ASTVผู้จัดการรายวัน-ผบช.ภ.3 ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาด้านศรีสะเกษ ยันสถานการณ์ยังปกติ เผยตำรวจภาค 3 พร้อมรับไม้ต่อจากทหารในการเข้าดูแลประชาชนตามแนวชายแดนด้าน“เขาพระวิหาร”ทันที และพร้อมระดมกำลังปฏิบัติหน้าที่ชายแดนอย่างเต็มที่ เผยขึ้น “ผามออีแดง”ดูที่ตั้งปืนใหญ่ทหารเขมรบนเขาวิหาร ด้าน "ศรีสะเกษ"ซ้อมแผนอพยพ ปชช.หนีตายสู้รบ พบเขมรย้ายเด็ก-ผู้หญิงลงจาก“เขาวิหาร”
วานนี้(20 ก.ค.)เวลา 12.15 น.ที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 224 พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผู้บัญชาการตำรวจภาค 3(ผบช.ภ.3)ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มาตรวจติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หลังจากศาลโลกได้มีคำวินิจฉัยออกมาตรการคุ้มครองชั่วคราว ในคดีตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารปี 2505 ให้ประเทศไทยและกัมพูชาถอนกำลังทหารออกจากบริเวณเขาพระวิหาร
โดยผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 และคณะ ได้ไปรับฟังข้อมูลสถานการณ์เบื้องต้นที่หอประชุมหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ ซึ่ง พ.อ.วุฒิ แสงจักร รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2)ได้รายงานสถานการณ์บริเวณเขาพระวิหารให้ทราบ และมี พล.ต.ต.เสริมสุข วีรวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ. ศรีสะเกษ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผกก.สภ. กันทรลักษ์ และคณะ ให้การต้อนรับ
พล.ต.ท.เดชาวัต กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์บริเวณเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา เหตุการณ์ยังคงปกติ และสำหรับการปฏิบัติตามมติของศาลโลกที่ให้ทหารไทยและทหารกัมพูชาถอนกำลังออกจากบริเวณเขาพระวิหารนั้น ตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมที่จะรับหน้าที่ในการส่งเสริมสนับสนุนการปฏิบัติงานของทหารในการเข้าไปดูแลรักษาความปลอดภัยของประชาชนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาด้าน จ.ศรีสะเกษ ซึ่งอยู่ใกล้เขาพระวิหาร ซึ่งในการดำเนินการรับช่วงต่อจากทหาร ทางตำรวจภูธรภาค 3 มีกำลังพลและมีความพร้อมที่จะเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ โดยพร้อมที่จะระดมกำลังตำรวจในเขตตำรวจภูธรภาค 3 มาปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ศรีสะเกษ อย่างเต็มที่
" ส่วนกรณีที่อาจมีมือที่ 3 หรือกองกำลังต่างชาติเข้ามาก่อเหตุร้ายตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหารในขณะนี้นั้น ทั้งตำรวจและทหารที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ได้เฝ้าติดตามดูความเคลื่อนไหวอย่างเข้มงวดที่อยู่แล้ว"
จากนั้นเวลา 14.00 น.พล.ต.ท.เดชาวัต พร้อมด้วย พล.ต.ต.เสริมสุข และ พ.ต.อ.สมพจน์ ได้นำคณะขึ้นไปตรวจสถานการณ์ชายแดนเขาพระวิหารบริเวณผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ โดยมี พ.อ.วุฒิ แสงจักร รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี นำคณะนายทหารให้การต้อนรับและรายงานให้ทราบถึงสถานการณ์บริเวณเขาพระวิหาร ซึ่ง ผบช.ภ.3 ได้ตรวจสอบดูที่ตั้งปืนใหญ่ของกัมพูชาที่ตั้งอยู่บนเขาพระวิหาร และหันปากกระบอกปืนมาทางเขตแดนไทย บรรยากาศโดยรวมบริเวณเขาพระวิหารยังคงปกติ ทหารไทยและทหารกัมพูชาปฏิบัติหน้าที่อยู่ในที่ตั้งของแต่ละฝ่ายตามปกติ
พล.ต.ท.เดชาวัต กล่าวอีกว่า ตนมาตรวจติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บริเวณเขาพระวิหารแห่งนี้และได้ตรวจดูที่ตั้งปืนใหญ่ของกัมพูชาที่อยู่บนเขาพระวิหาร ซึ่งสถานการณ์บริเวณเขาพระวิหารยังคงอยู่ในสภาพที่ปกติ ไม่มีการเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชา ทั้งนี้หากรัฐบาลและกองทัพบกสั่งให้ทหารไทยถอนกำลังออกจากบริเวณเขาพระวิหาร ตำรวจภูธรภาค 3 ก็พร้อมที่จะเข้าไปสนับสนุนการปฏิบัติงานของทหารทันทีและขณะนี้ได้มีการเตรียมความพร้อมทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว
