ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - โจรใต้ยิงกราดใส่โรงน้ำชา "ครูสอนรับจ้างโรงเรียนพ่อมิ่ง" ในปัตตานีสังเวยอีก 1 ศพ ขณะเดียวกันคนร้ายลอบวางระเบิดน้ำหนัก 15 กิโลกรัมถล่มรถยนต์ “ฮัมวี่” ทหาร ฉก.ยะลา 16 ชุดรักษาความปลอดภัยครูบนถนนสายยะลา-เบตงทหารเจ็บ 5 นาย คาดฝีมือทีมงาน “อุสตาซโซ๊ะ” ด้านสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนใต้ เครียดหลังเหตุความไม่สงบส่อแรงขึ้นอีก
เมื่อเวลา 08.45 น.วานนี้ (12ก.ค.) พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐ์พันธุ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.)ปัตตานี ได้รับรายงานทางวิทยุ สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานีว่า เมื่อเวลา 22.30 น.คืนวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา มีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงในร้านน้ำชาในหมู่บ้านไม่มีชื่อไม่มีบ้านเลขที่ ม.3 บ้านพ่อมิ่ง ต.พ่อมิ่ง อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือ นายอัฮมัด สะมะแฮ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/1 ม.4 ต.พ่อมิ่ง อ.ปะนาเระ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน 9 มม.เข้าบริเวณศีรษะ 1 นัดหน้าอก 2 นัด
จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายเป็นครูสอนรับจ้างโรงเรียนพ่อมิ่ง ก่อนเกิดเหตุได้เดินทางออกจากบ้านและมาดื่มน้ำชากับเพื่อนบ้านที่ร้านที่เกิดเหตุ โดยมีชาวบ้านนั่งกระจัดกระจายภายในร้าน ขณะนั้นได้มีคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน รวม 4 คน มาจอดที่หน้าร้าน และ 1 ใน 4 ได้ลงจากรถ และเดินเข้าไปในร้านที่โต๊ะผู้ตาย และใช้ปืนกระหน่ำยิงที่ศีรษะ 1 นัดล้มลง จากนั้นคนร้ายยิงซ้ำที่หน้าอกอีก 2 นัดจนแน่ใจว่าเสียชีวิต และหลบหนีไป
ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ หรืออาจจะเป็นเรื่องส่วนตัว
**บึ้มถล่ม“ฮัมวี่”รปภ.ครูเบตงเจ็บ5
ต่อมาเวลา 16.00 น.ร.ท.สุชิน วังชิ้น ผบ.ร้อย.ม.3 ฉก.ยะลา 16 ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารบนถนนสาย 410 ยะลา-เบตง(สายเก่า) บ้าน กม.36 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา ทำให้ทหารบาดเจ็บ 5 นาย เมื่อไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบหลุมระเบิดบริเวณคอสะพานบ้าน กม.36 กว้างประมาณ 1 เมตร พบรถฮัมวี่ของชุด รปภ.ครูโรงเรียนบ้านใหม่วันครู พลิกตะแคง รอบๆ พบร่างทหารนอนร้องครวญครางอยู่ข้างรถฮัมวี่ 5 นาย คือ จ.ส.อ.สำรวย พิมพ์โมธี อายุ 45 ปี ส.อ.แดง ปรงสมัย อายุ 25 ปี ส.ท.ภัทรพงษ์ ยะแก้ว อายุ 23 ปี พลฯวีรพงษ์ ยั่งยืน อายุ 21 ปี และ พลฯวิกรม พรเมือง อายุ 21 ปี ซึ่งทั้งหมดเป็นทหารร้อย ม.3 พัน 135 ฉก.ยะลา 16 จึงได้ให้เจ้าหน้าที่จากหน่วยกู้ภัยเบตงและหน่วยกู้ภัยตำบลอัยเยอร์เวงนำร่างผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งไปยังโรงพยาบาลเบตง
