00 ได้ยินและได้ฟังคำให้สัมภาษณ์ของ ผบ.ทบ.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ระเบิดอารมณ์ออกมา ด่ากราดสื่อไปทั่ว แต่ที่ “เน้นๆ” ก็มีไม่กี่แห่ง และหนึ่งในจำนวนนั้นก็คือ สื่อในเครือ “เอเอสทีวีผู้จัดการ” ที่โดนเข้าไปเต็มๆ หาว่าไปวิจารณ์ส่งเดช จับ “แพะชนแกะ” มั่วๆ อะไรประมาณนั้น พร้อมกับย้ำว่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ฮ.ของกองทัพตกครั้งใดตนเองก็มีความเสียใจอย่างสุดซึ้งทุกครั้ง ได้ยินก็รู้สึกคล้อยตาม ผบ.ทบ.คนนี้ไปด้วย แต่อีกอารมณ์หนึ่งก็ต้อง “สะกิดเตือน” เช่นเดียวกันว่า ทุกคนก็มีความห่วงใยและเสียใจกับทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและไม่อยากให้เกิดขึ้นเลยสักครั้งเดียวไม่ต่างกัน
00 การออกมาวิจารณ์ของสื่อหรือใครก็ตามในกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น ว่ากันตามจริงแล้วจะว่าวิจารณ์ติติงก็ไม่เชิง ส่วนใหญ่ออกมาในลักษณะตั้ง “ข้อสังเกต” ให้ช่วยกันไปคิดกันมากกว่าทำไมถึงได้เกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันซ้ำซาก ถึงสามครั้งซ้อนในช่วงเวลาห่างกันเพียงไม่กี่วันเท่านั้น ไล่เรียงกันมาตั้งแต่ ฮ.แบบ ฮิวอี้ ตกเมื่อวันที่ 16 ก.ค.ถัดมาก็เป็น แบล็กฮอร์ค ซึ่งถือว่าเป็นอากาศยานที่มีราคาแพงและทันสมัยที่สุดชนิดหนึ่งที่ประจำการในกองทัพบก และล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ก.ค.ฮ.รุ่นเบลล์ 212 ที่มีภารกิจช่วยเหลือลำเลียงศพทหารที่ประสบเหตุ ฮ.ตกก่อนหน้านี้ก็มาประสบอุบัติเหตุซ้ำอีกในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันภายในเวลาเพียงแค่ 8 วันเท่านั้น ทำให้เราต้องสูญเสียทรัพยากรบุคคลอันมีค่าจนประมาณไม่ได้รวมกันถึง 17 คน มันเป็นไปได้อย่างไร
00 ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วเมื่อเกิดเกตุการณ์อันน่าเศร้าสลดหดหู่แบบนี้ขึ้นมาซ้ำซ้อน พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดน่าจะ “แสดงความรับผิดชอบ” อะไรสักอย่างออกมา แทนที่จะออกมากราดเกรี้ยวใส่คนอื่นแบบนี้ด้วยซ้ำไป ทางที่ดีที่สุดต้อง “ล้างหู” น้อมรับฟังความเห็นจากภายนอกบ้าง เพราะเชื่อว่าทุกฝ่ายกำลังมีอารมณ์เดียวกัน ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาอีกเลย
00 อย่างไรก็ดีในเมื่อตัวเองมีความมั่นใจ ในระบบการตรวจสอบ การบำรุงรักษา และกราดเกรี้ยวเอากับคนที่อื่นที่ เพียงแค่สะกิดให้ได้คิดขึ้นมา ก็ได้ตั้งคำถามกลับไปว่า ทำไมขณะเดินทาง พร้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหมไปร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพนายทหารกล้าที่ประสบอุบัติเหตุดังกล่าวเมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา ถึงได้มีรายงานข่าวว่า ได้เปลี่ยนยานพาหนะจาก ฮ. มาเป็นใช้รถยนต์แทนละ พร้อมทั้งสั่งให้งดบินชั่วคราวละ ถ้าในเมื่อตัวเองมั่นใจก็ต้องสร้าง “ภาวะผู้นำ-ขึ้นบินโชว์” เพื่อเรียกขวัญกำลังใจของกำลังพลกลับมา นี่ก็แสดงให้เห็นว่าในใจตัวเองก็หวั่นไหว เมื่อหวั่นไหวมากๆมันก็ “ปรี๊ดแตก” แค่นั้นเอง ไม่มีสาระอะไร
00 ผ่านไปแล้วสำหรับ “วันมหาอุบาทว์” สำหรับคนไทยส่วนใหญ่ แต่บรรดาเหล่าสาวก “ทรราช” ที่จัดงานวันเกิดครบรอบ 62 ปี ของ ทักษิณ ชินวัตร เห็นความเคลื่อนไหวจัดงานหลายจังหวัดทั้งในภาคเหนือ อีสานหรือแม้แต่ในจังหวัดนนทบุรี ก็ยังมีความพยายามสร้างกระแส ลักษณะจึงไม่ต่างจากการสร้าง “อุปทานหมู่” สร้างภาพ ทักษิณให้ “เหนือจริง” ซึ่งนับวันจะเพิ่มดีกรีเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ แต่หากมองอีกด้านหนึ่งนาทีนี้สิ่งที่จะต้อง “ละลาย” ความรู้สึกแบบนี้ออกไป ก็ต้องให้คนพวกนี้ได้โชว์ฝีมือ ได้โชว์ความล้มเหลวออกมาให้เห็น ดังนั้นสิ่งที่กำลังตั้งตารอไม่ต่างจากพวกเสื้อแดงก็คือ อยากจะให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ขึ้นมาบริหารเร็วๆ จะได้เห็นกัน ไม่เช่นนั้นการสร้างภาพแบบ “เทวดาจอมปลอม” ก็จะคงอยู่ต่อไป จนสร้างความสั่นไหวไปทั่ว ไม่หยุดหย่อน บางครั้ง “หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง” ต้องเห็นด้วยตาจะจะ สัมผัสด้วยของจริงนั่นแหละอารมณ์มันถึงจะเปลี่ยน และตาจะได้สว่างเสียที !!
