เอเอฟพี - หน่วยกู้ภัยนิวซีแลนด์เข้าไปภายในเหมืองถ่านหิน ไปค์ ริเวอร์ ได้เป็นครั้งแรกวันนี้(28) หลังเกิดการระเบิดภายในเหมืองติดต่อกันหลายครั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว จนทำให้คนงานเหมือง 29 รายเสียชีวิตทั้งหมด เจ้าหน้าที่เผย
ทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยเหมือง 6 คนเข้าไปในอุโมงค์ใต้ดิน ซึ่งถูกปิดตายมาตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายนปีที่แล้วหลังเกิดเหตุระเบิดภายในเหมือง นับเป็นโศกนาฎกรรมเกี่ยวกับการทำเหมืองครั้งร้ายแรงที่สุดของนิวซีแลนด์ในรอบศตวรรษ โทนี ค็อกชูร์น นายกเทศมนตรีเขตเกรย์ เผย
“นี่คือความคืบหน้าครั้งสำคัญ เพราะเราและครอบครัวของคนงานรอคอยมานานถึง 7 เดือน ซึ่งเป็น 7 เดือนที่ยากลำบากยิ่ง” ค็อกชูร์น ให้สัมภาษณ์กับสมาคมสื่อมวลชนนิวซีแลนด์
ศพของคนงาน 29 รายยังติดอยู่ในเหมืองลึกลงไปราว 2.5 กิโลเมตร ซึ่งครอบครัวผู้ตายร้องขอให้ทางการเร่งนำศพขึ้นมาประกอบพิธีทางศาสนาอย่างถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ปริมาณก๊าซมีเทนภายในเหมืองซึ่งทำให้เกิดการระเบิดเมื่อปีที่แล้ว ยังสูงเกินระดับปลอดภัย
แม้ทีมกู้ภัยเหมืองจะลงไปตรวจสอบที่ความลึกเพียง 200 เมตรในเบื้องต้น ทว่าก็ทำให้ทุกคนมีหวังว่าร่างของคนงาน 29 คนจะถูกนำกลับขึ้นมาได้ในที่สุด ค็อกชูร์น กล่าว
“ในที่สุดเราก็เริ่มเข้าไปในเหมืองได้ และเราจะไม่หยุดภารกิจนี้จนกว่าจะนำคนงานเหล่านั้นกลับคืนสู่ครอบครัวของพวกเขา เมื่อนั้นจึงจะถือว่าเสร็จสิ้นสมบูรณ์”
เบอร์นี มังก์ ซึ่งสูญเสียบุตรชาย ไมเคิล ไปกับอุบัติเหตุครั้งนี้กล่าวว่า ครอบครัวของเหยื่อทุกรายเข้าใจดีว่าการกู้ศพต้องใช้เวลานานพอสมควร โดยอาจจะนานถึง 2 ปี เนื่องจากเจ้าหน้าที่กำลังขุดอุโมงค์แห่งใหม่
เดือนหน้าคณะกรรมาธิการสืบสวน (Royal Commission) จะทำการไต่สวนอุบัติเหตุที่เหมือง ไปค์ ริเวอร์ ซึ่งทำให้มีคนงานเสียชีวิตรวม 29 คน โดยเป็นชาวนิวซีแลนด์ 24 คน, ชาวออสเตรเลีย 2 คน, ชาวอังกฤษ 2 คน และชาวแอฟริกาใต้อีก 1 คน