สอบสวนทราบว่าขณะที่ จ.ส.อ.สำรวย พิมพ์โมธี พร้อมพวก 8 นาย โดยมี รถจักรยานยนต์นำหน้า 1 คันพร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร 2 นายและตามด้วยรถฮัมวี่ มีเจ้าหน้าที่ทหารอยู่ประจำรถ 4 นายและมีรถจักรยานยนต์ตามหลังอีก 1 คัน 2 นายออกจากฐานปฏิบัติการที่วัด กม.29 หมู่ 3 ต.อัยเยอร์เวง ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 7 กม.และห่างจาก สภ.อัยเยอร์เวง เพียง 300 เมตรปฏิบัติภารกิจดูแลรักษาความปลอดภัยให้คณะครูและประชาชนในพื้นที่
เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวบริเวณคอสะพานทำให้รถฮัมวีและทหารที่นั่งมากับรถรวมทั้งทหารที่ขับขี่รถจักรยานยนต์นำหน้าต่างกระเด็นไปคนละทิศละทาง หลังจากนั้นชุดที่ถูกลอบวางระเบิดตั้งสติได้จึงวิทยุขอความช่วยเหลือดังกล่าว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายมีประมาณ 6 คนและมานั่งดักรอเจ้าหน้าที่ทหารชุดลาดตระเวนล่วงหน้า รปภ.ครู ซึ่งคาดว่าเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 15 กิโลกรัมจุดชนวนด้วยระบบแบตเตอรี่ ในเบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นฝีมือของนายอิสมาแอล ระยะหลง หรือ "อุสตาซโซ๊ะ" แกนนำระดับสั่งการ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เคลื่อนไหวของนายอิสมาแอล แกนนำก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ อ.บันนังสตา อ.ธารโต และ อ.เบตง จ.ยะลา
**ครูเครียดเหตุป่วนใต้ส่อแรง
ด้านนายบุญสม ทองศรีพลาย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า สถานการณ์ชายแดนภาคใต้ในช่วงนี้เริ่มกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้นต่อเนื่องตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งจะด้วยเหตุผลทางการเมืองที่ยังไม่สามารถกำหนดนโยบายและแนวทางการดำเนินงานภายใต้การนำของรัฐบาลชุดใหม่ หรือจะเป็นเรื่องของการสร้างสถานการณ์รายวันแต่บังเอิญเกิดในช่วงเวลาคาบเกี่ยวกันหรือไม่นั้นเป็นเรื่องที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งดูแลควบคุมสถานการณ์โดยตรง แต่ในฐานะของประชาชนในขณะนี้ยอมรับว่ากังวลใจกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้นอีก
ล่าสุดคนร้ายลอบยิงครูอัตรคาจ้างโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาในพื้นที่ จ.ปัตตานีเสียชีวิต ซึ่งทำให้สร้างแรงกระเพื่อมทางความรู้สึกให้กับครูในพื้นที่เพิ่มระดับความกลัวขึ้นมาอีกครั้งไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตามแต่ด้วยความเป็นวิชาชีพเดียวกัน ทำให้อดเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของครูที่ต้องตกเป็นเป้าหมายเสี่ยงอย่างเลี่ยงไม่ได้ ในขณะที่ก่อนหน้านี้ได้เกิดระเบิดหลายลูกขึ้นในสวนยางพาราของชาวบ้านในพื้นที่ จ.ยะลา ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดปฎิเสธไม่ได้ว่าได้กระทบต่อขวัญและกำลังใจของครู
"ทุกครั้งที่บ้านเมืองวุ่นวาย หรือรัฐบาลไม่มีความเป็นเสถียรภาพ หรือกระทั่งอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงจากรัฐบาลเก่าสู่รัฐบาลใหม่มักจะเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ล้อไปกับสถานกาณ์ทางการเมืองอยู่เสมอ เช่นเดียวกับครั้งนี้ที่หลังการเลือกตั้งก็เริ่มมีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้น ซึ่งอาจเป็นหนึ่งในรูปแบบการแสดงออกเพื่อเรียกร้องความสนใจจากรัฐบาลต่อแนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ เนื่องจากจนถึงขณะนี้แนวทางการทำงานต่างๆของรัฐบาลชุดใหม่ยังไม่ชัดเจน" นายบุญสม กล่าว
