ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - นโยบายค่าแรง 300 บาท "เผาไทย" พ่นพิษไม่หยุด แรงงานต่างด้าวเถื่อนทะลักเข้าไทยต่อเนื่อง ล่าสุด ตร.โคราชรวบแรงงานเขมร 16 ราย ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย สารภาพหวังเข้ามาทำงานใน รง.เหล็ก จ.ชลบุรี ชี้ทำงานเมืองไทยได้ค่าจ้างสูง ขณะกัมพูชาได้ค่าจ้างทำนาแค่วันละ 50-80 บาท
วานนี้ (17 ก.ค.) ที่หน้า สภ.เมืองนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิศักย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รองผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา พร้อมด้วย พ.ต.อ.ผดุงเกียรติ ศิริพรวิวัฒน์ ผู้กำกับการ(ผกก.) สภ.เมืองนครราชสีมา และ ชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ได้ผู้ต้องหาเป็นชาวกัมพูชารวม 16 คน แบ่งเป็นชาย 14 คน หญิง 2 คน
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงที่เปิดให้มีการลงทะเบียนแรงงานต่างด้าวที่จะเข้ามาทำงานในประเทศไทย และเป็นช่วงจะมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจากเดิมเป็นวันละ 300 บาท ตามนโยบายรัฐบาลใหม่ของพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่ได้หาเสียงไว้ในการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงระดมกวาดล้างและเฝ้าระวังติดตามพฤติกรรมของแรงงานต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน ล่าสุดสายข่าวรายงานว่ามีการลักลอบเข้ามาของแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงทำการตรวจค้นรถโดยสารประจำทางสายสุรินทร์-นครราชสีมา พบแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายจำนวน 16 คนอายุระหว่าง 20-32 ปีดังกล่าว
จากการสอบถาม นายเลียะ หวาด อายุ 26 ปี ชาวกัมพูชา ผู้ต้องหาคนเดียวที่พูดไทยได้ชัดเจน บอกว่า ได้เดินทางมาพร้อมกันกับเพื่อนบ้านจำนวน 15 คน จากจังหวัดบันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา โดยลักลอบเข้ามาทางด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องจอม -โอร์เสม็ด อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ซึ่งจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจคนเข้าเมืองคนละ 700 บาท จากนั้นได้นั่งรถตู้ต่อมายังสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดสุรินทร์ พร้อมจ่ายเงินให้กับเจ้าของรถตู้อีกคนละประมาณ 1,500 บาท ก่อนขึ้นรถโดยสารประจำทางต่อมายัง จ.นครราชสีมา และจะเดินทางต่อไปยัง จ.ชลบุรี เพื่อไปทำงานในโรงงานเหล็ก โดยได้ค่าจ้างวันละ 180 บาท
นายเลียะ กล่าวอีกว่า ตนเคยทำงานในโรงงานดังกล่าวมาประมาณ 2 ปีแล้ว เมื่อกลับไปเยี่ยมบ้านที่ประเทศกัมพูชา เพื่อนบ้านเห็นว่ามีรายได้ดี ประกอบกับมีข่าวว่าประเทศไทยจะมีการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาท จึงชักชวนกันเดินทางมาทำงานในประเทศไทยเนื่องจากที่ประเทศกัมพูชารับจ้างทำนาได้วันละแค่ 50-80 บาทเท่านั้น โดยได้จ่ายค่านายหน้าให้กับคนไทยที่คอยอำนวยความสะดวกให้คนละประมาณ 3,000 บาท แต่มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ก่อน
ขณะเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาไว้ดำเนินคดีและตั้งข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ก่อนผลักดันกลับประเทศต่อไป
***SME ตจว.โอด300บาทต่อวันไม่คุ้มทุน
ผู้สื่อข่าวรายงานงานเมดอินไทยแลนด์ 2554 เมื่อวานนี้ (17 ก.ค.) ผู้ประกอบการรายย่อยต่างให้ความเห็นถึงมาตรการการค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทตามนโยบายของพรรคเพื่อไทยว่า การขึ้นค่าจ้างควรทำในลักษณะแบบค่อยเป็นค่อยไป เมื่อเปรียบเทียบกับออเดอร์สินค้าที่ปัจจุบันนี้ลดลงไปมาก หากปรับเป็น 300 บาท ก็จะกระทบกับธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กที่มีพนักงานไม่เกิน 500 คน
"ก่อนหน้านี้มีการขึ้นค่าแรงในแต่ละจังหวัด 8 บาทนั้นก็ถือว่ามีความเหมาะสม แรงงานจะได้ค่าจ้างเฉลี่ยวันละ 220 บาทต่อวัน ส่วนในกรุงเทพฯและปริมณฑลอาจจะเป็นไปได้ เพราะไม่ต้องจ่ายค่าต้นทุนที่สูงเมื่อเทียบกับโรงงานในต่างจังหวัด โดยเฉพาะค่าขนส่ง จึงอยากให้มีการพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนที่จะปรับขึ้นค่าแรง".
