ตาก/เชียงราย- ผู้ส่งออกตากเฮ!พม่าเลิกห้ามนำเข้าสินค้า 15 รายการ ทั้งผงชูรส น้ำหวาน เหล้า เบียร์ ฯลฯ ที่เคยคุมเข้มมาตั้งแต่ปี 1999 เผยหลังคำสั่งมีผลทำส่งออกชายแดนตากคึกคัก จนสินค้าขาดตลาดทันที แม้พม่ายังปิดด่านฯ แต่ระยะยาวไทยเสี่ยงเสียตลาด ชี้ทุกประเทศชิงแชร์แน่
หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ของสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า ยกเลิกประกาศกระทรวงพาณิชย์ สหภาพพม่า ฉบับที่ 9/99 วันที่ 26 พ.ย. 1999 ที่เคยห้ามนำเข้าสินค้า 15 รายการ (เดิมเคยมีประกาศฉบับที่5/98 ลงวันที่ 20 มี.ค.1998 กำหนดรายการสินค้าที่ห้ามนำเข้าด้านชายแดน 10 รายการสินค้า) ประกอบด้วย ผงชูรส น้ำหวาน/เครื่องดื่ม(Soft drink) ขนมปังกรอบทุกชนิด(Biscuits) หมากฝรั่ง ขนมเค้ก ขนมเวเฟอร์ ช็อกโกแลต อาหารกระป๋อง(เนื้อสัตว์ และผลไม้) เส้นหมี่ทุกชนิด เหล้า เบียร์ บุหรี่ ผลไม้ทุกชนิด ผลิตภัณฑ์พลาสติกสำหรับใช้ในครัวเรือนและใช้ส่วนตัวทุกชนิด สินค้าต้องห้ามอื่นฯที่มีกฎหมายปัจจุบันห้ามนำเข้า ทำให้การค้าชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก คึกคักทันที แม้ว่าทางการพม่า ยังคงปิดด่านฯเมียวดี อยู่ก็ตาม
ตามท่าเรือผ่อนปรนกว่า 20 แห่ง ในพื้นที่ชายแดนด้านอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ปรากฏว่าสินค้าที่เคยห้ามนำเข้า เช่น ผงชูรส น้ำหวานเครื่องดื่มนานาชนิด ขนมปังกรอบ และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ถูกลำเลียงส่งลงเรือข้ามไปยังฝั่งพม่าอย่างต่อเนื่อง เพราะที่ผ่านมาสินค้าจำพวกดังกล่าวต้องมีการลักลอบนำเข้าพม่าอย่างยากลำบาก เนื่องจากทหารพม่าตรวจเข้มหากพ่อค้ารายใดฝ่าฝืนจะถูกจับกุมดำเนินคดีรวมทั้งขึ้นบัญชีดำทันที
หลังจากพม่ายกเลิกประกาศห้าม ส่งผลให้ ผงชูรส หลายยี่ห้อ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และเครื่องดื่มชูกำลังในตลาดแม่สอด ถูกพ่อค้าจากพม่าสั่งซื้อจนขาดตลาด คาดว่า มูลค่าส่งออกครึ่งปีหลังจะสร้างสถิติสูงสุด เพราะครึ่งปีแรกก็ทะลุ 1 หมื่นล้านบาทแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ผงชูรส บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และเครื่องดื่มชูกำลัง ในอดีตเป็นสินค้าส่งออกที่มูลค่ามหาศาล มีชื่อติดอยู่ใน 10 อันดับสินค้าส่งออกผ่านศุลกากรไทยเป็นประจำทุกปี เพราะเป็นสินค้ายอดนิยมในพม่า
