xs
xsm
sm
md
lg

รุมจวกแก้รัฐธรรมนูญ หวังนิรโทษแม้ว-บ้าน111

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- รุมจวก"เพื่อไทย" หน้ามืดดิ้นหนีคดียุบพรรค ด้วยการใช้พวกมากลากไป ชี้การออกประชามติให้ประชาชนเลือกใช้รัฐธรรมนูญ ปี 40 หรือปี 50 ขัดหลักประชาธิปไตย ทำลายนิติรัฐ จะยิ่งเพิ่มความขัดแย้ง แฉต้องการใช้ปี 40 หวังนิรโทษ "แม้ว" และคนบ้านเลขที่ 111

จากกรณีนายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ ที่ปรึกษาคณะทำงานด้านกฎหมาย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงแนวทางการแก้ปัญหาที่มีผู้ร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ยุบพรรคเพื่อไทย อันเนื่องมาจากการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งว่า ทางพรรคต้องหามาตรการป้องกันก่อนที่จะถูกยุบพรรค โดยจะยกร่างประชามติถามประชาชนว่าจะเลือกใช้รัฐธรรมนูญปี 40 หรือรัฐธรรมนูญปี 50 แล้วนำเสนอเข้าที่ประชุมสภา เพื่อใช้มติเสียงข้างมากชี้ขาด ซึ่งเรื่องนี้ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอย่างมาก ว่าจะเป็นการทำลายระบบนิติรัฐ

นายคมสัน โพธิ์คง รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวว่า การกระทำดังกล่าว ถือว่าเป็นกระบวนการที่ขัดกับหลักประชาธิปไตยที่ต้องยึดถือนิติรัฐ ที่ต้องรับฟังเสียงข้างน้อยด้วย กระบวนการที่นายมานิตย์ ระบุนั้น ถือว่าเป็นระบอบธนาธิปไตย ใช้เสียงพวกมากลากไป คำนึงถึงความถูกใจมากกว่าถูกกฎหมาย

"ผมเข้าใจว่าเขามั่นใจในคะแนนเสียง จึงพยายามใช้เสียงของประชาชนมาชี้ถูก ชี้ผิด หรือใช้เสียงมากลากไป การแก้ไขปัญหาของพรรคเพื่อไทย ใช้ความไม่รู้ของประชาชนในด้านข้อกฎหมายมาสร้างผลให้ได้อย่างที่ใจต้องการ ซึ่งตรงนี้เป็นอันตราย เพราะจะเป็นสิ่งที่ทำลายการบังคับใช้กฎหมาย ในอนาคตอาจกลายเป็นการโต้แย้งของกลุ่มคนที่ยึดมั่นในหลักนิติรัฐ และอาจกลายเป็นความวุ่นวาย"นายคมสันกล่าว

นายคมสันกล่าวว่า การทำประชามตินั้น ตามหลักประชาธิปไตยเป็นเพียงแนวทางของการปรึกษาหารือ แต่ไม่มีผลในกรณีจะเปลี่ยนแปลงตัวรัฐธรรมนูญโดยตรง เนื่องจากอำนาจดังกล่าวต้องขึ้นอยู่กับฝ่ายรัฐบาลว่าหลังจากที่ประชาชนได้ลงประชามติแล้ว รัฐบาลจะต้องนำมาพิจารณาอีกครั้งว่าเหมาะสมหรือไม่

ส่วนประเด็นหนีการถูกยุบพรรคนั้น ไม่เกี่ยวว่าขณะนี้ ใช้รัฐธรรมนูญฉบับใด เพราะรัฐธรรมนูญปี 40 หรือรัฐธรรมนูญปี 50 ล้วนมีบทบัญญัติยุบพรรคการเมืองที่ทำการทุจริตเลือกตั้ง เพียงแต่ในรัฐธรรมนูญปี 50 เพิ่มมาตรา 237 ที่ลงโทษถึงขั้นตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค นอกจากนั้นแล้วการพิจารณายุบพรรคการเมือง ยังต้องดูกฎหมายอื่นๆ ประกอบด้วย

** แฉหวังใช้ประชามตินิรโทษ"แม้ว"

นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี กล่าวว่า ตนขอไล่ส.ส.เพื่อไทยคนที่จุดประเด็นนี้ให้กลับไปอ่าน พ.ร.บ.การทำประชามติ อีกครั้ง เพราะการทำประชามติต้องเป็นประเด็นเดี่ยว ตัวเลือกให้ประชาชนเลือกต้องมีแค่ "เยส" หรือ "โน" นั่นคือ "เอา" หรือ"ไม่เอา"เท่านั้น จะมาใช้ว่า ระหว่างรัฐธรรมนูญปี 40 กับปี 50 จะเลือกฉบับใหน อย่างนี้ไม่ใช่หลักการทำประชามติ ตนถามว่าถ้าอย่างนั้นถ้าจะทำ เอาประเด็นมาตรา 112 กล้าไหม ให้ประชาชนเลือกไปเลยว่า จะยกเลิกหรือเอาไว้

อย่างไรก็ตาม หากมีการพยายามที่จะยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 50 หรือให้กลับไปใช้รัฐธรรมนูญ 40 ตนจะออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านแน่นอน

"ผมขอถามส.ส.เพื่อไทยคนนั้นว่า ต้องการอะไรจากรัฐธรรมนูญปี 2540 การที่มาอ้างว่า เป็นรัฐธรรมนูญที่มาจากคมช.นั้น สมาชิกที่ร่างฉบับปี 50 เองก็เป็นชุดที่มาจากปี 40 หลายคน แล้วเขาอยากได้ประโยชน์อะไรจากฉบับปี 40 ต้องการกลับไปรวมพรรคได้เหมือนเดิมใชไหม หรือต้องการนิรโทษกรรมให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และสมาชิกบ้านเลขที่111" นพ.ตุลย์กล่าว

** เอาปี40มาใช้ยิ่งเพิ่มความขัดแย้ง

น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ อยากเห็นพรรคเพื่อไทย ทำงานที่สร้างสรรค์ ชี้แจงข้อเท็จจริงมากกว่าตีตนไปก่อนไข้ เพราะการเข้าสู่อำนาจ ต้องควบคู่ไปกับระบบกฎหมายด้วย และไม่ควรนำกระบวนการต่างๆ มาอ้างเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามที่นายมานิตย์ ออกมาอ้างว่าเพื่อป้องกันการถูกยุบพรรค ด้วยการเสนอให้ประชาชนลงประชามติ เพื่อเอารัฐธรรมนูญฉบับปี 40 กลับมาใช้ ซึ่งสอดรับกับคำสัมภาษณ์ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีความสอดรับกับร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับของ คป.พร. ของนพ.เหวง โตจิราการ อีกทั้งยังสอดรับกับการส่งผลให้คดีทุจริตต่างๆ ให้ตกไปจากการแก้รัฐธรรมนูญ เป็นการเดินซ้ำรอยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่ทำให้บ้านเมืองขัดแย้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น