ASTVผู้จัดการรายวัน – บ้านปูฟุ้งครึ่งปีหลังการผลิตและราคาถ่านหินพุ่งกว่า 6 เดือนแรกของปี2554 คาดว่าทั้งปีราคาถ่านหินเฉียด 100 เหรียญสหรัฐ/ตัน คาดว่าทั้งปีมีกำไรจากการดำเนินงานสูงกว่า9 พันล้านบาทดีกว่าปีก่อน ยอมรับครึ่งปีหลังนี้ไม่มีแผนซื้อกิจการเหมืองในต่างประเทศเพิ่ม เนื่องจากมีคู่แข่งหันมาซื้อเหมืองในอินโดฯมากขึ้น
นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) (BANPU) เปิดเผยว่า แนวโน้มการผลิตถ่านหินในครึ่งปีหลังนี้จะดีกว่าช่วงครึ่งแรกของปี 2554 เนื่องจากกำลังการผลิตถ่านหินในอินโดนีเซีย ออสเตรเลียและจีนดีขึ้น จากช่วงไตรมาส 2 ที่ประสบปัญหาฝนทำให้การผลิตลดลง ขณะที่ราคาถ่านหินในครึ่งปีหลังนี้ก็ปรับตัวสูงขึ้นเกินกว่า 100 เหรียญสหรัฐ/ตันจากปัจจุบันราคาถ่านหินตลาดจร (Spot) อยู่ที่ 120 เหรียญสหรัฐ/ตัน ดีกว่าช่วง 6 เดือนแรกของปีที่ราคาเฉลี่ย 90 เหรียญสหรัฐ/ตัน คาดทั้งปีราคาถ่านหินอยู่ที่ใกล้ 100 เหรียญสหรัฐ/ตัน
บริษัทฯได้ล็อกราคาขายถ่านหินปีนี้ไปแล้ว 90% คงเหลือเพียง 10%ที่จะขายในราคาตลาดจรทั้งนี้ บริษัทฯคาดว่าปริมาณการผลิตถ่านหินของบ้านปูจะต่ำกว่าเป้าหมายเดิมเล็กน้อยอยู่ที่ระดับ 41 กว่าล้านตัน จากเดิมที่คาดว่าทั้งปี 2554 จะผลิตได้ 42 ล้านตัน แบ่งเป็นการผลิตถ่านหินในอินโดนีเซีย ต่ำกว่าเป้าหมายเดิมเล็กน้อยจากที่ตั้งไว้ 25 ล้านตัน คาดว่าผลิตได้จริงประมาณ 24 กว่าล้านตัน ส่วนการผลิตถ่านหินที่เหมืองในออสเตรเลียน่าจะอยู่ที่ 15.5ล้านตันจากเป้าหมายเดิม 15-16 ล้านตัน ส่วนเหมืองถ่านหินที่จีนปัจจุบันเหลือเพียง 2 เหมือง คือเหมืองเฮ้อปี้ จะผลิตได้ตามเป้าหมาย 1.5 ล้านตัน ส่วนเหมืองเกาเหอ ในปีนี้คาดว่าจะผลิตได้เพียง 7.5 แสนตัน/ปี และปีหน้าเหมืองเกาเหอน่าจะผลิตได้ 3 ล้านตัน/ปี
นายชนินท์ กล่าวถึงความคืบหน้าการซื้อกิจการ(M&A)เหมืองในต่างประเทศว่า ขณะนี้การซื้อกิจการเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซียทำได้ยากขึ้นมาก เนื่องจากมีนักลงทุนสนใจเข้ามาซื้อมากขึ้น อาทิ ผู้ประกอบการเหล็กของอินเดียได้หันมาซื้อเหมืองถ่านหินที่อินโดนีเซีย ดังนั้นเชื่อว่าครึ่งปีหลังคงไม่เห็นการซื้อกิจการเหมืองถ่านหินของบ้านปูในอินโดนีเซีย
แต่จะหันมาเพิ่มกำลังการผลิตโดยติดตั้งเครื่องจักรเพิ่มขึ้นส่วนออสเตรเลียคงไม่มีการซื้อเหมืองเพิ่มอีก แต่เน้นการผลิตที่Centennial Coalมากขึ้น สำหรับเหมืองถ่านหินที่มองโกเลีย ก็จะพิจารณาเหมืองถ่านหินอื่นๆเพิ่มเติม
ผลการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯมีกำไรสุทธิต่ำกว่าปีก่อนที่มีกำไรสูงถึง 2.4 หมื่นล้านบาท เนื่องจากปีก่อน บ้านปูมีรายได้พิเศษจากการขายหุ้นบมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีและITMG คิดเป็นมูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท และมีกำไรจากการดำเนินงานเพียง 9 พันกว่าล้านบาท
นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) (BANPU) เปิดเผยว่า แนวโน้มการผลิตถ่านหินในครึ่งปีหลังนี้จะดีกว่าช่วงครึ่งแรกของปี 2554 เนื่องจากกำลังการผลิตถ่านหินในอินโดนีเซีย ออสเตรเลียและจีนดีขึ้น จากช่วงไตรมาส 2 ที่ประสบปัญหาฝนทำให้การผลิตลดลง ขณะที่ราคาถ่านหินในครึ่งปีหลังนี้ก็ปรับตัวสูงขึ้นเกินกว่า 100 เหรียญสหรัฐ/ตันจากปัจจุบันราคาถ่านหินตลาดจร (Spot) อยู่ที่ 120 เหรียญสหรัฐ/ตัน ดีกว่าช่วง 6 เดือนแรกของปีที่ราคาเฉลี่ย 90 เหรียญสหรัฐ/ตัน คาดทั้งปีราคาถ่านหินอยู่ที่ใกล้ 100 เหรียญสหรัฐ/ตัน
บริษัทฯได้ล็อกราคาขายถ่านหินปีนี้ไปแล้ว 90% คงเหลือเพียง 10%ที่จะขายในราคาตลาดจรทั้งนี้ บริษัทฯคาดว่าปริมาณการผลิตถ่านหินของบ้านปูจะต่ำกว่าเป้าหมายเดิมเล็กน้อยอยู่ที่ระดับ 41 กว่าล้านตัน จากเดิมที่คาดว่าทั้งปี 2554 จะผลิตได้ 42 ล้านตัน แบ่งเป็นการผลิตถ่านหินในอินโดนีเซีย ต่ำกว่าเป้าหมายเดิมเล็กน้อยจากที่ตั้งไว้ 25 ล้านตัน คาดว่าผลิตได้จริงประมาณ 24 กว่าล้านตัน ส่วนการผลิตถ่านหินที่เหมืองในออสเตรเลียน่าจะอยู่ที่ 15.5ล้านตันจากเป้าหมายเดิม 15-16 ล้านตัน ส่วนเหมืองถ่านหินที่จีนปัจจุบันเหลือเพียง 2 เหมือง คือเหมืองเฮ้อปี้ จะผลิตได้ตามเป้าหมาย 1.5 ล้านตัน ส่วนเหมืองเกาเหอ ในปีนี้คาดว่าจะผลิตได้เพียง 7.5 แสนตัน/ปี และปีหน้าเหมืองเกาเหอน่าจะผลิตได้ 3 ล้านตัน/ปี
นายชนินท์ กล่าวถึงความคืบหน้าการซื้อกิจการ(M&A)เหมืองในต่างประเทศว่า ขณะนี้การซื้อกิจการเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซียทำได้ยากขึ้นมาก เนื่องจากมีนักลงทุนสนใจเข้ามาซื้อมากขึ้น อาทิ ผู้ประกอบการเหล็กของอินเดียได้หันมาซื้อเหมืองถ่านหินที่อินโดนีเซีย ดังนั้นเชื่อว่าครึ่งปีหลังคงไม่เห็นการซื้อกิจการเหมืองถ่านหินของบ้านปูในอินโดนีเซีย
แต่จะหันมาเพิ่มกำลังการผลิตโดยติดตั้งเครื่องจักรเพิ่มขึ้นส่วนออสเตรเลียคงไม่มีการซื้อเหมืองเพิ่มอีก แต่เน้นการผลิตที่Centennial Coalมากขึ้น สำหรับเหมืองถ่านหินที่มองโกเลีย ก็จะพิจารณาเหมืองถ่านหินอื่นๆเพิ่มเติม
ผลการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯมีกำไรสุทธิต่ำกว่าปีก่อนที่มีกำไรสูงถึง 2.4 หมื่นล้านบาท เนื่องจากปีก่อน บ้านปูมีรายได้พิเศษจากการขายหุ้นบมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีและITMG คิดเป็นมูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท และมีกำไรจากการดำเนินงานเพียง 9 พันกว่าล้านบาท