ศูนย์ข่าวขอนแก่น-ภาวะส่งเสริมการลงทุน 11 จังหวัดอีสานบนปี 53 พุ่งบีโอไออนุมัติ 43 โครงการ วงเงินลงทุน 12,908 ล้านบาท เผยอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนนำโด่งกว่า 16 โครงการ มูลค่าเงินลงทุกว่า 9,092.80 ล้านบาท เหตุศักยภาพพื้นที่ภาคอีสานเหมาะสม คาดแนวโน้มการลงทุนปีกระต่ายยังทรงตัว เร่งจัดกิจกรรมเชิงรุกกระตุ้นการลงทุนให้คึกคัก
นางสาวรัตนวิมล นารี ศุกรีเขตร ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 3 จังหวัดขอนแก่น (บีโอไอ ขอนแก่น) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เปิดเผยถึงภาพรวมส่งเสริมการลงทุนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 11 จังหวัดว่า นักลงทุนในพื้นที่และต่างถิ่นยังคงให้ความสนใจยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุน โดยมีโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนทั้งสิ้น 43 โครงการ วงเงินลงทุนรวมกว่า 12,908 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นโครงการขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งจำนวนโครงการและวงเงินลงทุนปี 2553ปรับเพิ่มขึ้นถึง 95.45% เมื่อเทียบกับยอดอนุมัติส่งเสริมการลงทุนในปี 2552 ที่มียอดส่งเสริม 22 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 3,189.1 ล้านบาท
อุตสาหกรรมพลังงานทดแทน ยังเป็นอุตสาหกรรมที่นักลงทุนให้ความสนใจยื่นขอและได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนมากที่สุด ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยมีจำนวนโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุน 16 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 9,092.80 ล้านบาท จำนวนโครงการเพิ่มขึ้น 56.25% และเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 79.01% เมื่อเทียบกับปี 2552 ที่มีจำนวน 7 โครงการ และมูลค่าเงินลงทุน 1,909 ล้านบาท
ผู้อำนวยการบีโอไอ ขอนแก่น กล่าวต่อว่า โครงการลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนที่น่าสนใจคือ การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ มีโครงการลงทุนอยู่ในหลายจังหวัดอีสานตอนบน เนื่องจากศักยภาพพื้นที่จังหวัดอีสานตอนบน สามารถรับแสงอาทิตย์ได้ดี เหมาะต่อการลงทุนผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์
ที่น่าสนใจ คือ กิจการผลิตซอฟต์แวร์ ได้รับความสนใจและมียอดอนุมัติส่งเสริมลงทุนเป็นอันดับ 2 โดยมีจำนวนถึง 9 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 29.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วทั้งจำนวนเงินลงทุน การจ้างงาน กิจการส่วนใหญ่ที่ได้รับอนุมัติจะตั้งกิจการอยู่ในจ.ขอนแก่น เนื่องจากมีหน่วยงานที่สนับสนุนอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ตั้งอยู่หลายแห่ง ทั้งซิป้าขอนแก่น และบีโอไอ ขอนแก่น ทำให้ผู้ประกอบการผลิตซอฟต์แวร์ได้รับความสะดวกทราบผลอนุมัติใน 3 วัน
สำหรับจังหวัดที่โครงการได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนมากที่สุดคือ จ.ขอนแก่น มีโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจากเดิมปี 2552 จำนวน 10 โครงการ เพิ่มเป็น 23 โครงการในปี 2553 หรือเพิ่มกว่า 56.52% ขณะที่มูลค่าเงินลงทุนเดิมปี 2552 มี 1,317.3 ล้านบาท เป็น 4,158.3 ล้านบาท หรือเพิ่มกว่า 68.32% กิจการส่วนใหญ่ที่ลงทุน ได้แก่ กิจการผลิตซอฟต์แวร์ กิจการผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล กิจการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ กิจการผลิตรถยนต์ใช้ก๊าซNGV
รองลงมา คือ จ.อุดรธานี มีโครงการที่ได้รับอนุมัติปี 2553 จำนวน 6 โครงการ เพิ่มขึ้น 66.66% มูลค่าเงินลงทุน 1,790 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 85.20% โดยกิจการที่ได้รับอนุมัติคือ กิจการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ และกิจการผลิตยางแท่ง ยางผสม ส่วนจ.กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด มีโครงการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนเท่ากันในปี 2553 จำนวน 4 โครงการ
นางสาวรัตนวิมล กล่าวถึงแนวโน้มภาวะส่งเสริมการลงทุนปี 2554 ในพื้นที่ 11 จังหวัดอีสานตอนบนว่า คาดว่าจะยังอยู่ในอัตราที่ทรงตัว ยอดขอรับส่งเสริมใกล้เคียงกับปี 2553 โดยบีโอไอ ขอนแก่น จะจัดกิจกรรมชักจูงการลงทุนในเชิงรุกในปี 2554 มากขึ้น เพื่อกระตุ้นการลงทุน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมดาวเด่น ได้แก่ อุตสาหกรรมเกษตรและอาหารแปรรูป พลังงานทดแทน ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซอฟต์แวร์