เตือนอย่ามั่วนิ่มคดีวอเตอร์บาว บีบไทยจ่ายหนี้ บัวแก้วเตรียมโต้สถานทูตเยอรมนี

ASTVผู้จัดการรายวัน-กระทรวงการต่างประเทศ เตรียมส่งหนังสือโต้สถานทูตเยอรมนี บีบไทยจ่าย 36 ล้านยูโร ให้ "วอเตอร์ บาว" แปลกใจทำตัวก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรมทั้งๆ ที่เป็นอิสระต่อกัน เตือนระวังจะกระทบความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศ "ปณิธาน"แจงกรณีเยอรมนียอมให้ "ทักษิณ"เข้าประเทศ เป็นแค่ข่าว แต่หากเป็นจริงเยอรมนีควรเคารพกฎหมายให้มากกว่านี้

นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และรักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่สถานทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย ออกแถลงการณ์ให้ไทยปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการจ่ายค่าชดเชยจำนวน 36 ล้านยูโร แก่บริษัท วอลเตอร์ บาว ตามคำตัดสินของคณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทย-เยอรมนี ว่า ขณะนี้ กระทรวงการต่างประเทศกำลังตรวจสอบข้อมูลอยู่ และจะทำเรื่องชี้แจงไปยังกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีต่อไป โดยเบื้องต้นได้ยืนยันข้อมูลพื้นฐานทั้งหมดแล้ว และคิดว่าเพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทย-เยอรมนี กระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีควรได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง เข้าใจว่าข้อมูลบางอย่างปรากฏแล้ว แต่ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี อาจได้ข้อมูลไม่ครบถ้วน ส่วนจะมีการอายัดเครื่องบินโบอิ้ง 737 ไปแล้วหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลอะไรในเรื่องนี้ อัยการสูงสุด และกระทรวงการต่างประเทศ ยังไม่แจ้งมายังรัฐบาล

ส่วนกรณีที่แถลงการณ์สถานทูตเยอรมนี ระบุชัดว่าอนุญาโตตุลาการได้ตัดสินถือเป็นที่สิ้นสุดแล้ว แต่รัฐบาลไทยไม่ยอมชดเชยใช้ให้ บริษัท วอลเตอร์ บาว นั้น กระทรวงการต่างประเทศก็เคยพูดว่า เรื่องกระบวนการยุติธรรมกำลังดำเนินการอยู่ โดยอยู่ในชั้นอุทธรณ์ และยังมีข้อสังเกตุทางกฎหมายหลายเรื่อง เข้าใจว่ากระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี ตระหนักดีว่ากระบวนการยุติธรรมในเยอรมนีเอง ก็แยกแยะจากฝ่ายบริหาร ซึ่งแปลกใจว่า กระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีกลับให้ความเห็นเกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม ซึ่งน่าจะเป็นอิสระต่อกัน

เมื่อถามว่า แสดงว่าจากการพูดคุยของนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ไม่มีผลต่อเรื่องดังกล่าว นายปณิธาน กล่าวว่า จริงๆ แล้ว ตนคิดว่าความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศ เป็นความสัมพันธ์ที่ดีมาโดยตลอด และมีความใกล้ชิด ขณะนี้ต้องระมัดระวังเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน กระทบความรู้สึกของคนไทย เราเรียกร้องให้กระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี ระมัดระวังในเรื่องนี้ และต้องการให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องทั้งหมด เข้าใจว่าวันนี้จะมีการส่งข้อมูลชี้แจงให้กระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ แถลงการณ์ดังกล่าว จะกระทบต่อคดีโบอิ้ง 737 หรือไม่ กระทรวงการต่างประเทศกำลังประเมินสถานการณ์ เข้าใจว่าจะมีการชี้แจงและให้ข้อมูลที่ถูกต้องต่อไป

นายปณิธานกล่าวถึงกรณีที่ล่าสุดเยอรมนีอนุญาตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้าประเทศหลังสั่งห้ามตั้งแต่ปี 2549 ว่า เรื่องดังกล่าวยังเป็นเพียงข่าว กระทรวงการต่างประเทศจะได้ตรวจสอบอีกครั้ง โดยเห็นว่าแต่ละประเทศมีแนวทางที่จะอนุญาตให้ใครเข้า เป็นสิทธิ์ แต่อยากให้มีความร่วมมือที่ดีระะหว่าง 2 ประเทศ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทางกฎหมาย เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ มีคดี และมีเรื่องที่ต้องดำเนินการกับกระบวนการยุติธรรม จึงไม่อยากให้กระทบความสัมพันธ์

"เป็นจุดยืนของแต่ละประเทศ ซึ่งคงมีเหตุผลของเขาเอง แต่เราอยากให้ทุกฝ่ายเคารพกระบวนการยุติธรรม ส่วนการติดตามตัว พ.ท.ต.ทักษิณนั้น คงไม่ง่าย เพราะเป็นเรื่องที่ซับซ้อน มีเรื่องกฎหมายที่อาจจะต้องประสานงานกับประเทศต่างๆ ซึ่งแต่ละประเทศมีแนวทางการดำเนินการที่แตกต่างกัน"นายปณิธานกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา สถานทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ ยืนยันคำตัดสินของอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ที่สั่งให้ประเทศไทยจ่ายค่าชดเชยจำนวน 36 ล้านยูโร และแสดงความคาดหวังให้ประเทศไทยชำระเงินดังกล่าวเพื่อเป็นการช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนเยอรมัน และจากประเทศอื่นๆ ในประเทศไทยอีกครั้ง และจะส่งสัญญาณทางบวกสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างเยอรมนี-ไทย ต่อไปด้วย

นอกจากนี้ ในแถลงการณ์ยังชี้แจงเพิ่มเติมว่า กระบวนการตัดสินของอนุญาโตตุลาการที่นิวยอร์ก เป็นไปเพื่อร้องขอคำตัดสินว่า การบังคับคดีในเรื่องนี้ สามารถกระทำในสหรัฐอเมริกาได้หรือไม่เท่านั้น ซึ่งจะไม่มีการสืบพยานใดเพิ่มเติมอีกที่จะทำให้ประเทศไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยตามคำตัดสินได้

ทั้งนี้ โบอิ้ง 737 ถูกอายัดหลังจากคณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศได้ตัดสินเมื่อกลางปี 2552 ว่า รัฐบาลไทยต้องจ่ายค่าเสียหายชดเชยให้แก่บริษัท วอลเตอร์ บาว ซึ่งคำตัดสินถือเป็นสิ้นสุด

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา ศาลเมืองลานด์ชูต ใกล้เมืองมิวนิก ได้มีคำตัดสินให้ถอนอายัดเครื่องบินโบอิ้ง 737 โดยมีเงื่อนไข คือ ทางการไทยต้องวางหลักทรัพย์ค้ำประกันธนาคารมูลค่า 20 ล้านยูโร แต่รัฐบาลไทยได้ประกาศว่า จะไม่นำเงินประกันไปแลกกับการนำเครื่องบินออกมาจากสภาพการถูกอายัด การสืบพยานที่ศาลประจำรัฐเมืองลานด์ชูต จะมีขึ้นอีกครั้งประมาณสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนส.ค. และยังคาดการณ์ไม่ได้ว่ากระบวนการพิจารณาทั้งหลายจะสิ้นสุดเมื่อใด