ศูนย์ข่าวขอนแก่น-ครึ่งปี พบนักลงทุนยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนในภาคอีสานตอนบนกว่า 21 โครงการ วงเงินลงทุนกว่า 3.6 พันล้านบาท จ้างงานเกือบ 3 พันคน เผยอุตสาหกรรมเกษตรยังมาแรง มียอดขอรับส่งเสริมกว่า 9 โครงการ คาดแนวโน้มครึ่งปีหลังยังคงขยายตัว
นางสาวรัตนวิมล นารี ศุกรีเขตร ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 3 จังหวัดขอนแก่น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ )ขอนแก่น รับผิดชอบ 12 จังหวัดภาคอีสานตอนบน ประกอบด้วย จังหวัดขอนแก่น อุดรธานี หนองคาย เลย สกลนคร นครพนม มหาสารคาม กาฬสินธุ์ หนองบัวลำภู ร้อยเอ็ด มุกดาหาร และ บึงกาฬ เปิดเผยถึงภาวะส่งเสริมการลงทุนภาคอีสานตอนบน ช่วงครึ่งแรกปี 2554 ว่า ภาวะส่งเสริมการลงทุนเดือนม.ค.-มิ.ย.2554 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2553 การลงทุนถือว่ามีการขยายตัว โดยจำนวนโครงการ มีบริษัทยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
ทั้งนี้ มีโครงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุน 21 โครงการ คิดเป็นเงินลงทุน 3,608.2 ล้านบาท เกิดการจ้างงาน 2,869 คน โดยจำนวนโครงการและการจ้างงานเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปี 53 ที่มีโครงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุน 10 โครงการ เงินลงทุน 2,477.3 ล้านบาท และจ้างงาน 859 คน
นางสาวรัตนวิมล กล่าวต่อว่า กิจการที่นักลงทุนยื่นคำขอรับส่งเสริมการลงทุนช่วงครึ่งปีแรกของปี 2554 ส่วนใหญ่เป็นกิจการด้านเกษตรกรรมและผลิตผลทางการเกษตร จำนวน 9 โครงการ รองลงมาคือ อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง 5 โครงการ อุตสาหกรรมเบา 3 โครงการ อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ กระดาษและพลาสติก 2 โครงการ และกิจการบริการและสาธารณูปโภค และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า อย่างละ 1 โครงการ
กิจการด้านเกษตรกรรมและผลิตผลทางการเกษตร ที่ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนส่วนใหญ่ อยู่ในกลุ่มกิจการยางพารา ซึ่งต้องจ้างงานจำนวนมาก ส่งผลยอดเงินลงทุน และการจ้างงานในช่วงครึ่งปีแรกปีนี้เพิ่มขึ้น โดยบริษัทที่ยื่นคำขอส่วนใหญ่เป็นโครงการขนาดกลางและขนาดย่อม
ส่วนโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนช่วงครึ่งปีแรกของปี 2554 มีจำนวน 28 โครงการ โดยเป็นการลงทุนในกิจการเกษตรกรรมและผลิตผลทางการเกษตร 9 โครงการ รองลงมา คือกิจการบริการ 7 โครงการ อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์โลหะเครื่องจักร และอุปกรณ์ขนส่ง 5 โครงการ อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ กระดาษและพลาสติก 4 โครงการและ อุตสาหกรรมเบา และสาธารณูปโภค อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า อย่างละ 1 โครงการ
ที่สำคัญ มีโครงการที่เปิดดำเนินการในช่วงครึ่งปีแรก ปี 2554 ทั้งสิ้น 3 โครงการ ประกอบด้วย บริษัท บางกอกโซลาร์ พาวเวอร์ จำกัด จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นกิจการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ เงินลงทุน 80.4 ล้าน เกิดการจ้างแรงงาน 71 คน บริษัท พี แอนด์ ปภพ รีนิวเอเบิล จำกัด จ.กาฬสินธุ์ กิจการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ เงินลงทุน 125.1 ล้านบาท เกิดการจ้างแรงงาน 11 คน และบริษัท ซอฟต์เทค จำกัด จ.ขอนแก่น กิจการซอฟต์แวร์ เงินลงทุน 6.6 ล้านบาท ก่อให้เกิดการจ้างแรงงาน 27 คน
ผู้อำนวยการบีโอไอขอนแก่น กล่าวถึงแนวโน้มการลงทุนครึ่งหลังปี 2554 คาดการณ์ว่า จะยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน ซึ่งกิจการที่นักลงทุนให้ความสนใจ คือ กิจการยางพารา กิจการพลังงานทดแทน และกิจการอาหารแปรรูป วัดจากความสนใจของนักลงทุน อีกทั้งช่วงที่ผ่านมาบีโอไอขอนแก่น ได้จัดกิจกรรมเพิ่มศักยภาพนักลงทุนและกิจกรรมสัมมนา ให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง มีผู้ให้ความสนใจเป็นอย่างดี