วานนี้ (17 ก.ค.) ที่หน้า สภ.เมืองนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิศักย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รองผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา พร้อมด้วย พ.ต.อ.ผดุงเกียรติ ศิริพรวิวัฒน์ ผู้กำกับการ(ผกก.) สภ.เมืองนครราชสีมา และ ชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ได้ผู้ต้องหาเป็นชาวกัมพูชารวม 16 คน แบ่งเป็นชาย 14 คน หญิง 2 คน
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงที่เปิดให้มีการลงทะเบียนแรงงานต่างด้าวที่จะเข้ามาทำงานในประเทศไทย และเป็นช่วงจะมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจากเดิมเป็นวันละ 300 บาท ตามนโยบายรัฐบาลใหม่ของพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่ได้หาเสียงไว้ในการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงระดมกวาดล้างและเฝ้าระวังติดตามพฤติกรรมของแรงงานต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน ล่าสุดสายข่าวรายงานว่ามีการลักลอบเข้ามาของแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงทำการตรวจค้นรถโดยสารประจำทางสายสุรินทร์-นครราชสีมา พบแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายจำนวน 16 คนอายุระหว่าง 20-32 ปีดังกล่าว
จากการสอบถาม นายเลียะ หวาด อายุ 26 ปี ชาวกัมพูชา ผู้ต้องหาคนเดียวที่พูดไทยได้ชัดเจน บอกว่า ได้เดินทางมาพร้อมกันกับเพื่อนบ้านจำนวน 15 คน จากจังหวัดบันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา โดยลักลอบเข้ามาทางด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องจอม -โอร์เสม็ด อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ซึ่งจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจคนเข้าเมืองคนละ 700 บาท จากนั้นได้นั่งรถตู้ต่อมายังสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดสุรินทร์ พร้อมจ่ายเงินให้กับเจ้าของรถตู้อีกคนละประมาณ 1,500 บาท ก่อนขึ้นรถโดยสารประจำทางต่อมายัง จ.นครราชสีมา และจะเดินทางต่อไปยัง จ.ชลบุรี เพื่อไปทำงานในโรงงานเหล็ก โดยได้ค่าจ้างวันละ 180 บาท
นายเลียะ กล่าวอีกว่า ตนเคยทำงานในโรงงานดังกล่าวมาประมาณ 2 ปีแล้ว เมื่อกลับไปเยี่ยมบ้านที่ประเทศกัมพูชา เพื่อนบ้านเห็นว่ามีรายได้ดี ประกอบกับมีข่าวว่าประเทศไทยจะมีการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาท จึงชักชวนกันเดินทางมาทำงานในประเทศไทยเนื่องจากที่ประเทศกัมพูชารับจ้างทำนาได้วันละแค่ 50-80 บาทเท่านั้น โดยได้จ่ายค่านายหน้าให้กับคนไทยที่คอยอำนวยความสะดวกให้คนละประมาณ 3,000 บาท แต่มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ก่อน
ขณะเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาไว้ดำเนินคดีและตั้งข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ก่อนผลักดันกลับประเทศต่อไป
***SME ตจว.โอด300บาทต่อวันไม่คุ้มทุน
ผู้สื่อข่าวรายงานงานเมดอินไทยแลนด์ 2554 เมื่อวานนี้ (17 ก.ค.) ผู้ประกอบการรายย่อยต่างให้ความเห็นถึงมาตรการการค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทตามนโยบายของพรรคเพื่อไทยว่า การขึ้นค่าจ้างควรทำในลักษณะแบบค่อยเป็นค่อยไป เมื่อเปรียบเทียบกับออเดอร์สินค้าที่ปัจจุบันนี้ลดลงไปมาก หากปรับเป็น 300 บาท ก็จะกระทบกับธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กที่มีพนักงานไม่เกิน 500 คน
"ก่อนหน้านี้มีการขึ้นค่าแรงในแต่ละจังหวัด 8 บาทนั้นก็ถือว่ามีความเหมาะสม แรงงานจะได้ค่าจ้างเฉลี่ยวันละ 220 บาทต่อวัน ส่วนในกรุงเทพฯและปริมณฑลอาจจะเป็นไปได้ เพราะไม่ต้องจ่ายค่าต้นทุนที่สูงเมื่อเทียบกับโรงงานในต่างจังหวัด โดยเฉพาะค่าขนส่ง จึงอยากให้มีการพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนที่จะปรับขึ้นค่าแรง".
