ผบ.ทบ.ลั่น! ไม่หวั่นถูกย้ายพ้นเก้าอี้ เพราะไม่ได้ทำผิดอะไร ย้ำหน้าที่ทหารทำตามกติกา ไม่เปลี่ยนจุดยืนอยู่เคียงข้างประชาชน เตือนตำแหน่ง รมว.กลาโหม ไม่ใช่ขนม ที่จะเลือกยังไงก็ได้ แต่ถ้าเป็นทหารได้ ก็ดี ไม่สนรื้อคดี 91 ศพ ทุกอย่างต้องทำตามข้อเท็จจริง ส่วนเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ต้องกังวล
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวถึงบุคคลที่จะเข้ามาเป็นรมว.กลาโหม ในรัฐบาลชุดใหม่ ว่า ก็พูดกันไป ไม่ใช่ขนม หรือของกินที่จะอยากได้ เป็นเรื่องของรัฐบาลและฝ่ายบริหารที่กำลังเลือกอยู่ ถ้าหากมีการพูดคุยกันก็คงเป็นในทางลับ เปิดเผยไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้มีใครมาพูด ดังนั้น จึงเป็นเรื่องของรัฐบาล
เมื่อถามว่า อยากได้รัฐมนตรีกลาโหมแบบไหน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องเป็นคนดี มีคุณธรรมและจริยธรรม ให้เกียรติกองทัพ รวมทั้งสร้างบรรยากาศในการทำงานที่ดีระหว่างพี่กับน้อง และอยากให้สังคมได้เข้าใจว่า กองทัพบกเป็นข้าราชการประจำหน่วยหนึ่งเหมือนกัน การทำงานในห้วงเวลาที่ผ่านมา เป็นการทำงานในกรอบของข้าราชการประจำ มีกติกา มีวินัย ข้อบังคับ กฎหมายมากมาย ไม่ได้ทำอะไรได้ตามใจ หรือตามใจตน หรือตามใจใคร ไม่ว่าใครมาเป็นรมว.กลาโหม ก็ต้องทำตามกติกา ตอนนี้เร็วเกินไปที่จะพูด เพราะวันนี้การรับรองก็ยังไม่เกิดขึ้น เกรงจะเป็นผลเสียในการพิจารณา
ส่วนผู้ที่จะมาเป็น รมว.กลาโหม จำเป็นต้องเป็นทหารหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าเป็นทหารก็ดี จะเข้าใจความรู้สึกของทหารด้วยกัน
เมื่อถามว่า ต้องมีการพูดคุยกับกองทัพก่อนหรือไม่ เพื่อเป็นการพบกันครึ่งทาง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็แล้วแต่ท่าน ที่จะให้เกียรติกัน วันนี้ยังไม่มี มีแต่ข่าว เมื่อถามว่ายินดีให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี เข้าพบหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กกต.ยังไม่รับรอง ค่อยไปว่ากันอีกที ว่ากันไปทีละวัน
เมื่อถามว่าจุดยืนของกองทัพขณะนี้เป็นอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กองทัพไม่มีเปลี่ยนแปลงจุดยืน กองทัพเป็นของประชาชน ที่ดูแลชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเป็นเช่นนี้มาตลอดไม่ว่าตนหรือใครจะเป็น ผบ.ทบ. ก็แล้วแต่ ทุกคนมุ่งหวังให้กองทัพเป็นแบบนั้น เพราะฉะนั้นอย่าเอาทหารมาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าใครมาเป็นฝ่ายบริหาร ก็ต้องใช้ทหาร ในการทำหน้าที่ เราก็ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง เราทำตามหน้าที่ที่กำหนดตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่มีอยู่ทุกฉบับ ว่าทหารมีหน้าที่อะไร
