ASTVผู้จัดการรายวัน-เว็บไซต์โกลบอลไฟร์พาวเวอร์ เผย ผลจัดอันดับกองทัพโลก ปี 2554 เผยกองทัพไทย ติดโผ อันดับที่ 19 นำ “มาเลย์-สิงคโปร์” ส่วนมหาาอำนาจ สหรัฐ-รัสเซีย-จีน ยังยิ่งใหญ่ค้ำฟ้า
เว็บไซต์โกลบอลไฟร์พาวเวอร์ ดอท คอม (Globalfirepower.com) ได้เปิดเผยผลการจัดอันดับความแข็งแกร่งทางทหารประจำปี 2554 ของประเทศต่างๆทั่วโลกจำนวน 55 อันดับโดยพบว่าประเทศไทยถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 19 ซึ่งดีขึ้นจากปี2553ที่อยู่ในอันดับที่ 28 และหากจัดกลุ่มเฉพาะประเทศในภูมิภาคเอเชีย ไทยจะอยู่อันดับที่ 8 โดยมี จีน เป็นอันดับ 1 ตามมาด้วย อินเดีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อิหร่าน ไต้หวัน และอินโดนีเซีย
ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านไทยอย่าง มาเลเซียอยู่อันดับที่ 27 และสิงคโปร์ อยู่อันดับที่ 41 โดยรายชื่อประเทศที่ถูกจัดอันดับไม่มีชื่อของประเทศพม่า ลาว และกัมพูชา ซึ่งมีแนวชายแดนติดกับไทยแต่อย่างใด
สำหรับประเทศที่มีความแข็งแกร่งมากที่สุด 10 อันดับแรกของโลกประกอบด้วย 1.สหรัฐอเมริกา 2.รัสเซีย 3.จีน 4.อินเดีย 5.สหราชอาณาจักร 6.ตุรกี 7.เกาหลีใต้ 8.ฝรั่งเศส 9.ญี่ปุ่น และ 10.อิสราเอล
โกลบอลไฟร์พาวเวอร์ระบุว่า การจัดอันดับครั้งนี้ ได้คำรวณจากปัจจัยต่างๆจำนวน 45 ปัจจัย อาทิ ความพร้อมของกำลังทหาร อาวุธยุทโธปกรณ์ ความสามารถในการส่งกำลังบำรุง ปัจจัยการเงินในการทำสงคราม โดยเลือกเปรียบเทียบด้านความพร้อมและความสามารถในการรบเมื่อต้องทำสงครามทั้งแบบภาคพื้นดิน ทางทะเล และทางอากาศ โดยไม่นับรวมความสามารถในการใช้อาวุธนิวเคลียร์
เว็บไซต์ดังกล่าวรายงานโดยอ้างข้อมูลจาก ห้องสมุดรัฐสภาสหรัฐ และสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ ว่า ในปีนี้ ไทยมีงบประมาณด้าน กลาโหม 5,200 ล้านดอลลาร์ (156,000 ล้านบาท) โดยมีกำลังทหารพร้อมรบจำนวน 305,860 นาย และกำลังสำรองพร้อมรบ 245,000 นาย
กองทัพบกมีรถถัง 542 คัน ยานลำเลียงพลหุ้มเกราะ 1,005 คัน ปืนใหญ่ชนิดลากจูง 741 กระบอก ปืนใหญ่อัตตาจร 26 กระบอก ระบบจรวดหลายลำกล้อง 60 ชุด ปืน ค. 1,200 กระบอก อาวุธนำวิถีต่อสู้รถถัง 818 ชุด อาวุธต่อสู้อากาศยาน 378 หน่วย และยานยนต์ส่งกำลังบำรุง 4,600 คัน
ด้าน กองทัพอากาศไทยมีเครื่องบินแบบต่างๆ 913 ลำ เฮลิคอปเตอร์ 443 ลำ และเครื่องบินสนับสนุน 105 ลำ ส่วนกองทัพเรือ มีเรือทั้งสิ้น 164 ลำ แยกเป็นเรือบรรทุกอากาศยาน 1 ลำ เรือฟริเกต 6 ลำ เรือยามฝั่งและเรือตรวจการณ์ 109 ลำ เรือทำสงครามทุ่นระเบิด 7 ลำ และเรือสนับสนุนการยกพลขึ้นบก 9 ลำ แต่ไม่มีเรือพิฆาตและเรือดำน้ำ นอกจากนี้ ไทยยังมีกองเรือพาณิชย์นาวี 382 ลำ และท่าเรือสำคัญ 5 แห่ง
ขณะที่สหรัฐมีกำลังพลพร้อมรบ 1.47ล้านนาย และกำลังสำรองพร้อมรบ 1.45 ล้านนาย มีอาวุธภาคพื้นดิน 56,269 ยูนิต มีเครื่องบิน 18,234 ลำ มีเรือ 2,384 ลำ ในจำนวนนี้มีเรือดำน้ำอยู่ 75 ลำ และ เรือพิฆาต 59 ลำ
ด้านจีนมีทหารพร้อมรบ 2.28 ล้านนาย กำลังสำรองพร้อมรบ 8 แสนนาย มีอาวุธภาคพื้นดิน 22,795 ยูนิต มีเครื่องบิน 4,092 ลำ มีเรือ 562 ลำ ในจำนวนนี้มีเรือดำน้ำ 55 ลำ เรือพิฆาต 26 ลำ และมีกองเรือพาณิชย์นาวี 2,010ลำ