นายบรรพต ก่อเกียรติเจริญ ประธานหอการค้าจังหวัดตาก กล่าวว่า หลังรัฐบาลใหม่พม่า เปิดให้มีการนำเข้าสินค้าต้องห้ามทั้ง 15 รายการได้ หลังจากห้ามนำเข้ามานานกว่า 10 ปี ระยะสั้นทำให้บรรยากาศการค้าตามแนวชายแดนไทย-พม่าคึกคักขึ้น มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมากจริง แต่ระยะยาวแล้ว ผู้ประกอบการไทยต้องเตรียมรับมือกับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นด้วย
นายบรรพต อธิบายว่า เนื่องจาก 10 กว่าปีที่ผ่านมา สินค้าทั้ง 15 รายการแม้ว่าพม่าจะห้ามนำเข้า แต่ก็มีคำสั่งซื้อเข้ามาตลอด แต่จากนี้เป็นต้นไปจะสามารถนำเข้าได้ทุกจุด ไม่ว่าจะเป็นการขนผ่านท่าเรือคลองเตย มาเลย์ สิงคโปร์ จีน ฯลฯ นั่นหมายถึงจะมีผู้ค้า หรือผู้เล่นในสินค้ากลุ่มนี้ในตลาดพม่ามากขึ้น และทุกรายสามารถโฆษณา ทำตลาดได้อย่างเปิดเผย แข่งขันกันอย่างเสรี ซึ่งอาจทำให้ออเดอร์ที่เคยอยู่ในมือกลุ่มผู้ค้าตามแนวชายแดนไทยถูกแย่งชิงมากขึ้น จากที่เคยครองเกือบหมด
ไม่เพียงเท่านั้น กระบวนการค้าผ่านชายแดนแม่สอด-เมียวดี ที่เคยได้เปรียบมากที่สุดในการขนส่งสินค้าจากไทยเข้าย่างกุ้ง (เมืองหลวงเก่าของพม่า) ก็ยังมีปัญหาถูกทางการพม่าสั่งปิดมานานถึง 1 ปีเต็ม (จาก 18 ก.ค.53-18 ก.ค.54) จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการคลี่คลาย ก็อาจจะทำให้พ่อค้าชายแดนด้านจังหวัดตากเสียโอกาสไปได้เช่นกัน
ด้านนายบุญธรรม ทิพย์ประสงค์ ประธานหอการค้า อ.แม่สาย จ.เชียงราย กล่าวว่า ปี 2554 นี้เป็นต้นไปเชื่อว่าจะเป็นปีทองของการส่งออกสินค้าผ่าน อ.แม่สาย เข้าไปยังประเทศพม่า โดยเหตุผลข้อแรกคือการยกเลิกข้อห้ามนำเข้าสินค้าจำนวน 15 รายการ ของประเทศพม่า ซึ่งเป็นปัญหาที่ภาคธุรกิจได้เรียกร้องให้รัฐบาลไทยได้เจรจาหารือกับรัฐบาลพม่ามานานกว่า 10 ปีแล้วได้รับการคลี่คลาย และทำให้การส่งออกเริ่มเห็นผลเป็นรูปธรรมแล้วโดยสินค้าเหล่านี้มีการส่งออกจากแม่สายไปพม่ามากยิ่งขึ้นทันตาเห็น
นายบุญธรรม บอกอีกว่า ข้อดีของการส่งออกเพิ่มมากขึ้นคือทำให้ผู้ประกอบการไทยมีรายได้ดีขึ้น ส่วนผู้ประกอบการพม่าก็สามารถนำสินค้าออกไปจำหน่ายได้ตามปกติ เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าแม้จะมีการห้ามสินค้า 15 รายการ แต่ก็มีการค้านอกระบบ ซึ่งทำให้ต้องหลบๆ ซ่อนๆ กัน แต่จากนี้ไปสามารถค้าขายกันได้อย่างเปิดเผย จึงเชื่อว่ามูลค่าการค้าด้าน อ.แม่สาย จะเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม 20-30% และจากการหารือกับทางด่านศุลกากรระบุว่าในปีนี้มูลค่าการส่งออกฝ่ายเดียวจะทะลุสูงเกิน 1 หมื่นล้านบาทเป็นประจำทุกปี