" เราทำเพื่อประโยชน์สุขของบ้านเมืองโดยรวมทั้งสิ้น และเป็นไปตามกฎหมาย ไม่ได้มุ่งหวังที่จะให้เกิดความไม่เรียบร้อยใดๆ ทั้งสิ้น มุ่งหวังแต่จะให้ประชาชนเป็นสุข เพราะฉะนั้นอย่าไปพูดในทางที่เสื่อมเสีย ว่าทหารไม่เป็นกลาง ทหารเป็นทหารของประชาชน และเป็นข้าราชการประจำ ระบบการบังคับบัญชาของทหาร หรือวินัยทหาร ซึ่งจะปกครองดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาที่เป็นทหาร สังคมทหารประกอบด้วยหลายส่วน เช่น กำลังพล ครอบครัว ภรรยา ลูกหลาน แม้กระทั้งพลทหาร ทุกอย่างเป็นไปตามหลักการในการบริหารจัดการตามวินัยทหาร" ผบ.ทบ. กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าการที่เราจะไปสั่งการ หรือบังคับบัญชาผู้ใต้บังคับบัญชา อะไรก็ตาม เราก็สั่งการได้ด้วยความชอบธรรม ด้วยความมีคุณธรรม ทำอย่างอื่นไม่ได้ เรารู้ดีว่ามีกรอบอำนาจแค่ไหน ครอบครัวก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ก็ต้องบังคับบัญชาครอบครัวของท่านเอง จะไปพูดคุยกันอย่างไรก็แล้วแต่ เราคงไม่สามารถไปบังคับเขาได้ ถ้าสามี ภรรยา ลูก ทำความผิด ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะอยู่ในค่ายทหาร โลกวันนี้กว้างไปไกล อย่าคิดว่าทหารจะเข้าไปควบคุมอะไรได้ทุกเรื่อง ซึ่งไม่ใช่วันนี้เราต้องมุ่งไปสู่กระบวนการประชาธิปไตยที่ถูกต้อง
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าฝ่ายการเมืองจะเข้ามาแทรกแซงกองทัพ ภายหลังเปลี่ยนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนขอร้องว่ากองทัพ เป็นกองทัพของประชาชนอยู่แล้ว และพร้อมที่จะทำงานในหน้าที่ให้ดีที่สุด ถ้ากองทัพไม่เข้มแข็ง อ่อนแอ ประเทศชาติจะไม่ปลอดภัย ก็จะเกิดอันตราย เพราะกองทัพเป็นสถาบันหนึ่งให้ประเทศอยู่ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ตนไม่อยากให้สิ่งนั้นเป็นสาเหตุให้กองทัพอ่อนแอลง เพราะฉะนั้นท่านทราบดีว่าทำอย่างไรกองทัพถึงจะอ่อนแอ ตนจึงเป็นห่วง และถ้าทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองไป ก็จะเป็นไปได้ด้วยดี ขอร้องกัน
การเมืองอย่าหาเหตุสั่งย้าย
เมื่อถามว่า สังคมกำลังจับตามองว่า ผบ.ทบ.จะถูกย้าย รู้สึกหวั่นไหวหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า ทำไม ผมไม่ได้ทำความผิดอะไร และได้ทำตามหน้าที่ของตน เพราะฉะนั้นในฐานะที่เป็นข้าราชการประจำก็เป็นส่วนหนึ่ง ดังนั้น ทุกคนควรจะให้กำลังใจทหารมากกว่า ซึ่งที่ผ่านมาเราทำให้บ้านเมืองเรียบร้อย ก็อาจจะมีปัญหาอยู่บ้างก็ต้องไปทบทวนว่า ต่อไปจะใช้ทหารอย่างไร ไม่ทำให้ทหารตกไปเป็นจำเลยทางสังคม ต้องเห็นใจทหาร เพราะเป็นพี่น้องของพวกท่านทั้งนั้น ถ้าท่านทำลายทหารให้อ่อนแอลง วันข้างหน้าจะใช้ใคร ฉะนั้นของให้ทหารเข้มแข็งเถอะ
เมื่อถามว่าวันนี้พร้อมจะถอยทหารเข้ากรม กองหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า ที่ทหารออกมานั้น ออกมาทำอะไร และออกมาตามคำสั่งของใคร ตนออกมาด้วยหน้าที่ ด้วยคำสั่ง ตามพ.ร.ก. ไม่ใช่อยู่ดีๆ ตนเอาทหารออกมายืนข้างนอก ตนเคยบอกว่าการเอาทหารมาจากกรม กอง มันผิดกฎหมาย ถ้าไม่มีการขออนุมัติตามกฎ กติกา ที่ผ่านมาตนไม่เคยทำ แต่ที่ทำ ก็ทำตามคำสั่ง ซึ่งการทำตามคำสั่งไม่น่าจะผิด