เว็บไซต์โกลบอลไฟร์พาวเวอร์ ดอท คอม (Globalfirepower.com) ได้เปิดเผยผลการจัดอันดับความแข็งแกร่งทางทหารประจำปี 2554 ของประเทศต่างๆทั่วโลกจำนวน 55 อันดับโดยพบว่าประเทศไทยถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 19 ซึ่งดีขึ้นจากปี2553ที่อยู่ในอันดับที่ 28 และหากจัดกลุ่มเฉพาะประเทศในภูมิภาคเอเชีย ไทยจะอยู่อันดับที่ 8 โดยมี จีน เป็นอันดับ 1 ตามมาด้วย อินเดีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อิหร่าน ไต้หวัน และอินโดนีเซีย
ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านไทยอย่าง มาเลเซียอยู่อันดับที่ 27 และสิงคโปร์ อยู่อันดับที่ 41 โดยรายชื่อประเทศที่ถูกจัดอันดับไม่มีชื่อของประเทศพม่า ลาว และกัมพูชา ซึ่งมีแนวชายแดนติดกับไทยแต่อย่างใด
สำหรับประเทศที่มีความแข็งแกร่งมากที่สุด 10 อันดับแรกของโลกประกอบด้วย 1.สหรัฐอเมริกา 2.รัสเซีย 3.จีน 4.อินเดีย 5.สหราชอาณาจักร 6.ตุรกี 7.เกาหลีใต้ 8.ฝรั่งเศส 9.ญี่ปุ่น และ 10.อิสราเอล
โกลบอลไฟร์พาวเวอร์ระบุว่า การจัดอันดับครั้งนี้ ได้คำรวณจากปัจจัยต่างๆจำนวน 45 ปัจจัย อาทิ ความพร้อมของกำลังทหาร อาวุธยุทโธปกรณ์ ความสามารถในการส่งกำลังบำรุง ปัจจัยการเงินในการทำสงคราม โดยเลือกเปรียบเทียบด้านความพร้อมและความสามารถในการรบเมื่อต้องทำสงครามทั้งแบบภาคพื้นดิน ทางทะเล และทางอากาศ โดยไม่นับรวมความสามารถในการใช้อาวุธนิวเคลียร์
เว็บไซต์ดังกล่าวรายงานโดยอ้างข้อมูลจาก ห้องสมุดรัฐสภาสหรัฐ และสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ ว่า ในปีนี้ ไทยมีงบประมาณด้าน กลาโหม 5,200 ล้านดอลลาร์ (156,000 ล้านบาท) โดยมีกำลังทหารพร้อมรบจำนวน 305,860 นาย และกำลังสำรองพร้อมรบ 245,000 นาย
กองทัพบกมีรถถัง 542 คัน ยานลำเลียงพลหุ้มเกราะ 1,005 คัน ปืนใหญ่ชนิดลากจูง 741 กระบอก ปืนใหญ่อัตตาจร 26 กระบอก ระบบจรวดหลายลำกล้อง 60 ชุด ปืน ค. 1,200 กระบอก อาวุธนำวิถีต่อสู้รถถัง 818 ชุด อาวุธต่อสู้อากาศยาน 378 หน่วย และยานยนต์ส่งกำลังบำรุง 4,600 คัน
ด้าน กองทัพอากาศไทยมีเครื่องบินแบบต่างๆ 913 ลำ เฮลิคอปเตอร์ 443 ลำ และเครื่องบินสนับสนุน 105 ลำ ส่วนกองทัพเรือ มีเรือทั้งสิ้น 164 ลำ แยกเป็นเรือบรรทุกอากาศยาน 1 ลำ เรือฟริเกต 6 ลำ เรือยามฝั่งและเรือตรวจการณ์ 109 ลำ เรือทำสงครามทุ่นระเบิด 7 ลำ และเรือสนับสนุนการยกพลขึ้นบก 9 ลำ แต่ไม่มีเรือพิฆาตและเรือดำน้ำ นอกจากนี้ ไทยยังมีกองเรือพาณิชย์นาวี 382 ลำ และท่าเรือสำคัญ 5 แห่ง
ขณะที่สหรัฐมีกำลังพลพร้อมรบ 1.47ล้านนาย และกำลังสำรองพร้อมรบ 1.45 ล้านนาย มีอาวุธภาคพื้นดิน 56,269 ยูนิต มีเครื่องบิน 18,234 ลำ มีเรือ 2,384 ลำ ในจำนวนนี้มีเรือดำน้ำอยู่ 75 ลำ และ เรือพิฆาต 59 ลำ
ด้านจีนมีทหารพร้อมรบ 2.28 ล้านนาย กำลังสำรองพร้อมรบ 8 แสนนาย มีอาวุธภาคพื้นดิน 22,795 ยูนิต มีเครื่องบิน 4,092 ลำ มีเรือ 562 ลำ ในจำนวนนี้มีเรือดำน้ำ 55 ลำ เรือพิฆาต 26 ลำ และมีกองเรือพาณิชย์นาวี 2,010ลำ