เมื่อเวลา 08.45 น.วานนี้ (12ก.ค.) พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐ์พันธุ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.)ปัตตานี ได้รับรายงานทางวิทยุ สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานีว่า เมื่อเวลา 22.30 น.คืนวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา มีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงในร้านน้ำชาในหมู่บ้านไม่มีชื่อไม่มีบ้านเลขที่ ม.3 บ้านพ่อมิ่ง ต.พ่อมิ่ง อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือ นายอัฮมัด สะมะแฮ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/1 ม.4 ต.พ่อมิ่ง อ.ปะนาเระ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน 9 มม.เข้าบริเวณศีรษะ 1 นัดหน้าอก 2 นัด
จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายเป็นครูสอนรับจ้างโรงเรียนพ่อมิ่ง ก่อนเกิดเหตุได้เดินทางออกจากบ้านและมาดื่มน้ำชากับเพื่อนบ้านที่ร้านที่เกิดเหตุ โดยมีชาวบ้านนั่งกระจัดกระจายภายในร้าน ขณะนั้นได้มีคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน รวม 4 คน มาจอดที่หน้าร้าน และ 1 ใน 4 ได้ลงจากรถ และเดินเข้าไปในร้านที่โต๊ะผู้ตาย และใช้ปืนกระหน่ำยิงที่ศีรษะ 1 นัดล้มลง จากนั้นคนร้ายยิงซ้ำที่หน้าอกอีก 2 นัดจนแน่ใจว่าเสียชีวิต และหลบหนีไป
ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ หรืออาจจะเป็นเรื่องส่วนตัว
**บึ้มถล่ม“ฮัมวี่”รปภ.ครูเบตงเจ็บ5
ต่อมาเวลา 16.00 น.ร.ท.สุชิน วังชิ้น ผบ.ร้อย.ม.3 ฉก.ยะลา 16 ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารบนถนนสาย 410 ยะลา-เบตง(สายเก่า) บ้าน กม.36 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา ทำให้ทหารบาดเจ็บ 5 นาย เมื่อไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบหลุมระเบิดบริเวณคอสะพานบ้าน กม.36 กว้างประมาณ 1 เมตร พบรถฮัมวี่ของชุด รปภ.ครูโรงเรียนบ้านใหม่วันครู พลิกตะแคง รอบๆ พบร่างทหารนอนร้องครวญครางอยู่ข้างรถฮัมวี่ 5 นาย คือ จ.ส.อ.สำรวย พิมพ์โมธี อายุ 45 ปี ส.อ.แดง ปรงสมัย อายุ 25 ปี ส.ท.ภัทรพงษ์ ยะแก้ว อายุ 23 ปี พลฯวีรพงษ์ ยั่งยืน อายุ 21 ปี และ พลฯวิกรม พรเมือง อายุ 21 ปี ซึ่งทั้งหมดเป็นทหารร้อย ม.3 พัน 135 ฉก.ยะลา 16 จึงได้ให้เจ้าหน้าที่จากหน่วยกู้ภัยเบตงและหน่วยกู้ภัยตำบลอัยเยอร์เวงนำร่างผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งไปยังโรงพยาบาลเบตง
สอบสวนทราบว่าขณะที่ จ.ส.อ.สำรวย พิมพ์โมธี พร้อมพวก 8 นาย โดยมี รถจักรยานยนต์นำหน้า 1 คันพร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร 2 นายและตามด้วยรถฮัมวี่ มีเจ้าหน้าที่ทหารอยู่ประจำรถ 4 นายและมีรถจักรยานยนต์ตามหลังอีก 1 คัน 2 นายออกจากฐานปฏิบัติการที่วัด กม.29 หมู่ 3 ต.อัยเยอร์เวง ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 7 กม.และห่างจาก สภ.อัยเยอร์เวง เพียง 300 เมตรปฏิบัติภารกิจดูแลรักษาความปลอดภัยให้คณะครูและประชาชนในพื้นที่
เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวบริเวณคอสะพานทำให้รถฮัมวีและทหารที่นั่งมากับรถรวมทั้งทหารที่ขับขี่รถจักรยานยนต์นำหน้าต่างกระเด็นไปคนละทิศละทาง หลังจากนั้นชุดที่ถูกลอบวางระเบิดตั้งสติได้จึงวิทยุขอความช่วยเหลือดังกล่าว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายมีประมาณ 6 คนและมานั่งดักรอเจ้าหน้าที่ทหารชุดลาดตระเวนล่วงหน้า รปภ.ครู ซึ่งคาดว่าเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 15 กิโลกรัมจุดชนวนด้วยระบบแบตเตอรี่ ในเบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นฝีมือของนายอิสมาแอล ระยะหลง หรือ "อุสตาซโซ๊ะ" แกนนำระดับสั่งการ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เคลื่อนไหวของนายอิสมาแอล แกนนำก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ อ.บันนังสตา อ.ธารโต และ อ.เบตง จ.ยะลา
**ครูเครียดเหตุป่วนใต้ส่อแรง
ด้านนายบุญสม ทองศรีพลาย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า สถานการณ์ชายแดนภาคใต้ในช่วงนี้เริ่มกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้นต่อเนื่องตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งจะด้วยเหตุผลทางการเมืองที่ยังไม่สามารถกำหนดนโยบายและแนวทางการดำเนินงานภายใต้การนำของรัฐบาลชุดใหม่ หรือจะเป็นเรื่องของการสร้างสถานการณ์รายวันแต่บังเอิญเกิดในช่วงเวลาคาบเกี่ยวกันหรือไม่นั้นเป็นเรื่องที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งดูแลควบคุมสถานการณ์โดยตรง แต่ในฐานะของประชาชนในขณะนี้ยอมรับว่ากังวลใจกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้นอีก
ล่าสุดคนร้ายลอบยิงครูอัตรคาจ้างโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาในพื้นที่ จ.ปัตตานีเสียชีวิต ซึ่งทำให้สร้างแรงกระเพื่อมทางความรู้สึกให้กับครูในพื้นที่เพิ่มระดับความกลัวขึ้นมาอีกครั้งไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตามแต่ด้วยความเป็นวิชาชีพเดียวกัน ทำให้อดเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของครูที่ต้องตกเป็นเป้าหมายเสี่ยงอย่างเลี่ยงไม่ได้ ในขณะที่ก่อนหน้านี้ได้เกิดระเบิดหลายลูกขึ้นในสวนยางพาราของชาวบ้านในพื้นที่ จ.ยะลา ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดปฎิเสธไม่ได้ว่าได้กระทบต่อขวัญและกำลังใจของครู
"ทุกครั้งที่บ้านเมืองวุ่นวาย หรือรัฐบาลไม่มีความเป็นเสถียรภาพ หรือกระทั่งอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงจากรัฐบาลเก่าสู่รัฐบาลใหม่มักจะเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ล้อไปกับสถานกาณ์ทางการเมืองอยู่เสมอ เช่นเดียวกับครั้งนี้ที่หลังการเลือกตั้งก็เริ่มมีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้น ซึ่งอาจเป็นหนึ่งในรูปแบบการแสดงออกเพื่อเรียกร้องความสนใจจากรัฐบาลต่อแนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ เนื่องจากจนถึงขณะนี้แนวทางการทำงานต่างๆของรัฐบาลชุดใหม่ยังไม่ชัดเจน" นายบุญสม กล่าว