เมื่อถามว่าจะมีการรื้อฟื้นคดี 91 ศพ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าจะรื้อ ก็รื้อ เรามีหลักฐานที่แน่ชัด และมีการสอบสวนอยู่ ก็รื้อไปไม่เป็นไร เราต้องว่ากันตามข้อเท็จจริง
ไม่ต้องห่วงปัญหาชายแดน
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ศาลโลกจะตัดสินคุ้มครองพื้นที่โดยรอบประสาทพระวิหาร ตามที่กัมพูชาร้องขอในวันที่ 18 ก.ค.นี้ ว่า เรื่องนี้ชายแดนเรามีความเตรียมพร้อม ไม่ต้องกังวล ซึ่งเราก็รับผิดชอบตามชายแดนที่วางกำลังไว้ในปัจจุบัน ตามเส้นแบ่งเขตที่กำหนดไว้ในแผนที่ที่เรายึดถือไม่ต้องกังวล
เมื่อถามว่าช่วงเปลี่ยนรัฐบาลจะมีปัญหาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่เป็นไรเป็นหน้าที่ของกองทัพอยู่แล้วในการรักษาอธิปไตยโดย ไม่ต้องมีใคร สั่งก็ต้องทำ เพราะเป็นพันธกิจ 4 ประการ ของกองทัพ เรื่องการป้องกันชายแดนเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของทหาร ทหารสามารถดำเนินตามยุทธวิธีกลยุทธ์ต่างๆในพื้นที่เขตแดนไทยได้ตามอำนาจมอบหมายตามกฎของกระทรวงกลาโหม
เมื่อถามว่าทางกัมพูชามีระเบิดนิวเคลียร์ขนาดเล็ก จริงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มีหรอก มันไม่ง่ายขนาดนั้น ที่มีนิวเคลียร์บนรถจี๊ปเป็นไปไม่ได้ มั่วอย่าไปเชื่อไม่มีหรอก
เมื่อถามว่า วันนี้ทหารไทยอยู่จุดไหนก็ยังอยู่จุดนั้นใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าก็ยังอยู่ หากจะมีการเปลี่ยนแปลงจากตรงนี้ก็เป็นเรื่องของรับบาล สั่งการมาให้ชัดเจน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวถึงบุคคลที่จะเข้ามาเป็นรมว.กลาโหม ในรัฐบาลชุดใหม่ ว่า ก็พูดกันไป ไม่ใช่ขนม หรือของกินที่จะอยากได้ เป็นเรื่องของรัฐบาลและฝ่ายบริหารที่กำลังเลือกอยู่ ถ้าหากมีการพูดคุยกันก็คงเป็นในทางลับ เปิดเผยไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้มีใครมาพูด ดังนั้น จึงเป็นเรื่องของรัฐบาล
เมื่อถามว่า อยากได้รัฐมนตรีกลาโหมแบบไหน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องเป็นคนดี มีคุณธรรมและจริยธรรม ให้เกียรติกองทัพ รวมทั้งสร้างบรรยากาศในการทำงานที่ดีระหว่างพี่กับน้อง และอยากให้สังคมได้เข้าใจว่า กองทัพบกเป็นข้าราชการประจำหน่วยหนึ่งเหมือนกัน การทำงานในห้วงเวลาที่ผ่านมา เป็นการทำงานในกรอบของข้าราชการประจำ มีกติกา มีวินัย ข้อบังคับ กฎหมายมากมาย ไม่ได้ทำอะไรได้ตามใจ หรือตามใจตน หรือตามใจใคร ไม่ว่าใครมาเป็นรมว.กลาโหม ก็ต้องทำตามกติกา ตอนนี้เร็วเกินไปที่จะพูด เพราะวันนี้การรับรองก็ยังไม่เกิดขึ้น เกรงจะเป็นผลเสียในการพิจารณา
ส่วนผู้ที่จะมาเป็น รมว.กลาโหม จำเป็นต้องเป็นทหารหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าเป็นทหารก็ดี จะเข้าใจความรู้สึกของทหารด้วยกัน
เมื่อถามว่า ต้องมีการพูดคุยกับกองทัพก่อนหรือไม่ เพื่อเป็นการพบกันครึ่งทาง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็แล้วแต่ท่าน ที่จะให้เกียรติกัน วันนี้ยังไม่มี มีแต่ข่าว เมื่อถามว่ายินดีให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี เข้าพบหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กกต.ยังไม่รับรอง ค่อยไปว่ากันอีกที ว่ากันไปทีละวัน
เมื่อถามว่าจุดยืนของกองทัพขณะนี้เป็นอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กองทัพไม่มีเปลี่ยนแปลงจุดยืน กองทัพเป็นของประชาชน ที่ดูแลชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเป็นเช่นนี้มาตลอดไม่ว่าตนหรือใครจะเป็น ผบ.ทบ. ก็แล้วแต่ ทุกคนมุ่งหวังให้กองทัพเป็นแบบนั้น เพราะฉะนั้นอย่าเอาทหารมาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าใครมาเป็นฝ่ายบริหาร ก็ต้องใช้ทหาร ในการทำหน้าที่ เราก็ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง เราทำตามหน้าที่ที่กำหนดตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่มีอยู่ทุกฉบับ ว่าทหารมีหน้าที่อะไร
" เราทำเพื่อประโยชน์สุขของบ้านเมืองโดยรวมทั้งสิ้น และเป็นไปตามกฎหมาย ไม่ได้มุ่งหวังที่จะให้เกิดความไม่เรียบร้อยใดๆ ทั้งสิ้น มุ่งหวังแต่จะให้ประชาชนเป็นสุข เพราะฉะนั้นอย่าไปพูดในทางที่เสื่อมเสีย ว่าทหารไม่เป็นกลาง ทหารเป็นทหารของประชาชน และเป็นข้าราชการประจำ ระบบการบังคับบัญชาของทหาร หรือวินัยทหาร ซึ่งจะปกครองดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาที่เป็นทหาร สังคมทหารประกอบด้วยหลายส่วน เช่น กำลังพล ครอบครัว ภรรยา ลูกหลาน แม้กระทั้งพลทหาร ทุกอย่างเป็นไปตามหลักการในการบริหารจัดการตามวินัยทหาร" ผบ.ทบ. กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าการที่เราจะไปสั่งการ หรือบังคับบัญชาผู้ใต้บังคับบัญชา อะไรก็ตาม เราก็สั่งการได้ด้วยความชอบธรรม ด้วยความมีคุณธรรม ทำอย่างอื่นไม่ได้ เรารู้ดีว่ามีกรอบอำนาจแค่ไหน ครอบครัวก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ก็ต้องบังคับบัญชาครอบครัวของท่านเอง จะไปพูดคุยกันอย่างไรก็แล้วแต่ เราคงไม่สามารถไปบังคับเขาได้ ถ้าสามี ภรรยา ลูก ทำความผิด ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะอยู่ในค่ายทหาร โลกวันนี้กว้างไปไกล อย่าคิดว่าทหารจะเข้าไปควบคุมอะไรได้ทุกเรื่อง ซึ่งไม่ใช่วันนี้เราต้องมุ่งไปสู่กระบวนการประชาธิปไตยที่ถูกต้อง
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าฝ่ายการเมืองจะเข้ามาแทรกแซงกองทัพ ภายหลังเปลี่ยนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนขอร้องว่ากองทัพ เป็นกองทัพของประชาชนอยู่แล้ว และพร้อมที่จะทำงานในหน้าที่ให้ดีที่สุด ถ้ากองทัพไม่เข้มแข็ง อ่อนแอ ประเทศชาติจะไม่ปลอดภัย ก็จะเกิดอันตราย เพราะกองทัพเป็นสถาบันหนึ่งให้ประเทศอยู่ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ตนไม่อยากให้สิ่งนั้นเป็นสาเหตุให้กองทัพอ่อนแอลง เพราะฉะนั้นท่านทราบดีว่าทำอย่างไรกองทัพถึงจะอ่อนแอ ตนจึงเป็นห่วง และถ้าทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองไป ก็จะเป็นไปได้ด้วยดี ขอร้องกัน
