ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ประธานสภาอุตสาหกรรมโคราช ตอกย้ำนโยบายค่าแรง 300 บาท “เผาไทย” ทำอุตฯขนาดเล็กเดือดร้อนหนักแน่ รัฐต้องหาแนวทางดูแลให้ดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ระบุการปรับค่าแรงต้องสอดคล้องความเป็นจริง ตาม คกก.ค่าจ้างพิจารณา เชื่อปรับค่าแรงสูงส่งผลราคาสินค้าพุ่งตาม เผยเร่งสำรวจโรงงานกว่า 2,000 แห่งเพื่อรับมือปัญหาผลกระทบ
วานนี้( 18 ก.ค.)ที่สำนักงานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสมศักดิ์ ศรีบัวรอด ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึง นโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาทของว่าที่รัฐบาลใหม่พรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า ล่าสุดได้เรียกคณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา หารือเกี่ยวกับปัญหาการขาดแคลนแรงงานและเตรียมความพร้อมรับมือกับนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท ของรัฐบาลชุดใหม่แล้ว
ทั้งนี้ ที่ประชุมส่วนใหญ่เห็นว่า การปรับขึ้นค่าแรงนั้น หากปรับให้มีความเหมาะสมต่อสภาพความเป็นจริงหรือความสามารถของแรงงานก็เห็นว่าน่าจะมีการปรับขึ้น แต่จะปรับขึ้นมากน้อยเพียงใดต้องอยู่ที่คณะกรรมการค่าจ้าง ซึ่งมีคณะกรรมการหรืออนุกรรมการที่ดูแลเรื่องค่าจ้างอยู่แล้ว เรื่องนี้ต้องพิจารณาให้รอบคอบเป็นธรรมกับทั้งนายจ้าง และลูกจ้างด้วย
“หากมีการปรับขึ้นค่าแรงสูงเกินจริง ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรายเล็กโดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี จะได้รับผลกระทบแน่นอน ส่วนผู้ประกอบการรายใหญ่อาจมีความสามารถในการจ้างได้ แต่กลุ่มนี้มีค่อนข้างน้อย ฉะนั้นรัฐคงต้องหาแนวทางเข้ามาดูแลผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรายเล็กเหล่านี้ให้ดำเนินธุรกิจต่อไปให้ได้ ” นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า จังหวัดนครราชสีมาซึ่งเป็นจังหวัดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคของไทยมีผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมทั้งรายเล็กและรายใหญ่ ประมาณ 2,000 แห่ง ขณะนี้คณะกรรมการฯ อยู่ระหว่างการสำรวจว่าหากมีการขึ้นค่าแรงตามนโยบายดังกล่าวแล้ว จะมีอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมได้รับผลกระทบจำนวนเท่าใด
อย่างไรก็ตาม หากมีการปรับเพิ่มค่าแรงเป็นวันละ 300 บาทจริง คงต้องส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าที่จะปรับเพิ่มตามมาเช่นกัน เพื่อให้คุ้มกับค่าแรงที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้น เพราะถือเป็นต้นทุนสำคัญของผู้ประกอบการ ในเรื่องนี้ทางสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา ได้เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมรับมือกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมา