมาพร้อมกันถึง 4 คน รวมทั้งจากการสอบสวนเชื่อว่า เพื่อนของลูกสาวเป็นคนเขียนข้อความด่าที่รถหมอมุก น่าจะเป็นการแจ้งข้อหาร่วมกระทำความผิดด้วย จึงอยากขอความเห็นใจจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แม้วันนี้ หมอมุกมีอาการดีขึ้น แต่เนื่องจากศีรษะกะโหลกซ้ายเสียหาย ได้รับความกระทบกระเทือน ทำให้แขนขาด้านขวายังอ่อนแรง ขาขวายังบวม ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
สำหรับ พ.ต.ท.โชติ สุวรรณจุณีย์ รอง ผกก.สส.สน.พญาไท ที่ถูกคำสั่งโยกย้ายในครั้งนี้ พบว่าในช่วงเกิดเหตุมีการตั้งข้อสังเกตกันว่า มีเจตนาเพื่อช่วยเหลือปิดบัง ผู้กระทำความผิดหรือไม่ โดยเฉพาะการให้สัมภาษณ์สื่อในแต่ละครั้ง พ.ต.ท.โชติ จะปิดบังข้อเท็จจริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง หลังเกิดเหตุ มีนายทหารยศ พล.อ.นอกราชการ ไปพบที่ สน. และ การปกปิดข่าว ทั้งที่เรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่หัวค่ำของคืนวันศุกร์ที่ 10 มิ.ย. จนญาติกับเพื่อนได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อในวันที่ 11 มิ.ย. เพื่อให้ช่วยติดตามหาผู้กระทำผิดมาลงโทษ นอกจากนั้น การประสานงานทางกองทัพไทยเพื่อให้ส่งรถมาให้ตรวจสอบ ก็ทำอย่างล่าช้า จึงทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ จนในที่สุด ถูกคำสั่งย้ายดังกล่าว
วานนี้ (28 ก.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา ทาง บชน.ได้มีคำสั่งให้ พ.ต.ท.โชติ สุวรรณจุณีย์ รอง ผกก.สส.สน.พญาไท ไปปฏิบัติหน้าที่สืบสวน บก.น.1 และให้ พ.ต.ท.บรรยง แดงมั่นคง พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.พญาไท ปฏิบัติหน้าที่รอง ผกก.สืบสวนแทน
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า คำสั่งโยกย้ายในครั้งนี้ เบื้องต้นทาง บก.น.1 เสนอผ่าน พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น.(ดูแลงานบริหารและงานสอบสวน) จากนั้นได้ส่งให้ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. ลงนามเห็นชอบ เพื่อให้ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เป็นผู้ออกคำสั่ง โดยระบุเหตุผลว่าเป็นเรื่องผิดพลาดในการปฏิบัติหน้าที่ โดยมีกำหนดให้มาปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการที่ บก.น.1 เป็นเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค.ที่ออกคำสั่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุที่มีการย้าย พ.ต.ท.โชติ มาช่วยงานที่ บก.น.1 เนื่องมาจาก พ.ต.ท.โชติ เป็นผู้ดูแลและทำคดีของ พ.ต.พญ.หทัยพร หรือ หมอมุก อิ่มวิทยา ที่มีการทำงานล่าช้า และเพิ่งมีการแจ้งข้อหาแก่ พ.อ.(พิเศษ) ศักดิ์สิทธิ์ ภู่กลั่น ผอ.กองกลาง สำนักงานปลัดบัญชีทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ไปเมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา
ด้าน พญ.พรรณกร อิ่มวิทยา มารดา พ.ต.พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา หรือ หมอมุก กล่าวว่า ถึงวันนี้ยังรู้สึกติดใจเกี่ยวกับคดีใน 2 เรื่องคือ รถคันที่เกิดเหตุ ซึ่งตนเคยให้ปากคำกับตำรวจไปแล้วว่า หลังเกิดเหตุรถคันก่อเหตุได้ขับหลบหนีไปทาง ถ.เศรษฐศิริ เข้า ถ.อำนวยสงคราม และสิ้นสุด ถ.เขียวไก่กา ก่อนจะติดตามไม่ได้ ซึ่งสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจน เกรงว่าจะมีการเปลี่ยนผู้ขับ หรือนำรถไปทำลายหลักฐาน
ส่วนที่ 2 คือพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาพยายามฆ่ากับ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ภู่กลั่น ผู้อำนวยการกองกลาง สำนักงานปลัดบัญชีทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย เพียงคนเดียว ขณะที่รถคันดังกล่าว มีนั่งมาพร้อมกันถึง 4 คน รวมทั้งจากการสอบสวนเชื่อว่า เพื่อนของลูกสาวเป็นคนเขียนข้อความด่าที่รถหมอมุก น่าจะเป็นการแจ้งข้อหาร่วมกระทำความผิดด้วย จึงอยากขอความเห็นใจจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แม้วันนี้ หมอมุกมีอาการดีขึ้น แต่เนื่องจากศีรษะกะโหลกซ้ายเสียหาย ได้รับความกระทบกระเทือน ทำให้แขนขาด้านขวายังอ่อนแรง ขาขวายังบวม ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
สำหรับ พ.ต.ท.โชติ สุวรรณจุณีย์ รอง ผกก.สส.สน.พญาไท ที่ถูกคำสั่งโยกย้ายในครั้งนี้ พบว่าในช่วงเกิดเหตุมีการตั้งข้อสังเกตกันว่า มีเจตนาเพื่อช่วยเหลือปิดบัง ผู้กระทำความผิดหรือไม่ โดยเฉพาะการให้สัมภาษณ์สื่อในแต่ละครั้ง พ.ต.ท.โชติ จะปิดบังข้อเท็จจริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง หลังเกิดเหตุ มีนายทหารยศ พล.อ.นอกราชการ ไปพบที่ สน. และ การปกปิดข่าว ทั้งที่เรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่หัวค่ำของคืนวันศุกร์ที่ 10 มิ.ย. จนญาติกับเพื่อนได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อในวันที่ 11 มิ.ย. เพื่อให้ช่วยติดตามหาผู้กระทำผิดมาลงโทษ นอกจากนั้น การประสานงานทางกองทัพไทยเพื่อให้ส่งรถมาให้ตรวจสอบ ก็ทำอย่างล่าช้า จึงทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ จนในที่สุด ถูกคำสั่งย้ายดังกล่าว
