ASTV ผู้จัดการรายวัน - หุ้นไทยพุ่ง 12 จุด แรงซื้อทะลักเข้ากลุ่มแบงก์ หลังทยอยประกาศผลประกอบการออกมาดีเกินคาด อีกทั้งนักลงทุนเริ่มเชื่อมั่นการรับรองส.ส.ที่เหลือของกกต.จะผ่านไปได้ด้วยดี พร้อมคาดวันนี้ (20ก.ค.) ดัชนีขยับตัวไปต่อ ด้านสถาบันการเงินแจงกำไรพุ่ง ธนาคารไทยพาณิชย์กำไรสุทธิ 8.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 53% ขณะ ธนาคารทหารไทย กำไรสุทธิ 1,195 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 38% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (19ก.ค.) ปิดที่ระดับ 1,096.77 จุด เพิ่มขึ้น 12.83 จุด หรือ 1.18%มูลค่าการซื้อขาย 37,194.66 ล้านบาท โดยดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นแรงกว่าคาด และโดดเด่นกว่าภูมิภาค เพราะรับแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ทั้งกลุ่มแบงก์และพลังงาน โดยพบว่านักลงทุนต่างชาติ เข้าซื้อสุทธิถึง 2,911.25 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,304.65 ล้านบาท ปิดที่ 136.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.50 บาท BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,355.17 ล้านบาท ปิดที่ 167.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,043.17 ล้านบาท ปิดที่ 121.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,956.79 ล้านบาท ปิดที่ 340.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท และ KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,305.96 ล้านบาท ปิดที่ 20.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นมากกว่าที่คาดและโดดเด่นกว่าตลาดหุ้นภูมิภาค รับแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ที่แนวโน้มผลประกอบการงวดไตรมาส 2/54 ออกมาดี รวมถึงกลุ่มพลังงาน ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มมีน้ำหนักในตลาดค่อนข้างมาก จึงทำให้ภาพรวมตลาดฯปรับขึ้นมาแรงประกอบกับ นักลงทุนยังมีความคาดหวังเรื่องการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.รอบ 2 ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ว่าจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และทันกำหนด 30 วันของการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่
ทำให้แนวโน้มการลงทุนในวันนี้(20 ก.ค.) คาดว่า ดัชนีมีโอกาสขึ้นไปทดสอบบริเวณแนวต้านเดิมแถว 1,108-1,113 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,085-1,080 จุด
กำไรแบงก์Q2กระฉูด
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 2/2554 ที่ 8.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 53% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยปัจจัยหลักขับเคลื่อนผลประกอบการที่แข็งแกร่งและต่อเนื่องมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจากการที่สินเชื่อขยายตัวถึง 21.1% รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 36.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยเฉพาะจากรายรับประกันภัย คุณภาพสินเชื่อปรับตัวดีขึ้นอย่างมากเช่นกัน โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ลดลงมาอยู่ระดับต่ำสุดหลังวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 โดยมาอยู่ที่ 2.69% ทั้งนี้ ครึ่งแรกของปี 2554 ธนาคารมีกำไรสุทธิที่ 21.18 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 81.2% จากครึ่งแรกของปี 2553
นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า การเติบโตอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่องที่เกิดขึ้นทั้งในด้านปริมาณธุรกิจและความสามารถในการทำกำไรของทุกกลุ่มธุรกิจ ไม่ว่าธุรกิจขนาดใหญ่ ธุรกิจ SME ธุรกิจลูกค้าบุคคล และบริษัทในกลุ่มของธนาคาร แสดงถึงการเติบโตอย่างสมดุลที่จะต่อเนื่องและยั่งยืนไปในอนาคต ทั้งนี้ ผลประกอบการที่ดีถือเป็นคุณค่าที่ธนาคารมุ่งสร้างขึ้นเพื่อมอบให้แก่ลูกค้าของธนาคาร เป็นผลสำเร็จที่เกิดจากความร่วมมือร่วมใจในการทำงานของพนักงานธนาคารในทุกๆ ส่วน
TMBกำไรเพิ่ม9%
ด้านธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB เผยผลประกอบการของธนาคารและบริษัทย่อยในไตรมาสที่ 2 ของปี เป็นไปตามเป้าหมาย ด้วยผลกำไรสุทธิ 1,195 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ทั้งนี้ ผลประกอบการดังกล่าวทำให้ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ รวม 2,294.79 ล้านบาท สำหรับงวดครึ่งปีแรก 2554
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TMB กล่าวว่า ส่วนต่างดอกเบี้ยรับ(NIM) ในไตรมาสที่ 2/2554 เพิ่มขึ้นเป็น 2.45% จาก 2.21% ในไตรมาส 1/2554 และในขณะเดียวกัน รายได้ค่าธรรมเนียมก็เติบโตอย่างต่อเนื่องหรือเพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1/2554 และ 16% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2553 และธนาคารยังมีเงินฝากเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับสิ้นปีที่แล้ว ขณะที่สินเชื่อคุณภาพเติบโตเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับสิ้นปีที่แล้ว การเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากทั้งสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ สินเชื่อเอสเอ็มอี และสินเชื่อรายย่อย และสินเชื่อด้อยคุณภาพลดลง 1,927 ล้านบาท เหลือ 30,022 ล้านบาท ทำให้สัดส่วน NPL ของธนาคารลดลงเหลือ 6.0% เมื่อเทียบกับ 6.96% ณ สิ้นไตรมาสที่แล้ว และ 7.7% เทียบกับเมื่อสิ้นปี 2553