00 การออกมาวิจารณ์ของสื่อหรือใครก็ตามในกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น ว่ากันตามจริงแล้วจะว่าวิจารณ์ติติงก็ไม่เชิง ส่วนใหญ่ออกมาในลักษณะตั้ง “ข้อสังเกต” ให้ช่วยกันไปคิดกันมากกว่าทำไมถึงได้เกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันซ้ำซาก ถึงสามครั้งซ้อนในช่วงเวลาห่างกันเพียงไม่กี่วันเท่านั้น ไล่เรียงกันมาตั้งแต่ ฮ.แบบ ฮิวอี้ ตกเมื่อวันที่ 16 ก.ค.ถัดมาก็เป็น แบล็กฮอร์ค ซึ่งถือว่าเป็นอากาศยานที่มีราคาแพงและทันสมัยที่สุดชนิดหนึ่งที่ประจำการในกองทัพบก และล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ก.ค.ฮ.รุ่นเบลล์ 212 ที่มีภารกิจช่วยเหลือลำเลียงศพทหารที่ประสบเหตุ ฮ.ตกก่อนหน้านี้ก็มาประสบอุบัติเหตุซ้ำอีกในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันภายในเวลาเพียงแค่ 8 วันเท่านั้น ทำให้เราต้องสูญเสียทรัพยากรบุคคลอันมีค่าจนประมาณไม่ได้รวมกันถึง 17 คน มันเป็นไปได้อย่างไร
00 ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วเมื่อเกิดเกตุการณ์อันน่าเศร้าสลดหดหู่แบบนี้ขึ้นมาซ้ำซ้อน พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดน่าจะ “แสดงความรับผิดชอบ” อะไรสักอย่างออกมา แทนที่จะออกมากราดเกรี้ยวใส่คนอื่นแบบนี้ด้วยซ้ำไป ทางที่ดีที่สุดต้อง “ล้างหู” น้อมรับฟังความเห็นจากภายนอกบ้าง เพราะเชื่อว่าทุกฝ่ายกำลังมีอารมณ์เดียวกัน ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาอีกเลย
00 อย่างไรก็ดีในเมื่อตัวเองมีความมั่นใจ ในระบบการตรวจสอบ การบำรุงรักษา และกราดเกรี้ยวเอากับคนที่อื่นที่ เพียงแค่สะกิดให้ได้คิดขึ้นมา ก็ได้ตั้งคำถามกลับไปว่า ทำไมขณะเดินทาง พร้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหมไปร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพนายทหารกล้าที่ประสบอุบัติเหตุดังกล่าวเมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา ถึงได้มีรายงานข่าวว่า ได้เปลี่ยนยานพาหนะจาก ฮ. มาเป็นใช้รถยนต์แทนละ พร้อมทั้งสั่งให้งดบินชั่วคราวละ ถ้าในเมื่อตัวเองมั่นใจก็ต้องสร้าง “ภาวะผู้นำ-ขึ้นบินโชว์” เพื่อเรียกขวัญกำลังใจของกำลังพลกลับมา นี่ก็แสดงให้เห็นว่าในใจตัวเองก็หวั่นไหว เมื่อหวั่นไหวมากๆมันก็ “ปรี๊ดแตก” แค่นั้นเอง ไม่มีสาระอะไร
00 ผ่านไปแล้วสำหรับ “วันมหาอุบาทว์” สำหรับคนไทยส่วนใหญ่ แต่บรรดาเหล่าสาวก “ทรราช” ที่จัดงานวันเกิดครบรอบ 62 ปี ของ ทักษิณ ชินวัตร เห็นความเคลื่อนไหวจัดงานหลายจังหวัดทั้งในภาคเหนือ อีสานหรือแม้แต่ในจังหวัดนนทบุรี ก็ยังมีความพยายามสร้างกระแส ลักษณะจึงไม่ต่างจากการสร้าง “อุปทานหมู่” สร้างภาพ ทักษิณให้ “เหนือจริง” ซึ่งนับวันจะเพิ่มดีกรีเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ แต่หากมองอีกด้านหนึ่งนาทีนี้สิ่งที่จะต้อง “ละลาย” ความรู้สึกแบบนี้ออกไป ก็ต้องให้คนพวกนี้ได้โชว์ฝีมือ ได้โชว์ความล้มเหลวออกมาให้เห็น ดังนั้นสิ่งที่กำลังตั้งตารอไม่ต่างจากพวกเสื้อแดงก็คือ อยากจะให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ขึ้นมาบริหารเร็วๆ จะได้เห็นกัน ไม่เช่นนั้นการสร้างภาพแบบ “เทวดาจอมปลอม” ก็จะคงอยู่ต่อไป จนสร้างความสั่นไหวไปทั่ว ไม่หยุดหย่อน บางครั้ง “หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง” ต้องเห็นด้วยตาจะจะ สัมผัสด้วยของจริงนั่นแหละอารมณ์มันถึงจะเปลี่ยน และตาจะได้สว่างเสียที !!