**ศรีสะเกษซ้อมแผนอพยพ ปชช.หนีตายสู้รบ
วันเดียวกันเวลา 09.00 น.ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายวินัย สิทธิมณฑล รองผู้ว่าราชการ จ.ศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในสภาวะไม่ปกติ พ.ศ.2554 (การพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง) จ.ศรีสะเกษ การฝึกซ้อมในครั้งนี้มีส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้บริหารสถานศึกษา รวมทั้งผู้นำชุมชนที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน เขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ เข้าร่วมฝึกซ้อมโดยมี นายเพิ่มศักดิ์ ฉวีรักษ์ นายอำเภอกันทรลักษ์ เป็นผู้กล่าวรายงาน และให้การต้อนรับ
การฝึกอบรมเป็นการจำลองสถานการณ์ว่า เกิดเหตุการณ์ปะทะกันขึ้นระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาและฝ่ายกัมพูชายิงปืนใหญ่มีกระสุนเข้ามาตกในหมู่บ้านของไทย หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องจึงได้ร่วมกันอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อให้ไปอยู่ตามศูนย์อพยพต่างๆ ที่ได้จัดเตรียมไว้
นายวินัย กล่าวว่า การฝึกซ้อมครั้งนี้เพื่อเป็นการซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับแผนปฏิบัติการอพยพชาวบ้านเมื่อเกิดการสู้รบกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาที่บริเวณเขาพระวิหาร ทั้งการฝึกซ้อมบนโต๊ะ และการฝึกซ้อมเฉพาะหน้าที่ โดยเน้นการซักซ้อมเกี่ยวกับการอพยพประชาชน การสื่อสาร รวมทั้งการให้การช่วยเหลือประชาชนที่มาอาศัยอยู่ในศูนย์อพยพที่ทางราชการจัดไว้ เพื่อให้ผู้ปฏิบัติทุกคนได้มีความพร้อมในการปฏิบัติจริงเมื่อเกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ขึ้นมา
ขณะเดียวกัน ได้รับรายงานว่ามีการเคลื่อนไหวที่บริเวณเขาพระวิหาร โดยขณะนี้ทางฝ่ายกัมพูชาได้มีการอพยพเอาผู้หญิงและเด็กลงไปจากเขาพระวิหารเป็นบางส่วนแล้ว ซึ่งคาดว่าฝ่ายกัมพูชาอพยพชาวบ้านลงไปจากเขาพระวิหารครั้งนี้ อาจเป็นการดำเนินการตามมาตรการคุ้มครองชั่วคราวของศาลระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ในคดีตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร ปี 2505 หรือเป็นการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์บางอย่างที่อาจเกิดขึ้น.
วานนี้(20 ก.ค.)เวลา 12.15 น.ที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 224 พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผู้บัญชาการตำรวจภาค 3(ผบช.ภ.3)ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มาตรวจติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หลังจากศาลโลกได้มีคำวินิจฉัยออกมาตรการคุ้มครองชั่วคราว ในคดีตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารปี 2505 ให้ประเทศไทยและกัมพูชาถอนกำลังทหารออกจากบริเวณเขาพระวิหาร
โดยผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 และคณะ ได้ไปรับฟังข้อมูลสถานการณ์เบื้องต้นที่หอประชุมหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ ซึ่ง พ.อ.วุฒิ แสงจักร รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2)ได้รายงานสถานการณ์บริเวณเขาพระวิหารให้ทราบ และมี พล.ต.ต.เสริมสุข วีรวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ. ศรีสะเกษ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผกก.สภ. กันทรลักษ์ และคณะ ให้การต้อนรับ
พล.ต.ท.เดชาวัต กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์บริเวณเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา เหตุการณ์ยังคงปกติ และสำหรับการปฏิบัติตามมติของศาลโลกที่ให้ทหารไทยและทหารกัมพูชาถอนกำลังออกจากบริเวณเขาพระวิหารนั้น ตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมที่จะรับหน้าที่ในการส่งเสริมสนับสนุนการปฏิบัติงานของทหารในการเข้าไปดูแลรักษาความปลอดภัยของประชาชนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาด้าน จ.ศรีสะเกษ ซึ่งอยู่ใกล้เขาพระวิหาร ซึ่งในการดำเนินการรับช่วงต่อจากทหาร ทางตำรวจภูธรภาค 3 มีกำลังพลและมีความพร้อมที่จะเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ โดยพร้อมที่จะระดมกำลังตำรวจในเขตตำรวจภูธรภาค 3 มาปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ศรีสะเกษ อย่างเต็มที่
" ส่วนกรณีที่อาจมีมือที่ 3 หรือกองกำลังต่างชาติเข้ามาก่อเหตุร้ายตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหารในขณะนี้นั้น ทั้งตำรวจและทหารที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ได้เฝ้าติดตามดูความเคลื่อนไหวอย่างเข้มงวดที่อยู่แล้ว"
จากนั้นเวลา 14.00 น.พล.ต.ท.เดชาวัต พร้อมด้วย พล.ต.ต.เสริมสุข และ พ.ต.อ.สมพจน์ ได้นำคณะขึ้นไปตรวจสถานการณ์ชายแดนเขาพระวิหารบริเวณผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ โดยมี พ.อ.วุฒิ แสงจักร รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี นำคณะนายทหารให้การต้อนรับและรายงานให้ทราบถึงสถานการณ์บริเวณเขาพระวิหาร ซึ่ง ผบช.ภ.3 ได้ตรวจสอบดูที่ตั้งปืนใหญ่ของกัมพูชาที่ตั้งอยู่บนเขาพระวิหาร และหันปากกระบอกปืนมาทางเขตแดนไทย บรรยากาศโดยรวมบริเวณเขาพระวิหารยังคงปกติ ทหารไทยและทหารกัมพูชาปฏิบัติหน้าที่อยู่ในที่ตั้งของแต่ละฝ่ายตามปกติ
พล.ต.ท.เดชาวัต กล่าวอีกว่า ตนมาตรวจติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บริเวณเขาพระวิหารแห่งนี้และได้ตรวจดูที่ตั้งปืนใหญ่ของกัมพูชาที่อยู่บนเขาพระวิหาร ซึ่งสถานการณ์บริเวณเขาพระวิหารยังคงอยู่ในสภาพที่ปกติ ไม่มีการเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชา ทั้งนี้หากรัฐบาลและกองทัพบกสั่งให้ทหารไทยถอนกำลังออกจากบริเวณเขาพระวิหาร ตำรวจภูธรภาค 3 ก็พร้อมที่จะเข้าไปสนับสนุนการปฏิบัติงานของทหารทันทีและขณะนี้ได้มีการเตรียมความพร้อมทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว
**ศรีสะเกษซ้อมแผนอพยพ ปชช.หนีตายสู้รบ
วันเดียวกันเวลา 09.00 น.ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายวินัย สิทธิมณฑล รองผู้ว่าราชการ จ.ศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในสภาวะไม่ปกติ พ.ศ.2554 (การพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง) จ.ศรีสะเกษ การฝึกซ้อมในครั้งนี้มีส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้บริหารสถานศึกษา รวมทั้งผู้นำชุมชนที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน เขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ เข้าร่วมฝึกซ้อมโดยมี นายเพิ่มศักดิ์ ฉวีรักษ์ นายอำเภอกันทรลักษ์ เป็นผู้กล่าวรายงาน และให้การต้อนรับ
การฝึกอบรมเป็นการจำลองสถานการณ์ว่า เกิดเหตุการณ์ปะทะกันขึ้นระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาและฝ่ายกัมพูชายิงปืนใหญ่มีกระสุนเข้ามาตกในหมู่บ้านของไทย หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องจึงได้ร่วมกันอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อให้ไปอยู่ตามศูนย์อพยพต่างๆ ที่ได้จัดเตรียมไว้
นายวินัย กล่าวว่า การฝึกซ้อมครั้งนี้เพื่อเป็นการซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับแผนปฏิบัติการอพยพชาวบ้านเมื่อเกิดการสู้รบกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาที่บริเวณเขาพระวิหาร ทั้งการฝึกซ้อมบนโต๊ะ และการฝึกซ้อมเฉพาะหน้าที่ โดยเน้นการซักซ้อมเกี่ยวกับการอพยพประชาชน การสื่อสาร รวมทั้งการให้การช่วยเหลือประชาชนที่มาอาศัยอยู่ในศูนย์อพยพที่ทางราชการจัดไว้ เพื่อให้ผู้ปฏิบัติทุกคนได้มีความพร้อมในการปฏิบัติจริงเมื่อเกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ขึ้นมา
ขณะเดียวกัน ได้รับรายงานว่ามีการเคลื่อนไหวที่บริเวณเขาพระวิหาร โดยขณะนี้ทางฝ่ายกัมพูชาได้มีการอพยพเอาผู้หญิงและเด็กลงไปจากเขาพระวิหารเป็นบางส่วนแล้ว ซึ่งคาดว่าฝ่ายกัมพูชาอพยพชาวบ้านลงไปจากเขาพระวิหารครั้งนี้ อาจเป็นการดำเนินการตามมาตรการคุ้มครองชั่วคราวของศาลระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ในคดีตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร ปี 2505 หรือเป็นการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์บางอย่างที่อาจเกิดขึ้น.