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (19ก.ค.) ปิดที่ระดับ 1,096.77 จุด เพิ่มขึ้น 12.83 จุด หรือ 1.18%มูลค่าการซื้อขาย 37,194.66 ล้านบาท โดยดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นแรงกว่าคาด และโดดเด่นกว่าภูมิภาค เพราะรับแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ทั้งกลุ่มแบงก์และพลังงาน โดยพบว่านักลงทุนต่างชาติ เข้าซื้อสุทธิถึง 2,911.25 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,304.65 ล้านบาท ปิดที่ 136.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.50 บาท BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,355.17 ล้านบาท ปิดที่ 167.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,043.17 ล้านบาท ปิดที่ 121.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,956.79 ล้านบาท ปิดที่ 340.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท และ KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,305.96 ล้านบาท ปิดที่ 20.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นมากกว่าที่คาดและโดดเด่นกว่าตลาดหุ้นภูมิภาค รับแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ที่แนวโน้มผลประกอบการงวดไตรมาส 2/54 ออกมาดี รวมถึงกลุ่มพลังงาน ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มมีน้ำหนักในตลาดค่อนข้างมาก จึงทำให้ภาพรวมตลาดฯปรับขึ้นมาแรงประกอบกับ นักลงทุนยังมีความคาดหวังเรื่องการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.รอบ 2 ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ว่าจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และทันกำหนด 30 วันของการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่
ทำให้แนวโน้มการลงทุนในวันนี้(20 ก.ค.) คาดว่า ดัชนีมีโอกาสขึ้นไปทดสอบบริเวณแนวต้านเดิมแถว 1,108-1,113 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,085-1,080 จุด
กำไรแบงก์Q2กระฉูด
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 2/2554 ที่ 8.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 53% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยปัจจัยหลักขับเคลื่อนผลประกอบการที่แข็งแกร่งและต่อเนื่องมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจากการที่สินเชื่อขยายตัวถึง 21.1% รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 36.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยเฉพาะจากรายรับประกันภัย คุณภาพสินเชื่อปรับตัวดีขึ้นอย่างมากเช่นกัน โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ลดลงมาอยู่ระดับต่ำสุดหลังวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 โดยมาอยู่ที่ 2.69% ทั้งนี้ ครึ่งแรกของปี 2554 ธนาคารมีกำไรสุทธิที่ 21.18 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 81.2% จากครึ่งแรกของปี 2553
นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า การเติบโตอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่องที่เกิดขึ้นทั้งในด้านปริมาณธุรกิจและความสามารถในการทำกำไรของทุกกลุ่มธุรกิจ ไม่ว่าธุรกิจขนาดใหญ่ ธุรกิจ SME ธุรกิจลูกค้าบุคคล และบริษัทในกลุ่มของธนาคาร แสดงถึงการเติบโตอย่างสมดุลที่จะต่อเนื่องและยั่งยืนไปในอนาคต ทั้งนี้ ผลประกอบการที่ดีถือเป็นคุณค่าที่ธนาคารมุ่งสร้างขึ้นเพื่อมอบให้แก่ลูกค้าของธนาคาร เป็นผลสำเร็จที่เกิดจากความร่วมมือร่วมใจในการทำงานของพนักงานธนาคารในทุกๆ ส่วน
TMBกำไรเพิ่ม9%
ด้านธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB เผยผลประกอบการของธนาคารและบริษัทย่อยในไตรมาสที่ 2 ของปี เป็นไปตามเป้าหมาย ด้วยผลกำไรสุทธิ 1,195 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ทั้งนี้ ผลประกอบการดังกล่าวทำให้ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ รวม 2,294.79 ล้านบาท สำหรับงวดครึ่งปีแรก 2554
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TMB กล่าวว่า ส่วนต่างดอกเบี้ยรับ(NIM) ในไตรมาสที่ 2/2554 เพิ่มขึ้นเป็น 2.45% จาก 2.21% ในไตรมาส 1/2554 และในขณะเดียวกัน รายได้ค่าธรรมเนียมก็เติบโตอย่างต่อเนื่องหรือเพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1/2554 และ 16% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2553 และธนาคารยังมีเงินฝากเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับสิ้นปีที่แล้ว ขณะที่สินเชื่อคุณภาพเติบโตเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับสิ้นปีที่แล้ว การเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากทั้งสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ สินเชื่อเอสเอ็มอี และสินเชื่อรายย่อย และสินเชื่อด้อยคุณภาพลดลง 1,927 ล้านบาท เหลือ 30,022 ล้านบาท ทำให้สัดส่วน NPL ของธนาคารลดลงเหลือ 6.0% เมื่อเทียบกับ 6.96% ณ สิ้นไตรมาสที่แล้ว และ 7.7% เทียบกับเมื่อสิ้นปี 2553
