ASTVผู้จัดการรายวัน - ไทยพาณิชย์เตรียมปรับเพิ่มสินเชื่อเพิ่ม จากเดิม 10-12%หลังครึ่งปีแรกทะลุเป้า คาดครึ่งปีหลังเศรษฐกิจ-ลงทุนยังหนุน พร้อมจับส.อ.ท.จัดมหกรรม "SCB-FTI Factory Outlet" ช่วยผู้ประกอบการอุตฯ
นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)(SCB)เปิดเผยว่า ธนาคารได้มีการทบทวนเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 10-12% เนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา การสินเชื่อของธนาคารขยายตัวเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าปรับเพิ่มในอัตราเท่าใด
"เรื่องของการทบทวนเป้าทำเสร็จแล้ว แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะปรับเพิ่มเป็นเท่าไหร่ ต้องรอให้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการธนาคารก่อน ซึ่งช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาสินเชื่อก็เติบโตเป็นเลข 2 หลักมาโดยตลอด"
สำหรับในช่วงครึ่งปีหลังนั้น คาดเศรษฐกิจจะยังเติบโตต่อเนื่อง รวมถึงภาคการลงทุนก็จะมีเพิ่มมากขึ้นด้วย เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนที่จะลงทุนเพิ่มแต่รอดูท่าทีหลังการเลือกตั้งก็จะเข้ามาลงทุนเพิ่ม โดยเฉพาะในภาคพลังงาน ส่วนเศรษฐกิจต่างประเทศที่ยังมีความผันผวนนั้น อาจจะส่งผลกระทบถึงไทยบ้างในช่วงต้นปีหน้า แต่หากสามารถหยุดวิกฤตเศรษฐกิจที่กรีซได้ ก็จะทำให้ความผันผวนลดลง
จับมือส.อ.ท.จัด "SCB-FTI Factory Outlet 4"
และล่าสุดเพื่อเป็นการส่งเสริมภาคอุตสาหกรรม ธนาคารไทยพาณิชย์ได้ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดมหกรรมสินค้าคุณภาพ "SCB-FTI Factory Outlet" เป็นครั้งที่ 4 เพื่อกระตุ้นรายได้ภาคอุตสาหกรรมไทย พร้อมส่งเสริมคนไทยอุดหนุนสินค้าไทย นำสินค้ากว่า 140 แบรนด์ดัง มากระหน่ำส่วนลดสูงสุด 70% ระหว่างวันที่ 4-8 กรกฎาคม 2554 เวลา 09.00-18.00 น. ณ หอประชุมมหิศร ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ (รัชโยธิน)
นางกรรณิกากล่าวอีกว่า "งาน SCB - FTI Factory Outlet" ที่จัดขึ้นนี้นับเป็นครั้งที่ 4 โดยเป็นความร่วมมือกับ ส.อ.ท. เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ในด้านการผลักดันยอดขาย การบริหารสต๊อกสินค้า ด้วยการรวบรวมสินค้าชั้นนำที่ส่งตรงจากโรงงานมาจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคโดยตรงในราคาต้นทุน นับได้ว่าเป็นงานที่ผู้ผลิตพบกับผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อสินค้าคุณภาพราคาถูก รวมถึงช่วยกระจายรายได้สู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ทั้งนี้ ธนาคารมีนโยบายจะจัดงาน SCB - FTI Factory Outlet อย่างต่อเนื่องทุกๆ ปี โดยในปีที่ผ่านมา สามารถอัดฉีดรายได้ให้ภาคอุตสาหกรรมรวม 12 ล้านบาท และจากการจัดงานในครั้งที่ 4 นี้ คาดว่าจะเพิ่มรายได้ให้แก่ภาคอุตสาหกรรมได้กว่า 20 ล้านบาท
นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)(SCB)เปิดเผยว่า ธนาคารได้มีการทบทวนเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 10-12% เนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา การสินเชื่อของธนาคารขยายตัวเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าปรับเพิ่มในอัตราเท่าใด
"เรื่องของการทบทวนเป้าทำเสร็จแล้ว แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะปรับเพิ่มเป็นเท่าไหร่ ต้องรอให้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการธนาคารก่อน ซึ่งช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาสินเชื่อก็เติบโตเป็นเลข 2 หลักมาโดยตลอด"
สำหรับในช่วงครึ่งปีหลังนั้น คาดเศรษฐกิจจะยังเติบโตต่อเนื่อง รวมถึงภาคการลงทุนก็จะมีเพิ่มมากขึ้นด้วย เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนที่จะลงทุนเพิ่มแต่รอดูท่าทีหลังการเลือกตั้งก็จะเข้ามาลงทุนเพิ่ม โดยเฉพาะในภาคพลังงาน ส่วนเศรษฐกิจต่างประเทศที่ยังมีความผันผวนนั้น อาจจะส่งผลกระทบถึงไทยบ้างในช่วงต้นปีหน้า แต่หากสามารถหยุดวิกฤตเศรษฐกิจที่กรีซได้ ก็จะทำให้ความผันผวนลดลง
จับมือส.อ.ท.จัด "SCB-FTI Factory Outlet 4"
และล่าสุดเพื่อเป็นการส่งเสริมภาคอุตสาหกรรม ธนาคารไทยพาณิชย์ได้ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดมหกรรมสินค้าคุณภาพ "SCB-FTI Factory Outlet" เป็นครั้งที่ 4 เพื่อกระตุ้นรายได้ภาคอุตสาหกรรมไทย พร้อมส่งเสริมคนไทยอุดหนุนสินค้าไทย นำสินค้ากว่า 140 แบรนด์ดัง มากระหน่ำส่วนลดสูงสุด 70% ระหว่างวันที่ 4-8 กรกฎาคม 2554 เวลา 09.00-18.00 น. ณ หอประชุมมหิศร ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ (รัชโยธิน)
นางกรรณิกากล่าวอีกว่า "งาน SCB - FTI Factory Outlet" ที่จัดขึ้นนี้นับเป็นครั้งที่ 4 โดยเป็นความร่วมมือกับ ส.อ.ท. เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ในด้านการผลักดันยอดขาย การบริหารสต๊อกสินค้า ด้วยการรวบรวมสินค้าชั้นนำที่ส่งตรงจากโรงงานมาจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคโดยตรงในราคาต้นทุน นับได้ว่าเป็นงานที่ผู้ผลิตพบกับผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อสินค้าคุณภาพราคาถูก รวมถึงช่วยกระจายรายได้สู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ทั้งนี้ ธนาคารมีนโยบายจะจัดงาน SCB - FTI Factory Outlet อย่างต่อเนื่องทุกๆ ปี โดยในปีที่ผ่านมา สามารถอัดฉีดรายได้ให้ภาคอุตสาหกรรมรวม 12 ล้านบาท และจากการจัดงานในครั้งที่ 4 นี้ คาดว่าจะเพิ่มรายได้ให้แก่ภาคอุตสาหกรรมได้กว่า 20 ล้านบาท