การเมืองอย่าหาเหตุสั่งย้าย
เมื่อถามว่า สังคมกำลังจับตามองว่า ผบ.ทบ.จะถูกย้าย รู้สึกหวั่นไหวหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า ทำไม ผมไม่ได้ทำความผิดอะไร และได้ทำตามหน้าที่ของตน เพราะฉะนั้นในฐานะที่เป็นข้าราชการประจำก็เป็นส่วนหนึ่ง ดังนั้น ทุกคนควรจะให้กำลังใจทหารมากกว่า ซึ่งที่ผ่านมาเราทำให้บ้านเมืองเรียบร้อย ก็อาจจะมีปัญหาอยู่บ้างก็ต้องไปทบทวนว่า ต่อไปจะใช้ทหารอย่างไร ไม่ทำให้ทหารตกไปเป็นจำเลยทางสังคม ต้องเห็นใจทหาร เพราะเป็นพี่น้องของพวกท่านทั้งนั้น ถ้าท่านทำลายทหารให้อ่อนแอลง วันข้างหน้าจะใช้ใคร ฉะนั้นของให้ทหารเข้มแข็งเถอะ
เมื่อถามว่าวันนี้พร้อมจะถอยทหารเข้ากรม กองหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า ที่ทหารออกมานั้น ออกมาทำอะไร และออกมาตามคำสั่งของใคร ตนออกมาด้วยหน้าที่ ด้วยคำสั่ง ตามพ.ร.ก. ไม่ใช่อยู่ดีๆ ตนเอาทหารออกมายืนข้างนอก ตนเคยบอกว่าการเอาทหารมาจากกรม กอง มันผิดกฎหมาย ถ้าไม่มีการขออนุมัติตามกฎ กติกา ที่ผ่านมาตนไม่เคยทำ แต่ที่ทำ ก็ทำตามคำสั่ง ซึ่งการทำตามคำสั่งไม่น่าจะผิด
เมื่อถามว่าจะมีการรื้อฟื้นคดี 91 ศพ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าจะรื้อ ก็รื้อ เรามีหลักฐานที่แน่ชัด และมีการสอบสวนอยู่ ก็รื้อไปไม่เป็นไร เราต้องว่ากันตามข้อเท็จจริง
ไม่ต้องห่วงปัญหาชายแดน
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ศาลโลกจะตัดสินคุ้มครองพื้นที่โดยรอบประสาทพระวิหาร ตามที่กัมพูชาร้องขอในวันที่ 18 ก.ค.นี้ ว่า เรื่องนี้ชายแดนเรามีความเตรียมพร้อม ไม่ต้องกังวล ซึ่งเราก็รับผิดชอบตามชายแดนที่วางกำลังไว้ในปัจจุบัน ตามเส้นแบ่งเขตที่กำหนดไว้ในแผนที่ที่เรายึดถือไม่ต้องกังวล
เมื่อถามว่าช่วงเปลี่ยนรัฐบาลจะมีปัญหาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่เป็นไรเป็นหน้าที่ของกองทัพอยู่แล้วในการรักษาอธิปไตยโดย ไม่ต้องมีใคร สั่งก็ต้องทำ เพราะเป็นพันธกิจ 4 ประการ ของกองทัพ เรื่องการป้องกันชายแดนเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของทหาร ทหารสามารถดำเนินตามยุทธวิธีกลยุทธ์ต่างๆในพื้นที่เขตแดนไทยได้ตามอำนาจมอบหมายตามกฎของกระทรวงกลาโหม
เมื่อถามว่าทางกัมพูชามีระเบิดนิวเคลียร์ขนาดเล็ก จริงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มีหรอก มันไม่ง่ายขนาดนั้น ที่มีนิวเคลียร์บนรถจี๊ปเป็นไปไม่ได้ มั่วอย่าไปเชื่อไม่มีหรอก
เมื่อถามว่า วันนี้ทหารไทยอยู่จุดไหนก็ยังอยู่จุดนั้นใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าก็ยังอยู่ หากจะมีการเปลี่ยนแปลงจากตรงนี้ก็เป็นเรื่องของรับบาล สั่งการมาให้ชัดเจน